Feed back ที่ได้ไปดูงานที่ตำบลคลองใหม่

ตำบลคลองใหม่

• รู้สึกอย่างไรที่ได้ไปทำกิจกรรมบ้าง?

     รู้สึกตื่นเต้นมากที่ช่วงเข้าได้ออกชุมชน เพราะประวัติเคสที่อ่าน เคสนี้เป็นOld CVA ( cerebrovascular accident or stroke) ,Creutzfeldt-Jakob disease (CJD) ,Hypertention,Atrium Fibrillation ก็คิดว่า มันน่าจะยากมากๆ เคสของกลุ่มเรายากกว่าเคสกลุ่มอื่นๆเลย แต่พอไปถึงที่บ้านเคส ก็พบว่าเคสนอนเกร็งแบบ decorticate แล้วสิ่งที่เราเตรียมกับเพื่อนๆในกลุ่มมาคือไม่รู้จะเอาไปใช้กับเคสนี้ยังไง แต่โชคดีที่ได้ไปกับอ.ป๊อป ทำให้เห็นว่ากิจกรรมบำบัดจะเข้าไปมีส่วนช่วยในผู้ป่วยที่เหมือนจะไม่รับรู้อะไร เช่น ผู้ป่วยใน ICU ได้อย่างไร 

     และอีกที่ที่ได้ไปคือ การเกษตรอินทรีย์ ครั้งแรกที่ไป คิดว่า “กิจกรรมบำบัดเกี่ยวอะไรกับธรรมชาติ??” เราไม่เข้าใจว่า ทำไมอาจารย์ถึงให้มาดูการเพราะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ แต่พอได้ฟังข้อมูลจากพี่วิทยากร ก็เข้าใจว่า เกษตรอินทรย์มันคือธรรมชาติ ซึ่งกิจกรรมบำบัดก็คือธรรมบาติเช่นกัน เป็นธรรมชาติของจิตใจมนุษย์ รู้สึกได้เปิดโลกของการบำบัดว่าแบบนี้ก็ได้นะ

• ได้เรียนรู้อะไรจากการไปทำกิจกรรม?

     สิ่งที่ได้รับจากการไปชุมชนคลองใหม่ครั้งนี้ ช่วงสายๆที่ได้ไปบ้านคุณตาที่เป็น stroke ได้รู้ธีการบำบัดในผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถพูดสื่อสารได้ แต่ถ้าเรากระตุ้นดีๆ เขาสามารถสื่อสารผ่านการรับความรู้สึก(sensory)ได้ ตอนที่ไปคุณตานอนติดเตียงเกร็งแบบ decorticate  มือเกร็งจนเล็บจิกฝ่ามือจนช้ำ อาจารย์ป๊อปกับนักศึกษาก็ช่วยกัน ในการเคาะอารมณ์และลดเกร็งในผู้ป่วยรายนี้ มีการใช้น้ำอุ่นถูแขนและมือ ใช้ผ้าให้กำในมือที่เกร็ง แล้วเคาะอารมณ์อีกครั้ง ให้ผู้ป่วยหลับตา แล้วเคาะอารมณ์ สิ่งที่เป็นผลลัพธ์คือ คุณตานิ่งขึ้น ตาไม่ลอกแลกเหมือนตอนแรกที่มา คุณตามีการหัวเราะ อาการเกร็งลดลง อย่างเห็นได้ชัด ทั่งลักษณะภายนอกและขณะจับมือหรือแขน ขา คุณตาก็รู้สึกว่าคลายมากขึ้น เคสนี้เป็นเคสที่ตอนแรกพวกเรากังวลว่าจะทำอะไรไม่ได้มาก เพราะติดเตียง แต่พอได้มาทำเคสจริงๆและมีอาจารย์อยู่ด้วย ก็ได้รู้ว่า กิจจกรรมบำบัดจะช่วยผู้ป่วยแบบนี้ได้อย่างไร รู้ว่สสิ่งที่เรียนมา แล้วเรารู้รึกว่า มันจะใช้แล้วเห็นผลได้จริงๆหรอ? คือถ้าเราไม่ได้ใช้กับเคสจริงๆเราจะไม่รู้เลยว่ามันใช้ได้ และใช้ได้อย่างไร

     ส่วนที่สอง ที่เป็นเกษตรอินทรีย์ ได้รู้ส่สปัญหาของการใช้สารเคมีในเมื่อก่อนก่อให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง แล้วการใช้เกษตรอินทรย์มก่อให้เกิดประโยชน์และผลดีอะไรตามมาบ้าง ได้เห็นการใช้ธรรมชาติบำบัดธรรมชาติ เช่นปลูกพืชข้างบ่อ ให้พืชช่วยสร้างออกซิเจน แทนการใช้สารเคมี การใบ้ไส้เดือนแล้วนำมูลของมันมาทำปุ๋ย การปลูกพืชไรดิน เป็นต้น ซึ่งเมื่อผู้รับบริการอยู่ใกล้ธรรมชาติ ธรรมชาติจะเป็นผู้บำบัดเขาเอง 

• เอาไปพัฒนาในวิชาชีพกิจกรรมบำยบัดได้อย่างไร?

     คิดว่าจะเอาความรู้ เทคนิคการบำบัดรักษาไปใช้ได้ในผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายได้ เพราะการรับรู้หลายๆอย่างของผู้ป่วยระยะนี้ทั้งการมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส อาจจะไม่รับรู้ แต่การรับรู้ผ่านเอ็นข้อต่อ มักจะเป็นการรับรู้ท้ายๆที่ผู้ป่วยสามารถรับรู้ได้ และการเคาะอารมณ์ เป็นสิ่งเราเรียนมาทแต่ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ได้อย่างไร แต่เราสามารถใช้การเคาะอารมณ์ในเคสติดเตียงหรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายได้ และเห็นการเปลี่ยนแปลงด้วย เพราะผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยระยะสุดท้าย การรับรู้ของเขามักจะเหลือไม่กี่อย่างและการกระตุ้นด้วยการรับรู้เอ็น ข้อต่อ เป็นการสื่อสารที่เราสามารถสื่อสารกับผู้ป่วยได้

     การใช้เกษตรอินทรีย์ก็สามารถบำบัดผู้ป่วยได้เช่นกัน เพราะเป็นการทำให้ผู้ป่วยใกล้ชิดกับธรรมชาติ ใช้ธรรมชาติบำบัด เช่น การปลูกต้นไม้ การสูดอากาศบริสุทธิ์ การได้สัมผัสกับดิน สัมผัสกับต้นไม้ใบไม้ ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยดีขึ้นได้