สุนทรียศาสตร์ ( AESTHETICS )
เป็นปรัชญาสาขาหนึ่งเกี่ยวกับความงามและสิ่งที่งาม. โดยศึกษาคุณค่าความงามตามประสบการณ์ของผู้รับรู้ในงานศิลปะและสิ่งเป็นธรรมชาติ.นี้คือทิศทางสุนทรียศาสตร์.
Aesthetics มาจากภาษากรีก Aisthetikos แปลว่า รู้ได้ด้วยผัสสะ
สุนทรียธาตุ มี 3 คือ
1.ความงาม (Beauty )
2.ความแปลกหูแปลกตา ( Picturesqueness )
3.ความน่าทึ่ง ( Sublimity )
สำหรับเนื้อหาของ Aesthetics แบ่งเป็น 3 สาขาคือ
1.ปรัชญาสุนทรียศาสตร์ (The Philosophy of The Aesthetic )
เน้น : ศึกษาความงาม. ความแปลกหูแปลกตา. ความน่าทึ่ง.
2.ปรัชญาศิลปะ ( The Philosophy of Art )
เน้น : คุณค่าความงาม 4 ระดับ คือ
1.ระดับสัญลักษณ์ คือ ผลงานทางสถาปัตยกรรม( Architecture )
2.ระดับคลาดสิค คือ ผลงานทางประติมากรรม( Sculpture )
3.ระดับโรแมนติก คือ ผลงานทางจิตกรรม, ดนตรี ( Painting,music )
4.ระดับสูงสุด คือ ผลงานทางกวีนิพนธ์ ( poetry, poem )
3.ปรัชญาการวิจารณ์ ( The Philosophy of Criticism ) เน้น : การตีความหรือการประเมินคุณค่าความงามทางศิลปะ
ทฤษฎีสำคัญทางสุนทรียศาสตร์
1.ทฤษฎีสุขารมณ์ หรือ รตินิยม ( Pleasure theory or Hedonism )
เน้น : ความชอบใจเฉพาะหน้าคือเป้าหมายชีวิต คนฉลาดย่อมกอบโกยเอาความชอบในในทุกโอกาส.
2.ทฤษฎีการถ่ายแบบของพลาโต้และอริสโตเติล ( Imitation theory in Plato and Aristotle ) เน้น : การถ่ายแบบ. เพราะภาพเป็นตัวแทนที่แท้จริงของวัตถุ. การวาดรูปเหมือนจริงต้องค้นหารูปแบบตายตัวและสังเกตลักษณ์ท่าทางของสิ่งนั้นเช่น คน เสือ ม้า มีท่าทางอย่างไร.
3.ทฤษฎีการสำแดงพลังอารมณ์ (The Expression Theory ) เน้น : ผลงานทางศิลปะที่กระทบจิตใจผู้ชมให้มีอารมณ์ร่วมในผลงานนั้น.
4.ทฤษฎีรหัสยะ ( The Mystic Theory ) เน้น : ผู้มีสัมผัสพิเศษจึงเข้าใจในคุณค่าความงามได้.
5.ทฤษฎีจิตวิสัย (Subjectivist theory ) เน้น : ความงามตามผู้รับรู้. เช่น เราชอบสิ่งใดสิ่งนั้นก็งามสำหรับเรา.
6.ทฤษฎีวัตถุวิสัย ( Objectivist theory ) เน้น : ความงามตามวัตถุที่เราเห็น. มันเป็นคุณสมบัติของงานทางศิลปะ.มันไม่ขึ้นอยู่กับคนชอบหรือไม่ชอบ.
.......................................................
ขอบคุณครับ คุณศุภณัฐ เจตน์ครองสุข