ชีวิต..ที่เปลี่ยนแปลง จากการศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย สู่อาชีพที่หลากหลายตำแหน่ง ทั้งครูและผู้บริหาร ประสบการณ์ ๓๕ ปี ยาวนานและมาไกลเกินความคาดหวัง...
เริ่มต้นก็อยากแค่มีงานทำ ได้เป็นครูก็สมใจปรารถนาแล้ว แต่กลับไม่เพียงพอ ขอต่อยอดเพื่อแสวงหา สร้างความสำเร็จไปเรื่อยๆ จนถึงตำแหน่งสุดท้าย ผอ.ชำนาญการพิเศษ
ช่วงที่อายุน้อย ก็แข็งแรงดีมีกำลังวังชา ก้าวต่อก้าวจึงกล้าแกร่ง สู้ชีวิตและพิชิตงานมาตลอด มารู้ตัวอีกทีก็มีอายุถึง ๕๘ ปีแล้ว...
ผมเกิดปลายปี..จึงต้องไปเกษียณในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ อีกเกือบ ๓ ปีเลยทีเดียว ไม่รู้ว่านานหรือไม่นาน เมื่อคิดถึงสุขภาพและโครงการ/งานที่ยังทำไม่เสร็จ...
แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่าง หลายเรื่องราว ที่ช่วยนำหนุน กระตุ้นเสริมส่งให้มีพลังใจ ให้คิดที่จะก้าวย่างต่อไป..และไม่ต้องถามหาความสำเร็จ เพราะผ่านมาหมดแล้ว
วันนี้ เดินทางมาถึงจุดสูงสุด ของตำแหน่งเงินเดือนข้าราชการครู ระดับ ๘ (คศ.๓) วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ แต่ได้รับเงินเดือนสูงสุดในขั้นเงินเดือนของ ระดับ ๙ คือเต็มขั้นหรือตันแล้วนั่นเอง
จึงไม่ต้องพูดเรื่องเงินเดือนขึ้นอีกต่อไป จะได้รับเพียงค่าตอบแทนพิเศษ ปีละ ๒ ครั้ง หรือในรอบ ๖ เดือน ที่เขตพื้นที่จะเป็นผู้พิจารณาให้...ซึ่งก็คงไม่ได้มากมายอะไร..
เพียงแค่แปลกใจเล็กๆ ว่าผมก็มีวันนี้กับเขาเหมือนกัน ซึ่งในระดับอำเภอ เขตพื้นที่ และจังหวัดฯ จะมีแบบผมไม่มากนัก
ที่ผ่านมา..เท่าที่ผมเห็น ตลอด ๕ – ๑๐ ปี จะมีครูและผู้บริหารปีละคนสองคนเท่านั้นที่เงินเดือนสูงสุดในระดับ ๙ และจะเหลือเวลาทำงานอีก ๑ – ๒ ปีเท่านั้น ก็จะเกษียณอายุราชการ...
แต่สำหรับผม..ปีนี้.เงินเดือนตันแล้ว..แต่ต้องทำงานให้รัฐไปอีกถึง ๓ ปี
กว่าจะขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย (ปม.) ก็ต้องรอไปถึงปี ๒๕๖๕ หรือขอก่อนเกษียณอายุราชการ ๑ ปี..นั่นเอง...
ชีวิตก้าวมาได้ไกลถึงจุดนี้ มิได้เกิดขึ้นจากความเก่งกาจ แต่มีโอกาสทำงานมากกว่า หรือหนักกว่าคนอื่นเสมอ..เลือกที่จะทำมากกว่าพูด และเลือกที่อยู่ในสถานที่ที่ด้อยโอกาสและขาดแคลน
เจ้านายที่เข้าใจและเห็นใจ..ก็มักจะให้รางวัลพิเศษ ๒ ขั้น..แต่ส่วนมากจะไม่ค่อยถูกใจนายเท่าที่ควร เคยถูกบ่นว่าไม่ค่อยเข้าสังคม จ่อมจมอยู่แต่โรงเรียน เอาแต่เรื่องของตัวเอง...
บ้างก็กระแนะกระแหน..ว่า”นกไม่มีขน คนไม่เพื่อน บินสูงไม่ได้.”.ผมก็คิดในใจ..ว่าบินแบบผมนี่แหละไม่ต้องเหมือนใคร..ไม่จำเป็นต้องบินสูง แต่ก็สามารถบินได้ไกลมากกว่าอีกหลายคนด้วยซ้ำ
ผมยอมรับว่า..ยึดติดกับงานที่โรงเรียน มีวันว่างน้อยมาก เพราะต้องเตรียมการสอน ต้องสอนทุกชั้น และบริหารจัดการรอบด้าน เป็นภารโรงตลอดสัปดาห์..เป็นตัวของตัวเองมากเลย..
เจ้านายเข้าใจก็ดีไป คนที่ไม่เข้าใจ..ก็ใช่ว่าผมจะต้องแคร์ ความสุขของใครของมัน
เคยคิดที่จะลาออก เพื่อแสวงหาเรื่องราวในการเขียนหนังสือและรักษาสุขภาพให้ยืนยาว ถ้าลาออกวันนี้ได้เงินบำนาญ เดือนละ ๔๙,๐๐๐ บาท แต่ถ้าอยู่ถึงเกษียณ..จะได้รับเงินบำนาญ ๕๑,๐๐๐ บาท
ผมจึงไม่กล้าตัดสินใจ และไม่กล้าพอที่จะทิ้งเด็กและผู้ปกครอง ที่ช่วยกันประคับประคองโรงเรียนจนเติบโต มั่นคงและยั่งยืน
ไม่กล้าพอที่จะเนรคุณ...คุณบุญชู ลิ่มอติบูลย์ และผองเพื่อน ที่ช่วยก่อร่างสร้างโรงเรียนจนเป็นปึกแผ่น เสริมสร้างฐานโรงเรียนให้แน่นหนักมาถึงทุกวันนี้..
นี่คือ..ความสำเร็จ..ที่แท้จริงเหนืออื่นใด และนี่คือสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตที่พิชิตใจให้ผม มีศรัทธา กล้ายืนหยัดสู้งาน เสมือนว่าชีวิตได้ผ่านความสำเร็จมาเป็นที่เรียบร้อย วันนี้...สิ่งที่เกิดขึ้นในด้านค่าตอบแทนจึงเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น...
เพราะความสำเร็จที่แท้จริงนั้น..ย่อมไม่มีจุดหมายปลายทางที่สิ้นสุดและหยุดลง..แต่เป็นเสมือนการเดินทางที่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆโดยอาจมีจุดหมายเปลี่ยนไปเป็นระยะๆ ให้ไปถึง..แล้วก็ก้าวเดินต่อไป..สู่จุดหมายต่อไป จนกระทั่งเสร็จสิ้นภารกิจบนโลกใบนี้...
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
คงมีอีกหลายอย่างที่อยากทำใช่ไหมครับ ท่าน ผอ. ;)…