(อาจจะไม่เป็นไปตามขั้นตอน จากง่ายไปยาก
เพราะผมใช้วิธีการค้นภาพในระบบถอยหลังไปเรื่อย ๆ
คิดว่า ภาพใดเกี่ยวข้องนำทางอธิบายได้ ก็เลือกภาพนั้นไว้ก่อน
แล้วจึงเขียนธรรมอรรถาธิบายตามภาพไปเรื่อย ๆ หนอ)
ปฏิบัติธรรมทำไม ?
ความจริงของชีวิต คือ พระไตรลักษณ์ (อนิจจัง + “ทุกขัง” + อนัตตา)
การจะเห็นความจริงนี้ได้ จะต้องอาศัย สติ สมาธิ และ “ปัญญา”
เมื่อไม่เห็นชีวิตตามเป็นจริง ก็เผลอหลงคิดปรุงแแต่ง มั่วไปตามอำเภอใจ
วิธีการตัดโซ่สังสารวัฏ ท่านจะเลือกข้อใด ข้อหนึ่ง
ที่ผมชอบที่สุด คือ การตัดข้อ “สังขาร” ความคิดปรุงแต่ง
กับคำถามที่ว่า แล้วในยาม “สุข” ต้องตัดด้วยไหม ?
ทุกข์ ก็ต้องวาง ต้องตัด
สุข ก็เช่นเดียวกัน ก็ต้องตัด ต้องวาง
แต่ปุถุชนเรา ที่อินทรีย์ยังไม่แก่กล้าพอ จะให้วางได้ทันทีทันใดนั้น กำลังมันไม่พอ
และเอาเข้าจริง ๆ หลายคน เห็นก็ยังไม่เห็น จะให้วางอะไร ?
กล่าวคือ ผู้ที่ฝึกตนใหม่นั้นส่วนใหญ่ยังไม่เห็นการคิด ยังไม่เห็นความคิด
จะต้องเพียรฝึกสติ สมาธิ ปัญญา จนสามารถเข้าสู่สภาวะ “จิตรวม”
หรือการว่ายน้ำเป็นทางธรรม จึงจะพอรอดได้ หนอ 555
เมื่อเห็นจิตแล้ว ต้องฝึกแยกธาตุแยกขันธ์ก่อน จึงจะเห็น สังสารวัฏ เห็น ปฏิจจสมุปบาท ได้
และจึงเลือกตัดโซ่ข้อที่ต้องการฝึกตัด สาธุ
ระหว่างฝึกแยกธาตุแยกขันธ์อยู่นั้น
ผมชอบวิธีการอธิบายของศาสตร์จิตตปัญญาศึกษา
ที่กล่าวถึง ชีวิต 2 โหมด คือ โหมดปกติ กับ โหมดปกป้อง
กล่าวคือ เราต้องนำพาตนเองออกจากโหมดปกป้องให้เข้าสู่โหมดปกติ
ให้เร็วขึ้นเรื่อย ๆ บ่อย ๆ โดยให้ชีวิตอยู่ในโหมดปกติ หรือ มีสติสัมปะชัญญะนานและบ่อยที่สุด
ฝึกไปเรื่อย ๆ เราจะเข้าใจสภาวะของการไม่ใช้การคิด (คือ ยังคิดอยู่ แต่ไม่ใช้มัน)
เราจะสังเกตุว่า ในการนั่งสมาธิอย่างเป็นระบบนั้น เป็นการฝึกสติเพื่อปล่อยวาง “ความคิด”
การบริกรรมพุทโธก็เป็นการกรองอารมณ์ กรองความคิดออก คือ ให้อยู่กับอารมณ์เดียว อารมณ์พุทโธ
ซึ่งเป็นกุศล เพื่อปล่อยวางและออกจากการคิด นั่นเอง หนอ
ไม่มีความเห็น