ท่านนบี ได้ย้ำเตือนแก่มนนุษย์ว่า ความรู้ที่มีประโยชน์นั้นเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับมนุษย์มากกว่าทรัพย์สินเงินทอง เพราะทรัพย์สินไม่สามารถตามติดตัวเขาไปในหลุมฝังศพได้ ความรู้ที่ยังประโยชน์สำหรับผู้เสียชีวิต คือความรู้ในหลักการศาสนาที่เขาได้ศรัทธา ได้ปฏิบัติ และได้เคยเผยแพร่ไว้เมื่อครั้งที่มีชีวิต อันเป็นความรู้ที่ได้รับผลบุญแก่เขาเอง และมีผลบุญในการเผยแผ่ให้แก่ผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง
บรรดาผู้แสวงหาความรู้ มีตำแหน่งและหน้าที่เป็นผู้รับมรดกจากบรรดานบีและบรรดาร่อซูล เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ศึกษาหาความรู้ก็เท่ากับว่าพวกเขากำลังทำหน้าที่เป็นผู้สืบทอดมรดกอันล้ำค่าของบรรดานบีและร่อซูล ดังหะดีษของท่านนบี ที่ท่านได้กล่าวว่า
فَضْلُ الْعَالِمِ عَلَى الْعَابِدِ كَفَضْلِ الْقَمَرِ لَيْلَةَ الْبَدْرِ عَلَى سَائِرِ الْكَوَاكِبِ، وَإِنَّ الْعُلَمَاءَ وَرَثَةُ الأَنْبِيَاءِ،وَإِنَّ الأَنْبِيَاءَ لَمْ يُوَرِّثُوْا دِيْنَارًا وَلاَ دِرْهَمًا، وَلَكِنْ وَرَّثُوْا الْعِلْمَ، فَمَنْ أَخَذَهُ أَخَذَ بِحَظٍّ وَافِرٍ رواه أبوداود
“ความประเสริฐของผู้รู้ที่โดดเด่นเหนือผู้ปฏิบัติอิบาดะฮฺ เปรียบเสมือนความประเสริฐของดวงจันทร์ในคืนจันทร์เพ็ญ ที่โดดเด่นเหนือดาวดวงอื่นๆ และแท้จริงบรรดาอุละมาอฺคือทายาทผู้รับมรดกจากบรรดานบี
และแท้จริงบรรดานบีไม่ได้ทิ้งมรดกแม้แต่หนึ่งดีนารหรือหนึ่งดิรฮัม แต่ทว่าพวกเขาได้ทิ้งมรดกแห่งความรู้ ดังนั้นผู้ใดรับมรดกแห่งความรู้ (จากพวกเขา)แท้จริงเขาได้รับเอาส่วนแบ่งที่ครบถ้วนสมบูรณ์”
(รายงานโดยอบูดาวูด )
ที่มา : https://www.islammore.com/view/3913
ไม่มีความเห็น