ผมถึงโรงเรียนเก้าโมงเช้า ลงรถเพื่อเปิดประตูรั้วโรงเรียน ที่รปภ.ปิดไว้เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ เปิดประตูแต่ไม่ทันจะเคลื่อนรถเข้าไป ก็พอดีผู้ใหญ่บ้านเดินมาหา..
ผู้ใหญ่บ้านหนุ่มใหญ่และเป็นกรรมการโรงเรียนด้วย ยิ้มทักทายอย่างอารมณ์ดี
“น้ำเต็มสระแล้วครับผอ...ถ้าตกอีกสงสัยคันดินจะพังนะครับ”
“สระที่ไหนครับ..?” ผมถาม ผู้ใหญ่บ้านชี้มือไปที่สระน้ำของโรงเรียนซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก..”บ้านผอ..ฝนไม่ตกหรือครับ?” “ตกครับ ตกหนักอยู่สิบนาทีเท่านั้น”
ผู้ใหญ่มีสีหน้างุนงง จากนั้นก็พาผมเดินไปที่สระน้ำ ที่ฝั่งตรงข้ามเป็นท้องนาที่เคยว่างเปล่า แต่ตอนนี้มีน้ำเต็มเปี่ยมมองดูเหมือนแม่น้ำอันกว้างใหญ่
คันดินที่สูงมาก กั้นระหว่างสระใหญ่สองสระ เหลืออีกคืบเดียวน้ำจะไหลทะลักข้ามไปยังสระที่ไม่มีน้ำ หรือไม่คันดินที่ขวางกั้นก็อาจจะถูกน้ำกัดเซาะพังไปทั้งหมด
ปีที่แล้วแล้งมาก ต้องสูบน้ำมารวมไว้ในสระเดียว แต่วันนี้..ตอนนี้..สระที่น้ำถูกสูบออกหมดแล้วและแห้งเหือดอยู่หลายเดือน กลับมีน้ำมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เมื่อวาน..มีคณะจากกรุงเทพมาศึกษาดูงาน..ผมยังเห็นน้ำต่ำกว่าคันดินตั้งเยอะ”
“เมื่อคืนตกหนักมากนะครับ” ผู้ใหญ่บอกผม...
“ก็เห็นหนักมาหลายวันแล้ว ไม่เห็นน้ำมากอย่างนี้” ผมตั้งข้อสงสัย
“ตกนานกว่าทุกครั้งเลยครับผอ... ผมว่าหนักที่สุดในรอบสองปี” ผู้ใหญ่ยืนยันอีกครั้ง และบอกให้ผมซื้อท่อพีวีซีขาด ๖ นิ้ว ยาว ๔ เมตร เตรียมไว้ด้วย....
พูดคุยกับผู้ใหญ่เสร็จแล้ว ผมเดินสำรวจความเสียหาย ก็เห็นแต่เศษใบไม้กองเต็มไปหมด บริเวณศาลาพักร้อนมีน้ำท่วมขังรอการระบาย..
อาคารเรียนหลังใหม่ มีร่องรอยน้ำไหลผ่าน น้ำจากร่องมันสำปะหลังของชาวบ้าน คงไหลแรงมาก จนล้นจากร่องน้ำใหญ่ที่ผมขุดกั้นทางน้ำไว้ จึงไหลมารวมที่สนามฟุตบอลแต่ไม่มากนัก
ผมไปให้อาหารไก่..เล้าไก่เฉอะแฉะเล็กน้อย ไก่ยังพออยู่ได้ ข้างเล้าไก่มีเศษไม้มากมายที่น้ำพัดพามาจากบ่อน้ำหลังโรงเรียนที่ล้นแล้วไหลบ่าเข้ามาทางเล้าไก่
ผมนึกในใจ..เป็นธรรมชาติของโรงเรียน..ที่มักจะเจอแบบนี้แทบจะทุกปี และเป็นธรรมชาติของผอ.โรงเรียนด้วยหรือไม่..ที่จะต้องเอาใจใส่โรงเรียนแม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม
ผมโทรหาผู้ปกครอง..ไหว้วานให้ช่วยสั่งซื้อท่อพีวีซีขนาดใหญ่ เพื่อฝังดินบริเวณคันกั้นน้ำ ซึ่งยังมองไม่เห็นว่าจะให้ใครทำ..ถ้าวันนี้ไม่ได้ทำ ฝนตกลงมาจะยุ่งยากแน่นอน
ระหว่างที่รอท่อพีวีซี ผมใช้เวลาเกือบชั่วโมงเพื่อปลูกต้นโสกอินเดีย ๑๐ ต้นหน้าอาคารออมสิน.. คิดว่าอีก ๓ ปี ต้นโสกอินเดียคงสูงใหญ่ได้พอสมควร
แต่จะเติบโตแค่ไหน ก็ไม่น่าห่วง ขอให้โตแบบธรรมชาติ คือดูแลเอาใจใส่บ้าง รดน้ำใส่ปุ๋ยเหมือนปลูกต้นไม้ทั่วไป..ธรรมชาติจะไม่โหดร้าย ถ้าเรามีความเข้าใจและใส่ใจอย่างเพียงพอ..
ปีก่อนร้อนและแห้งแล้งมากมาย..ปีนี้กลับกลายไปในทางที่ดีขึ้น..ฝนตกต้องตามฤดูกาล เหมือนจะบอกว่า ความทุกข์จะไม่อยู่กับเรานาน ถ้าเรารู้จักรอและอดทน
ทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง เป็นกฎของธรรมชาติ อย่าไปยึดมั่นถือมั่น แต่ต้องพร้อมน้อมรับการเปลี่ยนแปลงทุกเมื่อ..
ก่อนกลับบ้าน..ผู้ใหญ่บ้านกับภรรยา..มาช่วยกันขุดดินเพื่อฝังท่อให้น้ำระบายผ่านไปลงสระที่มีน้ำน้อยกว่า..งานสำเร็จเสร็จลงได้ด้วยน้ำมือของผู้นำหมู่บ้าน..
โรงเรียน..มั่นคงอยู่ได้ ก็เพราะมีผู้นำชุมชนท้องถิ่นแบบนี้..ไม่ใช่ธรรมชาติของผู้นำที่จะมีอย่างนี้ทุกแห่งหน..เป็นจิตสำนึกล้วนๆของแต่ละคน..ที่อยู่นอกเหนือธรรมชาติ
แต่อยู่ใน “หัวใจ” อย่างแท้จริง ที่จะทำทุกสิ่งเพื่อการศึกษาและส่วนรวม..
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๓
มาชื่นชม ชื่นชู คนทำงานจ้ะ คิดถึงเสมอนะจ๊ะ
ขอบคุณครับพี่….