ผู้มีปัญญาควรรักษาจิตที่เห็นได้ยากยิ่ง ละเอียดยิ่งชอบใฝ่หาแต่อารมณ์ที่ปรารถนาเพราะจิตที่คุ้มครองแล้วย่อมนำสุขมาให้
.....
จิตที่ดิ้นรน กวัดแกว่ง รักษายาก ห้ามยากผู้มีปัญญาสามารถควบคุมให้ตรงได้ เหมือนช่างศรดัดลูกศรให้ตรง ฉะนั้น
.........
บทความจากเพจ อ.วศิน อินทสระ
ให้ความสงบที่แท้จริงของดวงจิต
มาจากการยอมรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด
มีพุทธศาสนสุภาษิตบทหนึ่งว่า
“ไม่มีความทุกข์ใดเสมอด้วยการบริหารขันธ์
(นตฺถิ ขนฺธสมา ทุกฺขา)”
ขันธ์ในที่นี้ก็คือ ขันธ์ ๕ มีรูปขันธ์ เป็นต้น
เพียงรูปขันธ์อย่างเดียว
ก็ทุกข์แทบแย่อยู่แล้ว เห็นๆ กันอยู่
ได้สังขารขันธ์ปรุงแต่ง ปรุงคิด
ไปในทางที่ให้เกิดทุกข์ต่างๆ อีกมากมาย
..
มีผู้มาทูลถามพระพุทธเจ้าว่า
“โลกตั้งอยู่บนอะไร?”
พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า
“โลกตั้งอยู่บนกองทุกข์
(ทุกฺเข โลโก ปติฏฺฐิโต)”
..
ทุกคนมีความทุกข์
ต่างกันแต่เพียงรูปแบบเท่านั้น
คือทุกข์แบบต่างๆ สุดจะพรรณนาได้
เราจำเป็นต้องยอมรับด้วยความสงบ
เพราะเหตุที่เรายังมีขันธ์อยู่
..
ท่านหลินยู่ถังนักปราชญ์จีนได้กล่าวไว้ว่า
“ความสงบที่แท้จริงของดวงจิต
มาจากการยอมรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด”
ซึ่งมีผู้แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า
“True peace of mind comes from accepting the worst.”
...
ดังนั้น เพื่อความสงบสุขแห่งดวงจิต
เราจำเป็นต้องยอมรับความทุกข์ด้วยความสงบ
และหาทางบำบัดแก้ไขไปตามเหตุแห่งทุกข์นั้นๆ
..
ความทุกข์เป็นอริยสัจข้อหนึ่ง
ซึ่งเราจำเป็นต้องกำหนดรู้
คือทำความเข้าใจ และหาทางดับทุกข์
ตามสมควรแก่ความสามารถของเรา
..
พระพุทธเจ้าของเราตรัสย้ำอยู่เสมอว่า
“ทั้งในกาลก่อนและบัดนี้
เราสอนแต่เรื่องความทุกข์และการดับทุกข์เท่านั้น
(ปุพฺเพ จาหํ ภิกฺขเว เอตรหิ
จ ทุกฺขญฺเจว ปญฺญาเปมิ ทุกฺขสฺส จ นิโรธํ)”
----
Page Facebook.
วศิน อินทสระ
ไม่มีความเห็น