ความภาคภูมิใจ..ที่เป็นพยาบาล


ความภาคภูมิใจของพยาบาล อุบล จ๋วงพานิช


วันที่ 23 กันยายน 2563

            งานบริการพยาบาล รพ ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ เปิดบริการวันที่ 23 กันยายน 2518 ในโอกาสครบรอบ 45 ปี เราขอเล่าถึงความภาคภูมิใจที่เคยเป็นพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2524  ขอเล่าย้อนตั้งแต่เป็นนักศึกษาพยาบาลและเป็นพยาบาล จนเกษียณอายุราชการในปี 2561 นะคะ


จบปริญญาตรี คณะพยาบาลศาตร์ มข ปี 2523: เราจำอะไรได้บ้าง 

  • จดจำได้ว่า ตอนเป็นนักศึกษาพยาบาล เราเรียนอย่างตั้งใจ อาจารย์สอนอย่างเคร่งครัด ทั้งทฤษฏีและการปฏิบัติ แต่ที่ประทับใจมาก คือ การขึ้นวอร์ดที่ รพ ขอนแก่น เพราะการขึ้นวอร์ดแต่ละครั้งเราจะต้องใช้พลังมากมาย ต้องไปดูคนไข้และวางแผนการพยาบาลจนดึกดื่นเที่ยงคืน เพื่อไป conference ในตอนเช้า ตื่นแต่เช้าต้องเตรียมแต่งตัวชุดนักศึกษาสีฟ้า ต้องรีบไปกินข้าวเช้าด้วยจะได้มีแรงขึ้นทำงาน และรีบไปขึ้นรถไป รพ  มีอาจารย์ตามไปนิเทศดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้อบอุ่นหัวใจ ต้องไป conference กับอาจารย์ตัวต่อตัว ทำให้พวกเราพยาบาล มข พูดเป็น คิดเป็น กล้าแสดงความคิดเห็น จนบางครั้งได้ยินพี่ๆพยาบาล เปรียบเปรยว่า พวกนี้หัวแข็ง แต่เก่ง หัวไว ค่อยๆสอนไป จำได้ว่ามีพี่นักศึกษาพยาบาลปี 4 ที่อยู่ประจำตึกนั้นสอนสุขศึกษาให้กับผู้ป่วยเราก็ไปเรียนรู้ด้วย ตอนนั้นน่าจะเป็นอาจารย์เขียด เป็นคนสอนผู้ป่วยเราประทับใจมาก สอนเข้าใจง่าย 
  • สิ่งประทับใจ เราเป็นพยาบาลรุ่น 6 ค่อนข้างจะเป็นรุ่นกล้าพูด กล้าแสดงออก อาจารย์ ดร.สายหยุด นิยมวิภาต เป็นคณบดีในสมัยนั้น เห็นพวกเราชอบถกเถียง แสดงความคิดเห็นกับอาจารย์ อาจารย์ต้องนัดมาอบรมบ่มนิสัยทุกเที่ยงวันศุกร์ จำได้ไม่เคยลืม อาจารย์สอนให้เราอย่านิ่งดูดาย ให้ทำงานทุกอย่างในการดูแลคนไข้ เสื้อผ้า หน้า ผมคนไข้ต้องสะอาด เตียงก็ต้องปูให้ตึง เช็ดรอบเตียง โต๊ะข้างเตียงสะอาด จัดให้เป็นระเบียบ ดูแลคนไข้ให้ได้กินอาหารครบห้าหมู่ ดูแลการขับถ่าย เสริฟ Bed pan, Urinal ตอนแรกในใจเราก็คิดว่า ทำไม? นะเราต้องทำงานพวกนี้ เราต้องอดหลับอดนอนมาดูแลคนอื่น อย่างไรก็ตามพื้นฐานเหล่านี้ ทำให้พยาบาลของเราจัดการดูแลตึกผู้ป่วยสะอาด เรียบร้อย ที่นอนสะอาด ม่านคนไข้สะอาดไม่หลุดลุ่ย ห้องน้ำสะอาดไม่มีกลิ่น ทำงานไม่เคยไม่เกี่ยงงาน ทำงานที่หน้างานได้ทุกอย่าง
  • จำได้ดี มี Sister ครูชาวฟิลิปปินส์ มาสอนวิชาจิตเวช มีการจัดละคร drama แสดงเป็นคนโรคจิตชนิดต่างๆ ประทับใจมาก ไม่เคยลืม
  • สิ่งที่ประทับใจ อีกเรื่องคือ การไปออกคอมมูน ฝึกงาน ต้องไปนอนบ้านในหมู่บ้าน ไม่มีตู้เย็น ไม่มีพัดลม พวกเราแบ่งหน้าที่ทำงานบ้าน ได้ฝึกทำกับข้าว ถูบ้าน ทำความสะอาดห้องน้ำ ตักน้ำใส่โอ่ง ออกเยี่ยมชาวบ้าน ฝึกพูด ฝึกสัมภาษณ์ สร้างส้วม ฉายหนัง ไปช่วยทำคลอดชาวบ้านด้วย ใกล้ชิดกับอาจารย์มาก อาจารย์ใจดีกว่าที่คิด
  • อีกเรื่องที่ประทับใจที่สุดและเครียดที่สุด คือ การทำ independent study เราคิดว่าทำเสร็จแล้ว แต่ไม่เสร็จ อาจารย์ให้เรากลับไปทำเพิ่ม จากวันนั้นเราได้บทเรียนว่า เราต้องทำให้ดีและทำให้สำเร็จ จนเป็นพื้นฐานให้เราเป็นคนกัดไม่ปล่อย ทำทุกอย่างต้องเสร็จสมบูรณ์เสมอ
  • ตอนจบ ไปฝึกงานที่ รพ เลย ได้รับผิดชอบในฐานะพยาบาลเลย พี่ๆดูแลดี พาเที่ยวด้วย อาจารย์ตามไปดูแลนิเทศมีความสุขมากในช่วงเวลานั้น เรามีความภาคภูมิใจว่า เรามีความสามารถเป็นพยาบาลได้แล้วนี่
  • สรุป ตอนเรียนปริญญาตรี ยังไม่อินในการเรียนทฤษฎีการพยาบาลเท่าที่ควร จำได้เพียงต้องทำดี พูดดีกับคนไข้ทุกคน ดังนั้นมาถึงวันนี้เราไม่เคยพูดไม่ดีกับคนไข้เลย เห็นอกเห็นใจคนไข้เสมอ


จบมาทำงานมีพี่เลี้ยงที่ดี

  • เราเข้ามาทำงานแรกๆ อยู่หอผู้ป่วยอายุรกรรม 4ก รพ ศรีนครินทร์ มีพี่เลี้ยงเป็นของตนเอง คือ พี่สุภา สุทัศนจินดา คอยดูแลสอนงาน สอนการใช้ชีวิตในฐานะพยาบาล ดูแลผู้ป่วยและมารยาทในการเข้าสังคม การแต่งกายอย่างเหมาะสม และอื่นๆ มีการมอบหมายงานและนิเทศงานจากหัวหน้าหอผู้ป่วย คือ พี่ทองสมัย ยุรชัย พี่หมัยเป็นคนละเอียดละออ รอบคอบ ตรงไปตรงมาตรวจบันทึกทางการพยาบาลทุกวัน พี่หมัยมาเช้ามาก เดินตรวจรอบหอผู้ป่วย ตรวจแฟ้มประวัติและให้เราแก้ไขทันเวลาก่อนลงเวร 
  • เมื่อทำงานไประยะหนึ่ง เราต้องเป็นพี่เลี้ยงน้องใหม่เช่นกัน พาน้องทำ CQI, Nursing round, Nursing conference, Bedside nursing care, Nursing care plan, ตรวจสอบการบันทึกทางการพยาบาล นอกจากนั้นยังเป็นพี่เลี้ยงให้นักศึกษาพยาบาล ทำให้เราต้องหมั่นค้นคว้าหาความรู้ด้วย ถ้างั้นวิชาการเราจะตกยุคได้
  • ตอนแรกก่อนน้องพยาบาลใหม่ จะไปทำงานตึกไหนก็ตาม ต้องมาผ่านและฝึกที่ตึก 4 ก ด้วย เราต้องสอนน้องใหม่ให้ทำงานเป็น ดังนั้นทักษะการสอนงาน เราจึงได้ฝึกฝน
  • ใน 3 ปีแรก ของการทำงาน ทำงานในหอผู้ป่วยตลอด มีการเข้าอบรมพื้นฐานเท่าที่จำเป็น ทำให้เรารู้ว่า การทำงานข้างเตียงให้ดีตอบสนองความต้องการพื้นฐานให้กับผู้ป่วยได้ ก็จะทำให้หายป่วยได้


มีการพัฒนาสมรรถนะบุคลากรอย่างต่อเนื่อง

  • ในปี 2528 เรามีโอกาสไปอบรมเฉพาะทางผู้สูงอายุที่ รพ ศิริราช การไปที่นั่นเป็นการเกิดโลกทัศน์ใหม่สำหรับตัวเรา ทำให้รู้จักพยาบาลทั่วประเทศและรู้จักครูพยาบาลที่เก่งสุดยอดของประเทศไทย ช่วงนั้น ดร. ทัศนา บุญทอง จบ ดร.พยาบาลมาใหม่จากอเมริกา อาจารย์เป็นครูพยาบาลที่แต่งตัวสวย เก่ง พูดและยิ้ม หัวเราะเสียงดัง เรามีโอกาสเรียนทฤษฎีการพยาบาลจากอาจารย์ เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่พยายามเข้าใจว่า ทฤษฎีการพยาบาลเปรียบเสมือนแผนที่แนวคิดให้เราศึกษาและนำมาทดลองใช้ในคลินิกและทดสอบดูปรากฏการณ์ที่พบว่าเป็นไปตามทฤษฎีหรือแตกต่างกัน 
  • เมื่อกลับจากการอบรมเฉพาะทาง ปี 2528  เราได้ถูกคัดเลือกไปเป็นรองหัวหน้าฯที่ตึกอื่น แต่ด้วยการมองกาลไกลของพี่ทองสมัย ยุรชัย บอกเราว่า จะมีตึกอื่นเปิดขึ้นอีกมากมายที่เป็นเฉพาะทางด้านอายุรกรรม รอก่อนและอยู่กับพี่ต่อ ในที่สุดจึงมีเราที่เป็นหัวหน้าตึกเคมีบำบัด
  • ใน ปลายปี 2529 มีหอผู้ป่วยเคมีบำบัดเปิดรับผู้ป่วย พี่ทองสมัยส่งเราไปสัมภาษณ์ ถูกคัดเลือกเป็นหัวหน้าตึก ถูกแต่งตั้งในปี 2530 เนื่องจากเป็นองค์ความรู้เฉพาะทาง เราต้องศึกษาด้วยตนเอง และเชิญ อาจารย์หมอศรีชัย ครุสันต์ และพี่เภสัชกร มาสอนน้องๆทุกสัปดาห์ มีพี่ดวงพร สีจร เป็นผู้ตรวจการแผนกการพยาบาลบำบัดพิเศษ เราได้เรียนรู้ความสวยงามและประณีตในการดูแลสิ่งแวดล้มและมี Humanize health care  และ การ Healing environment  
  • ปี 2533 เราพัฒนามาถึงจุดหนึ่ง รู้สึกว่า องค์ความรู้ในการดูแลผู้ป่วยเราไปต่อไม่ได้ เลยคิดหาทางไปศึกษาต่อปริญญาโท คณะพยาบาลศาสตร์ มข
  • สิ่งที่เรียนจากปริญญาโท สามารถนำกลับมาใช้ในการทำงาน โดยใช้วิจัยเป็นฐาน มาพัฒนางานประจำ ในปี 2536 จบปริญญาโท กลับมาเริ่มจากวิเคราะห์ปัญหาหน้างาน พบประเด็นใดสงสัย เรามีเครื่องมือเก็บข้อมูล เช่น ศึกษาภาพลักษณ์ ความวิตกกังวล พฤติกรรมการดูแลตนเอง คุณภาพชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด จากนั้นก็หาวิธีการบำบัดทางการพยาบาลเพื่อแก้ปัญหาให้แก่ผู้ป่วย
  • ทำวิจัยเพื่อแก้ปัญหา เรื่องแรกเลย คือ การให้ข้อมูลเตรียมความพร้อม ที่ได้แนวคิดจากการทำวิทยานิพนธ์ มี รศ.ดร.สุจิตรา เหลืองอมรเลิศ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาฯ อาจารย์สอนวิธีการนำแนวคิดมาใช้ในการสร้างแผนการให้ข้อมูล การทำสื่อการสอน สิ่งนี้ถือว่าเป็นพื้นฐานให้เรามี creative thinking ต่อมาก็ทำวิจัยการวางแผนจำหน่ายในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด ได้รับรางวัล R2R Thailand เรื่องแรก
  • ต่อมาเราทำวิจัยร่วมกับทีมพยาบาลตลอดไม่เคยหยุด ตลอดการทำงาน


ได้รับโอกาสในการทำงาน

  • กลับจากเรียนปริญญาโท ปี 2536 มีโอกาสทำงานเป็นเลขาฯคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพ กับ รองหัวหน้าฯ พี่จินตนา บุญจันทร์ ทีมเราสามารถจัดทำคู่มือการพยาบาล 4 เล่ม เพื่อใช้ในการทำงาน และทำวิจัยเพื่อวิเคราะห์อัตรากำลังในสมัย พี่สุรีพันธุ์ เป็นหัวหน้าพยาบาล มีการเขียนบทความตีพิมพ์ในวารสารการพยาบาลด้วย ทำให้เราเรียนรู้การเขียนและส่งตีพิมพ์ได้
  • ต่อมามีการพัฒนาบันทึกทางการพยาบาล เพื่อนำทฤษฏีการดูแลตนเองมาใช้ในการทำงาน โดยมีพี่บุปผา ชอบใช้ เป็นประธาน ทำให้ได้รับโอกาสนั้น
  • เมื่อพี่ชูศรี คูชัยสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพยาบาลและเป็นประธานคณะกรรมการวิจัย เราก็ได้รับโอกาสเป็นเลขาฯ คณะกรรมการวิจัยมาอย่างต่อเนื่อง ต่อมา มี พี่ ดร. สุพร วงศ์ประทุม เป็นประธาน เราได้แม่แบบที่ดีสอนงาน ทำให้เราได้รับโอกาสสอนงานที่ดีไปด้วย
  • จนปี 2553 สมัยพี่จินตนา บุญจันทร์ มาเป็นหัวหน้าพยาบาล ได้รับมอบหมายให้เป็น ผู้ช่วยหัวหน้าฯพยาบาล ฝ่ายพัฒนางานวิจัย และเป็นหัวหน้าตึกเคมีบำบัดด้วย เราต้องทำงานหนักสองเท่า เราก็พอทำได้
  • ปี 2556 สมัย พี่ขาว ศิริพร มงคลถาวรชัย เป็นหัวหน้าพยาบาลเรามีโอกาสเป็น รองหัวหน้าพยาบาล ฝ่ายพัฒนาบริการสู่ความเป็นเลิศ รับผิดชอบงานที่ครอบคลุมเรื่อง วิจัย KM การพัฒนาบันไดอาชีพให้กับพยาบาล ทำให้พยาบาลเรามีพื้นฐานในการวิจัย แต่ผลงานด้านวิจัยก็ต้องติดตามต่อ ผลงานเพิ่งมีมากในช่วงขอผลงานเลื่อนระดับที่ต้องทำวิจัย ตีพิมพ์ ในที่สุดพวกเราก็ทำได้มากขึ้น ในปี 2563 
  • ได้รับโอกาสจากคณะแพทย์ มข ให้เป็นหัวหน้ากลุ่มวิจัย empowerment, R2R ทำให้มีโอกาสทำงานกับ ศ นพ สมบูรณ์ เทียนทอง อาจารย์เป็นพ่อแบบที่ดีในการทำงาน มีการวางแผนชีวิตการทำงาน มีแผนที่ตั้งไว้ ให้เดินตามและมองไปข้างหน้า 10 ปี เสมอ ทำให้เราเกิดปัญญาในการทำแผนที่ชีวิตการทำงานและมีทัศคติในการทำงานเพื่อคนอื่น อาจารย์สอนว่า ถ้าจะทำงานให้คนอื่นได้ดี ตัวเองต้องเป็นต้นแบบให้กับคนอื่นด้วย ดังนั้นเราต้องเป็น model ที่ดีก่อน
  • จากการรับผิดชอบการพัฒนางานวิจัยมาจนเกษียณ ทำให้ผลงานวิจัยของพยาบาลได้รับการตีพิมพ์มากมาย ..


พัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ

  • ถึงเราเป็นหัวหน้าตึกและผู้ช่วยหัวหน้าฯ เรายังรักงานในคลินิก มีการพัฒนางานการดูแลผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด จนได้ระบบการดูแลและมีผลลัพธ์ทางการพยาบาลที่ดี มีพยาบาลมาศึกษาดูงานมากมาย รวมทั้งมีการจัดอบรมเคมีบำบัดหลักสูตร สภาการพยาบาล 10 วัน
  • เรามีการพัฒนาสมรรถนะพยาบาลเคมีบำบัด มีการนิเทศและมอบหมายงาน จัดให้มีพี่เลี้ยงในการพัฒนางาน ทำให้พยาบาลมีความก้าวหน้าตามบันไดอาชีพทุกคน เกิดความรักในวิชาชีพ แทบจะไม่มีคนขอย้ายจากหอผู้ป่วย ยกเว้นมีความจำเป็นของครอบครัว
  • การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง มีการทำวิจัย นำผลวิจัยมาใช้และติดตามผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถขอเลื่อนระดับเป็นพยาบาลชำนาญการพิเศษ ปี 2542 APN วพย ในปี 2547 พยาบาลเชี่ยวชาญ ระดับ 9 ในปี 2552 และเป็น APN อพย ปี 2557
  • นอกจากพัฒนาตนเองในฐานะ APN แล้วเรายังรับผิดชอบการพัฒนาระบบการพยาบาลเฉพาะทาง ดูแลหน่วยการพยาบาลเฉพาะทาง และดูแลกลุ่ม APNs ทำให้เป็นที่ศึกษาดูงานระบบ APNs มีศิริราช จุฬา รพ มหาราช เชียงใหม่  สภาการพยาบาลชื่นชมพวกว่าเราเป็น APNs Khon Kaen Model 
  • ถึงวันนี้เราจะเกษียณมาแล้ว เรายังสามารถให้คำปรึกษาพยาบาลและบุคลากรอื่นๆให้มีการพัฒนาวิชาชีพโดยการทำ คู่มือการพยาบาล วิเคราะห์ สังเคราะห์และวิจัย หวังให้พยาบาลวิชาชีพเป็นพยาบาลที่ดี มีความก้าวหน้า เกิดความสุขในการทำงานต่อไป


สรุป

    การทำงานให้ดีและก้าวหน้า ต้องพัฒนาตนเองและทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม ให้คนใกล้ชิดเรามีความสุข การได้รับโอกาสในการทำงานต้องทำให้ดี มีเรียนรู้เสมอ การทำงานถึงแม้มีอุปสรรคบ้าง เราก็คิดเสียว่า สุขทุกข์เดี๋ยวก็ผ่านไป ทำให้เราแกร่งขึ้น แผ่เมตตาให้กับตนเองและผู้อื่น แล้วทุกอย่างจะสำเร็จ ชีวิตก็เป็นเช่นนี้เอง 

..........................

แก้ว อุบล จ๋วงพานิช

บันทึกความภาคภูิมใจที่ได้เป็นพยาบาล

24 กันยายน 2563


ภาพกับพยาบาล 5จ


ภาพกับอดีต รองหัวหน้าฯฝ่ายคลินิก พี่เพชรรัตน์ บุตะเขียว ที่เป็น APNs 


ภาพกับ อ. เป้า พี่น้องพยาบาลและทีมการดูแลผู้ป่วยเฉพาะทาง


ภาพกับหัวหน้าหน่วยที่ดูแลผู้ป่วยเฉพาะโรค

    หมายเลขบันทึก: 682804เขียนเมื่อ 24 กันยายน 2020 05:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 กันยายน 2020 08:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (2)

    เป็นบันทึกที่มีคุณค่ามากค่ะพี่แก้วสุดยอดจริงๆค่ะWe are Nursing KKU

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท