ฟักทองผัดไข่ อาหารเพื่อสุขภาพ


ฟักทองเป็นพืชในตระกูลมะระ ชนิดไม้เถาขนาดใหญ่ ผิวผลขณะยังอ่อนอยู่มีสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวสลับเหลือง ผิวไม่เรียบขรุขระ เปลือกมีลักษณะแข็งเนื้อในสีเหลือง มีเส้นใยอยู่ภายในเป็นสีเหลือง เมล็ดสีขาวแบน

คุณค่าทางโภชนาการของฟักทอง 100 กรัม ให้พลังงาน 26 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 6.5 กรัม น้ำตาล 2.76 กรัม เส้นใย 0.5 กรัม ไขมัน 0.1 กรัม โปรตีน 1 กรัม วิตามินเอ 476 ไมโครกรัม 53% เบต้าแคโรทีน 3,100 ไมโครกรัม 29% ลูทีนแบะซีแซนทีน 1,500 ไมโครกรัม วิตามินบี1 0.05มิลลิกรัม 4% วิตามินบี2 0.11 มิลลิกรัม 9% วิตามินบี3 0.6 มิลลิกรัม 4% วิตามินบี5 0.298 มิลลิกรัม 6% วิตามินบี6 0.061 มิลลิกรัม 5% วิตามินบี9 16 ไมโครกรัม 4% วิตามินซี 9 มิลลิกรัม 11% วิตามินอี 0.44 มิลลิกรัม 3% วิตามินเค 1.1 ไมโครกรัม 1% แคลเซียม 21 มิลลิกรัม 2% เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม 6% แมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3% แมงกานีส 0.125 มิลลิกรัม 6% ฟอสฟอรัส 44 มิลลิกรัม 6% โพแทสเซียม 340 มิลลิกรัม 7% โซเดียม 1 มิลลิกรัม 0% สังกะสี 0.32 มิลลิกรัม 3%

(% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่)

ฟักทองเป็นพืขที่ให้พลังงานต่ำ มีไขมันน้อยจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ฟักทองมีกากใยสูงช่วยระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี เบต้าแคโรทีนในเนื้อสีเหลืองฟักทองเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหบอดเบือดหัวใจและโรคหัวใจ ช่วยต้านความชรา ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่าและบั้นเอวได้เป็นอย่างดี มีการวิจัยรายงานว่าฟักทองสามารถช่วยบรรเทาอาการหอบหืดที่เกิดจากหลอดลมอักเสบที่มักเกิดในสตรีสูงวัยอีกด้วย การรับประทานฟักทองทั้งเปลือกจะสามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลอนซึ่งควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย และสามารถควบคุมความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพได้อีกด้วย คาร์โบไฮเดรตในฟักทองช่วยรักษาและบรรเทาอาการแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ส่วนบนได้ด้วย ที่สำคัญในฟักทองมีคอลลาเจนตามธรรมชาติจึงช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส

ฟักทองสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายชนิดทั้งอาหารคาวอาหารหวาน เช่น ซุปฟักทอง ฟักทองชุบแป้งทอด แกงเผ็ด แกงเลียง ต้มรับประทานกับน้ำพริก ผัดกับไข่ หรือนำมาทำขนม เช่น ฟักทองนึ่งโรยน้ำตาลและมะพร้าว ขนมฟักทอง ฟักทองแกงบวช ฟักทองสังขยา ฟักทองฉาบ และสีเหลืองของฟักทองสามารถนำมาใช้แต่งสีในอาหารได้ เช่น ขนมบัวลอย ขนมลูกชุบ ด้วยคุณประโยชน์อันมากมายของฟักทองวันนี้ครัวครูแป๊วจึงนำฟักทองมาทำเมนูฟักทองผัดไข่ เสริมคุณค่าด้วยการใส่พริกชี้ฟ้าซึ่งมีแคปไซซีนสูง มีสรรพคุณช่วยระบบทางเดินหายใจ ความดันโลหิตและหัวใจ ใส่พริกลงไปเล็กน้อยช่วยให้เลือดไม่จับตัวเป็นก้อน ไหลเวียนได้ดี แต่งกินด้วยใบโหระพาอีกเล็กน้อยช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจขาดเลือด

ผัดฟักทองกับไข่วันนี้รับประทานคู่กับแกงส้มมะรุมกุ้งสด ซึ่งสรรพคุณของมะรุมคือช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด บรรเทาอาการโรคเบาหวาน ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ช่วยให้ผิวนุ่มเนียน อ่อนเยาว์ ปราศจากริ้วรอย แบะช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาให้แข็งแรง ป้องกันการเสื่อมของจอตา โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ไม่น่าเชื่อเลยว่า...ฟักทองผัดไข่กับแกงส้มมะรุมกุ้งสดอาหารธรรมดาๆที่รับประทานอยู่ในชีวิตประจำวันจะมีคุณประโยชน์มากมายถึงเพียงนี้

หมายเลขบันทึก: 673749เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2019 13:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 ธันวาคม 2019 13:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท