GotoKnow

ธรรมาภิบาลในอุดมศึกษา

Prof. Vicharn Panich
เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2565 19:25 น. ()

 

ข่าว (๑) ระบุว่า ศ. พิเศษ ดร. อเนก เหล่าธรรมทัศน์ มุ่งสร้างระบบถ่วงดุล แก้ปัญหาธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัย    ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก    โดยท่านกล่าวย้ำประเด็นสำคัญใน แนวปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔ (๒)   

แต่เราต้องเข้าใจว่าเรื่องธรรมาภิบาลเป็นเรื่องที่ซับซ้อน มีหลายแง่หลายมุม ไม่ตรงไปตรงมา    ไม่มีมาตรการใดที่จะแก้ปัญหาได้ทุกมหาวิทยาลัย ทุกปัญหาที่มีเรื้อรังในมหาวิทยาลัยไทย    โดยที่หลายประเด็นไม่เชิงเป็นปัญหา   แต่เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่นำไปสู่ปัญหาได้ง่าย    มาตรการตาม (๒) จึงไม่เพียงพอในการใช้กลไกธรรมาภิบาลในการสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่มหาวิทยาลัย   

ธรรมาภิบาลไม่ใช่เพียงเพื่อความราบรื่นเท่านั้น    แต่ต้องเพื่อความเจริญก้าวหน้าด้วย    และมหาวิทยาลัยสร้างความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการด้วยวัฒนธรรมของความเป็นอิสระในความคิดความเชื่อ  เคารพข้อคิดเห็นที่แตกต่าง     ให้คุณค่าข้อมูลหลักฐาน    คือสังคมมหาวิทยาลัยต้องเป็นสังคม diversity  ไม่ใช่สังคม conformity แบบทหาร   

ธรรมาภิบาลต้องไม่ใช่แค่เพื่อความราบรื่นทางการเมืองในมหาวิทยาลัย    แต่ต้องเพื่อความก้าวหน้าทางวิชาการเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก   เราต้องช่วยกันสร้างระบบธรรมาภิบาลเพื่อเป้าหมายนี้เป็นสำคัญ    ซึ่งหากเน้นเรื่องนี้ ตัวแทนบุคลากร (รวมอาจารย์) ต้องมีเกณฑ์ในข้อบังคับให้เป็นบุคคลที่มีผลงานเด่นด้านต่างๆ เข้าไปเป็นกรรมการสภาไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของตัวแทนบุคลากร    เราก็จะได้กรรมการสภาที่เข้าไปให้มุมมองเพื่อสร้างระบบเพื่อความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการ   

ผมมีความเชื่อว่า governance ในมหาวิทยาลัยต้องมีมิติของ self-governance อยู่ด้วย    ทั้งในกฎข้อบังคับ  และในวัฒนธรรมองค์กร   

คือผมเชื่อว่า self-governance มีทั้งมิติด้านกฎหมาย และมิติด้านสังคมวัฒนธรรม   เราต้องช่วยกันสร้างวัฒนธรรมองค์กรมหาวิทยาลัยที่ช่วยสร้างการรวมตัวกันเพื่อทำประโยชน์ให้แก่สังคมในฐานะของอุดมศึกษา     ที่ยกย่องคนดีมีความสามารถและทำเพื่อส่วนรวม    ไม่ใช่สนับสนุนคนที่มุ่งแสวงหาตำแหน่ง แลกกับการตอบแทนผลประโยชน์แก่ผู้สนับสนุน   มหาวิทยาลัยใดมีสภาพสังคมแบบหลัง   ย่อมตกต่ำ    และควรมีมาตรการช่วยฟื้นสภาพสังคมวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยนั้นๆ เป็นการชั่วคราว   ซึ่งหากจะตั้งวงปรึกษาหารือเพื่อหาแนวทางดำเนินการ ผมยินดีเข้าร่วม   เพราะผมเคยใช้วางรากฐานวัฒนธรรมองค์กรของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อ ๔๐ ปีก่อน   

สถาบันอุดมศึกษาต้องไม่ใช้ระบบ governance แบบการเมืองระดับประเทศ   ต้องใช้ระบบ governance ของอุดมศึกษา    เน้นเพื่อการทำหน้าที่ทางวิชาการให้แก่บ้านเมือง    ใช้พลังของคนที่ประสบความสำเร็จด้านวิชาการ เข้ามานั่งในสภามหาวิทยาลัย   และมุ่งสร้างวัฒนธรรมองค์กรวิชาการ   ไม่ใช่วัฒนธรรมองค์กรการเมือง      

วิจารณ์ พานิช

๙ ม.ค. ๖๕

 

   

สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ

ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย