วารสารวิชาการกับบทบาท advocacy
บทบรรณาธิการของวารสาร Science เรื่อง The lessons of Lander และเรื่อง Science and social media ลงในวารสารฉบับวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ สะกิดให้ผมนึกถึงหัวข้อบันทึกนี้
ไม่ว่าวงการใด ต้องแสดงบทบาททางการเมืองด้วยเสมอ โดยเน้นที่เป้าหมายความเจริญก้าวหน้า ความมั่นคงของสังคม ไม่ใช่เล่นการเมืองเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์
ในบทบรรณาธิการเรื่อง Science and social media ผู้เขียนใช้คำว่า “public resistance to facts” ที่สะกิดให้ผมนึกถึงคำ manipulation of facts ซึ่งหมายถึง fake news นั่นเอง เราอยู่ในสังคมที่มีทั้งข่าวจริง ข่าวลวง ในสังคมมีทั้งคนที่มั่นคงในคุณธรม และคนที่ทำอะไรก็ได้เพื่อผลประโยชน์ของตน ผู้เขียนคือ H. Holden Thorp เล่าการโต้ตอบทาง Twitter กับที่ปรึกษาของ ปธน. ทรัมป์ ในขณะนั้น
ในวารสารเล่มเดียวกัน มีบทความเรื่อง Social Media and Shared Reality แนะนำหนังสือชื่อ Off the Edge ว่าด้วยเรื่อง ทฤษฎีสมคบคิด (conspiracy theory) เรื่องโลกแบน สะท้อนให้เห็นว่า ในโลกแห่งความเป็นจริงของสังคมมนุษย์ มีสิ่งลวงอยู่ทั่วไป คนเราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมโดยไม่ถูกพิษของความลวง
วิจารณ์ พานิช
๑๒ ก.พ. ๖๕
I have had a thought that “science is not pure” (when I read many years ago about the discovery of helix structure of DNA and later about the hardening of rubber). Science is developing from many motivations including ‘humanistic’ ones like greed/money, vanity/fame and love/bias.
So, this is just the same as ‘society development’.