ลักษณะจำเพาะของสัตว์โลกในสังสารวัฏ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม 1.กลุ่มหยาบช้า 2.กลุ่มหยาบช้ากว่า 3.กลุ่มประณีต 4. กลุ่มประณีตกว่า ด้วยสิ่งที่คนทั่วไปเห็นได้คือรูปกายส่วนหยาบเรียกว่า กายนิรมิต ซึ่งเป็นรูปกายเหมือนกับตัวผู้รับรู้
แง่แนวคิดตรีกายของพระพุทธเจ้าคือ
1.องค์ธรรมกาย คือกายของตถตาบริสุทธิ์ , อัตตาปรมัตถ์ , ตถตาครรภะ
2.องค์สัมโภคกาย คือกายของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เป็นกายของผู้สร้างความสุขความดี
3. องค์นิรมานกายคือกายของคนทั่วไปหรือกายนิรมิต
แนวคิดโลกทั้ง 6 ที่หมู่สัตว์จะไปเวียนว่ายตายเกิดด้วยพลังกรรมของตนคือ โลกแห่งนรก โลกแห่งเปรต โลกแห่งสัตว์ดิรัฐฉาน โลกแห่งอสุรกาย โลกแห่งมนุษย์ และโลกแห่งเทพเทวดา ตราบใดที่บรรดาสัตว์ยังทำกรรมอยู่ก็ยังคงเวียนว่ายตายเกิดในโลกทั้ง 6 นี้ซึ่งเป็นอาณาจักรสังสารวัฏ
แนวคิดขันธ์ 5 ย่อลงเป็นรูปกับนาม หรือ อารมณ์กับจิต คนมีความเห็นผิดเพราะเชื่อว่าขันธ์ 5 เป็นของจริง แต่สิ่งแท้จริงแล้วไร้วัตถุภายนอกที่มีตัวตนอยู่จริง เพราะวัตุทั้งสิ้นล้วนเป็นจิตมาแต่แรกเริ่ม เมื่อมายาเกิดขึ้นแล้ว วัตถุทั้งสิ้นที่คิดว่าเป็นของจริงก็เกิดขึ้น ต่อเมื่อจิตเป็นอิสระจากมายาแล้ว วัตถุเหล่านั้นก็หายไปสิ้นเหลือเพียงจิตเดิมแท้เพียงหนึ่งเดียวที่แผ่ซ่านไปทั่วจักรวาล
แนวคิดพระโพธิสัตว์สามารถไปสู่โลกธาตุทั่วจักรวาลได้ชั่วขณะจิตเดียว เพื่อเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายเพื่อฟังธรรม เมื่อพระโพธิสัตว์ทั้งหลายได้หยั่งรู้ธรรมกายแล้วล้วนแต่เป็นเอกะหนึ่งเดียวกับตถตา
แนวคิดธรรมกายถือว่าเป็นสภาวะเนื้อแท้ของรูปกายเป็นเอกภาพกับโพธิญาณ รูปกายของธรรมกายนั้นไร้ขอบเขตแผ่ซ่านไปทุกหนแห่ง ตั้งแต่ต้นเค้าเดิมรูปกายและจิตไม่ใช่ของสองสิ่งเพราะธรรมกายเป็นนามกาย คือจิตหนึ่งเดียวมาแต่ดั้งเดิมอยู่พ้นความนึกคิด คนดิบยังรับรู้อารมณ์ทั้งหลายที่เป็นมายาภาพ พระพุทธเจ้าทั้งหลายล้วนเป็นอิสระภาพจากความนึกคิดใด ๆ ด้วยจิตของสัตว์โลกเป็นเสมือนกระจกเงา หากมีผงฝุ่นธุลีเกาะติดกระจกอยู่จะไม่สะท้อนภาพเงาออกมาได้ เหมือนธรรมกายจะไม่เกิดกับจิตคนทั่วไปที่ติดผงฝุ่นธุลีคือความอยากหรือกิเลสบดบังไว้.
ขอบคุณครับ คุณ ศุภณัฐ เจตน์ครองสุข