ภาพเมดูซา ของคาราวักโจ
โดย วาทิน ศานติ์ สันติ
ภาพเมดูซา ปี 1598 เทคนิคสีน้ำมันบนโล่กำบังทรงกลมพื้นสีเขียว ขนาด 60 x 55 ซม. พระคาร์ดินัล เดล มอนเต จ้างให้คาลาวัจโจ (Michelangelo Merisi da Caravaggio) วาดเมื่อเขาอายุ 28 ปี เพื่อใช้เป็นของขวัญในนามของ พระสันตะปาปาและทูตของแกรนดยุคแห่งทัสคานี เพื่อมอบเป็นของขวัญแด่เฟอร์ดินานด์ โด เด เมดิซี แห่งฟอล์เรนซ์
กล่าวกันว่านี่คืองานที่เป็นจุดเริ่มต้นการเป็นศิลปินมืออาชีพของคาลาวัจโจ ซึ่งคาลาวัจโจได้แรงบันดาลใจวาดภาพเมดูซ่าโดนตัดศีรษะและลืมตาโพลงมาจากการที่เขาเคยดูการประหารชีวิตในจตุรัสคัมโป เด ฟิอริ
สมัยนั้นยังไม่มีการปิดตาของผู้ตัดสินประหารชีวิต ก่อนจะถูกประหารสายตานักโทษจะสายตามองไปที่คนที่มาเฝ้าชม แม้จะเสียชีวิตแล้วร่างก็ยังลืมตาโพลงอยู่
เมดูซา คือหนึ่งในเทพีคนสำคัญของปกรณัมกรีก เมดูซ่า เป็นธิดาของฟอร์ซีสและซีโต เป็นน้องคนสุดท้องของสามพี่น้อง คือ สเธโน่ ยูริอาลี พวกนางเป็นเทพสตรีที่ถือครองพรหมจรรย์ แต่ด้วยความที่เมดูซ่าเป็นเทพสตรีที่มีความงดงาม และมีเส้นผมที่งดงามกว่าสตรีทั้งปวง จึงทำให้นางเป็นที่หมายตาของมหาเทพโดยทั่วไป โดยเฉพาะเทพโพไซดอนซึ่งหลงรักนางมากจึงได้ล่อลวงนางไปกระทำชำเราในวิหารของเทพีอาเธนา ทำให้เทพีอาธีนาไม่พอใจสาปให้เมดูซ่ากลายเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาอัปลักษณ์ สาปให้ผมที่สลวยเงางามกลายเป็นงู เมดูซากลายเป็นปีศาจร้าย หากใครสบตาจะกลายเป็นหิน จนได้รับฉายาว่า นักสร้างรูปปั้น เนื่องจากนางมีความสามารถในการทำให้คนกลายเป็นหินโดยการจ้องตา ถูกให้สร้างวิหารอยู่ในทะเลทราย แม้แต่พี่สาวทั้งสองคนก็ยังถูกสาปไปด้วยเช่นกัน เธอยังซวยซับซวยซ้อนถูกเพอร์ซีอุสตัดศรีษะเพื่อนำไปเป็นอาวุธต่อสู้กับเคสตัส ปีศาจจากท้องทะเลที่ถูกส่งมาโดยเทพโพไซดอน ต่อมาหัวของเมดูซ่าได้ถูกนำมามอบให้กับเทพีอาธีน่า เทพีอาธีน่าจึงนำมาติดไว้กับโล่อันโปรดของนาง ดังนั้นเราจึงได้เห็นภาพวาดศรีษะของเมดูซบนโล่ที่คาราวัจโจวาดนั่นเอง
คาลาวัจโจตั้งใจวาดภาพในเมดุซาแบบลืมตาโพรง เลือดสาดกระจาย เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นถึงความเป็นความตาย
มีเกลันเจโล เมรีซี ดา คาลาวัจโจ ศิลปินชาวอิตาลี สมัยบาโรก มีอายุในช่วงปี 1571 - 1610 มีความสามารถในการเขียนสีน้ำมันเป็นพิเศษ งานมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ ความเป็นธรรมชาติ (Naturalism) ผสมกับความเป็นนาฏกรรมที่เห็นได้จากการใช้แสงเงาที่ตัดกันอย่างชัดเจน
ผลงานที่สำคัญนอกจากภาพเมดูซ่าที่ยกมาในเบื้องต้นแล้วก็ยังมีเช่น
ภาพ การพลีชีพของนักบุญมัทธิว 1599 ถึง 1600 ภาพสีน้ำมันบนผ้าใบ ประดับในโบสถ์ซานบุนจิ เดย ฟรานเชสิ กรุงโรม เป็นฉากที่มีลักษณะเป็นละครเต็มด้วยอารมณ์และท่าทางที่ขุ่นมัว
ภาพ การตัดหัวโฮโลเฟอร์เนส ราวปีิ ค.ศ. 1600 ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ หอศิลป์แห่งชาติแห่งศิลปะโบราณ ปาลัซโซบาร์เบรินี กรุงโรม เรื่องราว ในพระคัมภีร์กล่าวถึงยูดิธ เพื่อที่ต้องการจะช่วยชีวิตประชาชนของเธอ เธอต้องยั่วยวนโฮโลเฟอร์เนส จากการตัดหัวของเขา เป็นการแสดงถึงการผสมผสานระหว่างความต้องการทางเพศและความรุนแรง
ภาพ การตรึงไม้กางเขนของนักบุญปีเตอร์ ปีิ ค.ศ 1601 ซานตามาเรีย เดอ โปโป โบสถ์น้อยเชราสิ กรุงโรม เป็นการแสดงภาพนักบุญปีเตอร์เตรียมตัวสำหรับการโดนดึงไม้กางเขนด้วยร่างกายที่ไม่มีร่องรอยและความทรมานจากการทุบตีนักบุญปีเตอร์หันศีรษะมามองผู้ชมด้วยความโกรธและมีท่าทางสงสัยในความทุกข์ทรมานของเขา
ภาพ กามเทพนอนหลับปี ค.ศ 1607 ถึง 1608 ภาพสีน้ำมันบนผ้าใบ หอศิลป์ปาลาตินา เมืองฟลอเรนซ์ เป็นภาพกามเทพที่กำลังหลับใหลลืมแม้กระทั่งคันธนูของตนเองแสดงสภาวะหลับของความรู้สึกต่าง ๆ
งานศิลปะของคาลาวัจโจเป็นที่ยอมรับกันว่ามีความสำคัญต่อการวิวัฒนาการทางศิลปะตะวันตกแบบบาโรกอย่างแท้จริง
ถ่ายจากนิทรรศการ Caravaggio OPERA OMNIA
HDDigital Painting จากผลงานของ Michelangelo Merisi da Caravaggio หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถ่ายเมื่อ 9 มิถุนายน 2018
ไม่มีความเห็น