วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม 2564 ผมไปออกกำลังกายตอนเช้าด้วยการวิ่งที่สวนสุขภาพหลังจากฉีดวัคซีนมา 5 วัน
เป็นวันแรกที่เริ่มวิ่งเบาๆ หลังจากกลับจากการวิ่งกำลังจอดรถเข้าบ้าน
ภรรยามองไปเห็นหญ้าที่หน้าบ้านรกก็บอกว่าให้เอารถเข็นตัดหญ้าของบ้านตามาใสตัดหญ้า น่าจะใช้เวลาไม่นานเพราะรถตัดหญ้าเป็นคันใหญ่ตัดได้เร็ว สามารถตัดหญ้ายาวๆ ได้
หลังจากที่จอดรถเข้าบ้านเรียบร้อยแล้วผมก็เดินไปหยิบขวดน้ำมันเบนซินที่ผสมน้ำมันโอตาลูปไว้เรียบร้อยแล้วเดินลอดไปบ้านตาบอกกับพ่อของภรรยาว่าขอยืมรถตัดหญ้าไปตัดหญ้าหน้าบ้านหน่อย พ่อบอกให้เอารถคันใหญ่ผมเดินไปดูที่รถดูน้ำมันในถังน้ำมันมีน้ำมันอยู่ครึ่งถัง
ผมจึงเติมน้ำมันที่ผสมเรียบร้อยแล้วลงไปในถังเปิดผ้าคลุมของรถตัดหญ้าพบว่ายางล้อ
ลดแบนติดพื้น 1 เส้น
ดังนั้นผมจึงเดินไปสตาร์ทเครื่องสูบลมของที่บ้านสูบลมเข้ายางรถตัดหญ้า เสร็จแล้วมาลองสตาร์ทดูเนื่องจากไม่ค่อยได้ใช้รถตัดหญ้าคันนี้เท่าไหร่เวลาสตาร์ทผมก็สตาร์ทได้ยาก ต้องหาว่าโช๊คกับคันเร่งอยู่ตรงไหน
ผมมองไปที่ใบตัดหญ้าบริเวณด้านหน้าดูแล้วไม่มีแผ่นป้องกันการกระเด็นของเศษหินหรือเศษหญ้าขณะตัด
นึกในใจเดี๋ยวเราขึ้นไปใส่กางเกงยีนส์สวมหมวกกันน็อคเพื่อป้องกันไม่ให้เศษสิ่งของกระเด็นมาโดนร่างกายเรา
ทุกครั้งที่น้องชายที่จังหวัดชลบุรีตัดหญ้าเขาจะสวมชุดป้องกันอย่างดีใส่กางเกงยีนส์ขายาวใส่หมวกกันน็อค
แต่ผมนึกในใจหญ้าหน้าบ้านเราไม่มีอะไรมากแค่นิดเดียวเดี๋ยวเราเอารถเข็นไสแป๊บเดียวจะได้รีบไปอาบน้ำเพราะเหงื่อจากการวิ่งก็เต็มตัวอยู่แล้ว
ว่าแล้วผมก็เข็นรถตัดหญ้าออกไปตัดหญ้าที่หน้าบ้านต้องคอยระวังหน้าบ้านมีเศษปูนทิ้งอยู่ทำให้ต้องคอยเข็นและระมัดระวัง
เครื่องตัดหญ้ามีกำลังแรงมากเวลาปั่นเสียงดังลั่นไปหมด ผมเข็นรถตัดหญ้าตัดหญ้าจนหมดบริเวณหน้าบ้าน
ดับเครื่องกำลังเข็นกลับจะเข้าบ้านอยู่แล้วมองไปทางด้านขวามือมีหญ้าอีกเล็กน้อยตรงบริเวณถังขยะ เลยวางขวดน้ำมันแล้วหันไปสตาร์ทเครื่องรถตัดหญ้าอีกครั้งเข็นไปตัดหญ้าตรงบริเวณที่หมายใจไว้ว่าจะได้สะอาด
พอตัดหญ้าไปได้แป๊บเดียวเสียงใบมีดตัดหญ้ากระทบกับเศษหิน กระเด็นมาโดนขา มองไปที่เท้าตัวเองเห็นว่ามีเลือดออกจากน่องไหลเต็มพื้นไปหมด
ผมรีบดับเครื่องตัดหญ้าแล้วมองลงไปที่พื้นพม่าสิ่งที่กระเด็นมาโดนขาไม่ใช่เศษหินแต่มันคือกระจกที่มีคนใส่ถุงนำมาทิ้งไว้หน้าบ้านเพื่อรอให้เทศบาลมาเก็บขยะไป
แต่เนื่องจากเขาวางไว้กับพื้นทำให้เทศบาลไม่ได้เก็บไปและหญ้าก็ยาวปกคลุมทำให้กระจกถูกซุกอยู่บริเวณต้นหญ้าเมื่อผมเข็นรถตัดหญ้าไปมันจึงปั่นเอากระจกแตกเป็นชิ้นๆ และกระเด็นมาบาดที่ขาผม
ผมรีบดับเครื่องตัดหญ้าและเข็นกลับเข้าบ้านเรียกภรรยาบอกว่าให้ส่งผมไปที่โรงพยาบาลเพื่อเย็บหน่อย
เพราะดูจากบาดแผลแล้วปากบาดแผลเปิดกว้างเลือดไหลออกมาก
ผมล้างบาดแผลด้วยน้ำเปล่าพยายามเอามืออุดปิดบากบาดแผลไว้แต่เลือดออกมาทำอย่างไรเลือดก็ไม่หยุดไหล
ภรรยาวิ่งกลับไปบ้านหยิบกระดาษทิชชูส่งมาให้ 1 ม้วนผมนำกระดาษทิชชู่มาปิดบริเวณแผลไว้แต่เลือดก็ไม่หยุดไหลต้องใช้กระดาษทิชชูถึง 2-3 ครั้งเลือดจึงพอหยุดไหลได้บ้าง
แต่ที่พื้นของแผ่นรองพื้นรถก็เต็มไปด้วยเรื่อยๆเมื่อไปถึงโรงพยาบาลพนักงานเปลนำรถเข็นมารอรับและนำผมเข้าไปในห้องฉุกเฉินพยาบาลถามว่าไปโดนอะไรมาผมก็แจ้งสาเหตุไป
พยาบาลก็ดำเนินการล้างเศษหญ้าทำความสะอาดบริเวณปากบาดแผลแล้วบอกว่าจะขอฉีดยาชา
ดูแล้วเขาฉีดยาชาไปประมาณ 3-4 เข็มเจ็บเล็กน้อยผมรู้สึกได้ว่าพยาบาลกำลังเอาอะไรทิ่มๆไปบริเวณขาแล้วถามผมว่าชาหรือยังผมบอกว่ายังไม่ชาเมื่อเช้าดื่มกาแฟมา
"พยาบาลบอกว่าตรงแผลเริ่มชาหรือยัง"
"ผมบอกว่ายังรู้สึกเล็กน้อย"
สักพักหนึ่งพยาบาลก็ทำอะไรกับบริเวณแผลแต่ผมเริ่มไม่รู้สึกเจ็บบริเวณแผลแล้วแสดงว่ายาชาเริ่มทำงาน
พยาบาลที่เย็บแผลผมดูแล้วเขาน่าจะเป็นผู้ช่วยในการดูแลคนไข้หลังจากทำการเย็บเรียบร้อยพยาบาลก็บอกว่าฝีมือเย็บแผลพอใช้ได้ฝีมือดีกว่าเมื่อวาน
ผมนี่ใจแป้ว เลยรีบบอกเขาไปว่าเย็บให้สวยๆ หน่อยนะ
เขาบอกว่าเย็บไป 4 เข็มผมนึกในใจทำไมเย็บน้อยจังกลัวแผลไม่สวย
เสร็จแล้วเขาก็ใช้ผ้าก๊อตปิดบริเวณแผลและแจ้งให้ผมไปจ่ายค่าทำแผลรับยา
ผมต้องไปล้างแผลที่โรงพยาบาลทุกวันนึกในใจช่วงนี้โควิดระบาดหนักที่โรงพยาบาลวัดโบสถ์รองรับผู้ป่วยพี่งกลับจากกรุงเทพฯ และมาติดเชื้อกับญาติพี่น้องรวมแล้วที่วัดโบสถ์มีผู้ติดเชื้ออยู่ประมาณ 15 คน
เข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลวัดโบสถ์หลายเครส นึกในใจว่าตัวเองประมาททำให้บาดเจ็บต้องมาโรงพยาบาลทุกวันเสี่ยงต่อการรับเชื้อ โควิค
ซึ่งผมต้องมาล้างแผลทุกวันเป็นเวลา 7 วันแต่ก็นึกในใจเรามาแค่วันละประมาณ 1-2 ชั่วโมง
หมอและพยาบาลด่านหน้าต้องอยู่ที่นี่ทุกวัน วันละเกือบ 8 ชั่วโมง
ดูแล้วเขาเสี่ยงกว่าเราเยอะมาก
นึกถึงพี่น้องคนไทยที่อยู่ที่กรุงเทพฯ คงหวาดระแวงกว่าเราที่อยู่บ้านนอกแบบนี้ตั้งมากมาย
ไม่มีความเห็น