เช้าวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ผมเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการมูลนิธิโรงเรียนรุ่งอรุณ ทาง ออนไลน์ มีวาระเรื่อง รายงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ประจำปี ๒๕๖๒ ที่สรุปผลการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาโรงเรียนรุ่งอรุณ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒ รายงานว่ามี ๓ มาตรฐาน คือ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ที่ทางโรงเรียนรุ่งอรุณรายงานว่า ได้อยู่ ๒ ระดับ คือ ดีเลิศ กับยอดเยี่ยม ที่ผมงงว่าระดับไหนสูงกว่า แต่เมื่อฟังข้อคิดเห็นและข้อซักถามไปเรื่อยๆ ก็จับความได้ว่า ดีเลิศสูงกว่า
ท่านประธานมูลนิธิถามผมว่า มีความเห็นอย่างไรบ้าง ผมกราบเรียนว่า กระบวนการประเมินคุณภาพควรสนองสองเป้าหมาย คือ (๑) เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพเข้าเกณฑ์ และ (๒) เพื่อหนุนการพัฒนา
หากมีเป้าหมายข้อ (๑) เท่านั้น และรายงานเพียงระดับของการบรรลุคุณภาพ ก็มีความเสี่ยงที่ระบบประเมิน (ประกัน) คุณภาพจะสร้าง fixed mindset ขึ้นในระบบการศึกษา ซึ่งไม่ใช่ปัญหาของโรงเรียนรุ่งอรุณ
แต่ในระบบการศึกษาไทยอาจไม่ได้เป็นเหมือนโรงเรียนรุ่งอรุณ ผมจึงขอตั้งข้อสังเกตไว้ ว่าระบบประกันคุณภาพที่ใช้อยู่ในระบบการศึกษาไทย เป็นตัวการปลูกฝัง fixed mindset ขึ้นในระบบหรือไม่
วิจารณ์ พานิช
๓๐ พ.ย. ๖๓
ไม่มีความเห็น