๘๑๙. น้ำลาย


น้ำลาย

ในการฟังเพลงในแต่ละครั้ง เป็นคนที่ชอบฟังแล้วคิดตาม เพราะในเนื้อเพลงจะให้ข้อคิด ปรัชญาชีวิตมากมาย และส่วนมากก็เป็นความจริงตามที่ผู้ร้องได้นำมาร้องเพลง..."น้ำลาย" เป็นอีกบทเพลงหนึ่งที่ถูกใจวัยรุ่น ยุคนี้ ขนาดยุค  baby boomer แบบผู้เขียนยังมีความชอบเลยค่ะ...อาจเป็นเพราะเคยถูกกระทำจากปากของคนอื่นมากกว่า...สำหรับผู้เขียน มิเคยกระทำในสิ่งนี้กับใคร เพราะนั่นคือ "กรรมทางวาจา" ก่อนจะพูดสิ่งใดออกไป คิดให้รอบคอบเสียก่อน ค่อยเอ่ยวจีออกไป การพูดแต่ละครั้งอย่าทำให้ใครต่อใครเสียหาย แม้กระทั่งตัวของเราเอง...เพราะหากพิจารณาจริง ๆ จะเห็นว่า การที่อยู่บนโลกนี้ สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหา วุ่นวาย นั่นคือ การกระทำของมนุษย์ด้วยกันเอง ไม่เป็นกรรมทางกาย ก็กรรมทางจิต หรือกรรมทางวาจา...บางทีพูดแบบไม่คิด พูดแค่สะใจ สุดท้ายแล้วได้อะไร นี่คือ ความวุ่นวายของโลกมนุษย์...เพียงแค่คิดว่า สิ่งที่ตนเองคิด ทำ นั้นดีกว่าคนอื่น...สมัยก่อนจะเรียกการกระทำแบบนี้ว่า "มีอคติ...การนินทาผู้อื่น" พูดเพื่อให้คนอื่นเสียหาย แล้วยกตนเองขึ้นมาเพื่อให้ดูดีกว่า...ผู้เขียนมีความชอบบทเพลง "น้ำลาย" แสดงถึงการที่เป็นผู้ถูกกระทำ แทบทนไม่ไหว...แต่หากคิดได้ว่า "คำพูดต่าง ๆ เหล่านั้น" มิได้ทำให้เราเป็นไปตามคำพูดเหล่านั้น ก็จบ แต่กว่าจะทำได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย (ตัวนี้ล่ะ!!! ที่แต่ละคนต้องหมั่นฝึกฝนด้วยตนเอง ต้องทำให้ได้ ด้วยการใช้หลักธรรมเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันให้ได้) ด้วยการฝึกฝนจิตใจขึ้นเรื่อย ๆ...หากเข้าใจในความเป็นมนุษย์ เราก็จะผ่านตรงจุดนี้ไปได้...และอย่าได้ใส่ใจ หากเราไม่ได้เป็นเช่นที่เขาพูด...บทพิสูจน์ตัวเรา คือ การกระทำของตัวเราเองมากกว่า...แค่อย่าได้นำมาใส่ใจ

"น้ำลาย"

บ้างก็ว่าฉัน เป็นคนอย่างนั้น

บ้างก็ว่าฉันเคยทำอย่างนี้

ว่าก็ว่าฉันเป็นคนไม่ดี

ว่าแต่ว่าไม่เคย คุยกับฉันสักที

“โลกนี้ มันช่างสับสน พันหมื่นแสนคนมีอาวุธเป็นวาจา

คนเลว คนดี ไม่ต้องรู้ตัวตน ขึ้นอยู่กับคนเลือกจะพรรณนา

บางคนไม่เคยรู้จัก แต่ดันมา Judge เฉพาะสิ่งที่ฟังมา

ชี้ไม้เป็นนก ชี้นกเป็นไม้ เอาคำพูดมาใช้เป็นเครื่องมือตีตรา

ชีวิตอยู่ในวงการ ที่คนส่วนมากบอกว่าสบาย

ทำอะไรก็ได้ ขายแค่หน้าตา เรียกเรตราคามันง่ายจะตาย

ความสามารถไม่เคยจะสน ทั้งที่การฝึกฝน มันไม่ง่ายดาย

นั่น!!! มันแค่คนที่ใครเขาสร้าง คิดยังไงก็ช่าง I’m not that guy

สรุปว่าฉันนั้น ดูไม่ดี ทั้งที่เธอไม่ดู พอท้าให้เธอได้ดู

เธอก็ดันรู้ดี ว่าฉันเป็นอย่างไร จากน้ำลายของใครต่อใคร

สรุปว่าฉันนั้น ดูไม่ดี ทั้งที่เธอไม่ดู พอท้าให้เธอได้ดู

เธอก็ดันรู้ดี ว่าฉันเป็นอย่างไร จากน้ำลายของใครต่อใคร

ฝึกฝนตัวเองทุกวัน ทุ่มเท Passion ให้สิ่งที่รัก

แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือคำดูถูกให้เราไปพัก

เป็นได้แค่ Underdog เห็นหัวกันหน่อยมันคงยากนัก

เคยรู้บ้างไหม บางทีมันท้อ อยากจะตะโกนว่า What the ...

คำพูดนักต่อนัก ร้องเพลงไม่เพราะ ร้องเพลงไม่ดี

มันเจ็บ มันจำคำด่าทุกคำ ฝังอยู่ในใจตลอดหลายปี

กำแพงสร้างขึ้นในใจ ปีนไปเท่าไหร่ ข้ามไม่ได้สักที

คำด่าก็จบลงอีหรอบเดิม คือ บอกว่า ความสามารถไม่มี

ถูกสบประมาททุกครั้งอย่างนี้ อย่างนั้น คงทำไม่ได้

ขยับตัวก็โดนทัก กดขี่ข่มเหงเหมือนเราเป็นไพร่

บุคคลสาธารณะ ต้องมีมีดจ่อหลัง มันคงไม่ใช่

รอคอยจะเอาน้ำมัน มาราด แล้วจุดไฟเผาให้เรามอดไหม้

พวกที่ดีแต่ปาก ด่าคนอื่นว่าโง่ อย่า Care Don’t cry

ชีวิตเขาคงเก็บกด จับจดจนต้องหาที่ระบาย

พร่ำบอกตัวเองทุกวัน ไอ้สิ่งพวกนั้น มันแค่น้ำลาย

มีบ้างที่มันจะทำให้เจ็บ...แต่มันไม่ตายยยยยยยย...

                            ฯลฯ

คำว่า สำเร็จของตัวเรา มันไม่ได้ถูกตัดสินจากใคร

ครั้งนี้ ยังไม่ดี ครั้งหน้าก็พร้อมจะลุยไป

ตราบใดที่มันยังมีชีวิต จะขอสู้จนหมดลมหายใจ

สรุปว่าฉันนั้นดูไม่ดี ทั้งที่เธอไม่ดู พอท้าให้เธอได้ดู เธอก็ดันรู้ดี

ว่าฉันเป็นอย่างไร จากน้ำลายของใครต่อใคร

ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาฟังเพลงนี้ค่ะ

บุษยมาศ แสงเงิน

๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๓

ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=HgvHc99K3r0

หมายเลขบันทึก: 677551เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2020 10:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม 2020 10:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท