เช้าวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ มีการประชุม review ข้อเสนอของทีมบริหารโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง ของ กสศ. ที่มี อ. เพ็ญพรรณ จิตตะเสนีย์ เป็นหัวหน้าโครงการ ดำเนินการ ๑ ปี ช่วง พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕ ซึ่งถือเป็นช่วงวิกฤติโควิดของประเทศไทย และท้าทายระบบการศึกษาไทยเป็นอย่างยิ่ง
หลังอ่าน TOR และข้อเสนอโครงการ ผมก็เห็นช่องโหว่ใหญ่ ๓ ด้าน คือ (๑) ไม่ได้คำนึงถึงการเผชิญสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโควิดจนโรงเรียนทั่วประเทศต้อง teach at home ในขณะนี้ (๒) คำนึงถึงการจัดการที่รับรู้การดำเนินการระดับโรงเรียนน้อยไป โดยที่ผมเคยเสนอไว้ที่ (๑) ให้จัดการแบบแยกแยะโรงเรียนที่มีผลดำเนินการดีเยี่ยมออกมาจัดการเพื่อเป็นพลังสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ และ (๓) คำนึงถึงการจัดการที่รับรู้ CLO (core learning outcome) ของนักเรียนน้อยไป
ในอีกบันทึกหนึ่ง ผมเสนอการจัดการโครงการนี้แบบค้นหา (๒) ดังนั้น ภาพใหญ่ประเด็นที่ (๔) ที่จะต้องคำนึงถึงคือ การจัดการเชิงรุก เพื่อค้นหานวัตกรรมเล็กๆ ในระดับโรงเรียน สำหรับเอามาสื่อสารสร่งการเปลี่ยนแปลงของระบบการศึกษาภาพใหญ่
ผมมุ่งทำหน้าที่จับประเด็นภาพใหญ่ (macro picture) เพราะผู้ทรงคุณวุฒิท่านอื่นๆ เก่งมากในการจับประเด็นเชิงเทคนิค และเชิงรายละเอียด เป้าหมายสำคัญคือ ช่วยกันทำให้โครงการนี้ก่อผลสำเร็จในลักษณะที่มีโรงเรียนจำนวนหนึ่งเกิดสมรรถนะและวัฒนธรรมการทำงาน ที่มีการพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง และข้อเรียนรู้จากโครงการนี้ก่อแรงกระเพื่อมสู่การเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาภาพใหญ่ ในลักษณะที่เป็นการเปลี่ยนระดับ transformation
วิจารณ์ พานิช
๑๓ ส.ค. ๖๔
ไม่มีความเห็น