*เจ็กเว้ง ผู้มากับเรือสำเภาจีน*
-----------------------
เจ็กเว้ง แซ่ลิ้ม เจ้าของร้านศรีสุพรรณ ปัจจุบันอายุ 90 ปี แข็งแรงเดินเหินคล่องความจำยังดีเยี่ยม เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า
เจ็กมาจากเมืองจีนตอนอายุ 4 ขวบ มากับเตี่ยและแม่รวมกัน 3 คน จำความตอนอยู่เมืองจีนไม่ได้เลย จำได้ว่าเรือที่มาเป็นเรือสำเภาเพราะมีผ้าใบเรือ คนบนเรือไม่มากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 เดือน มีอาหารให้กิน 3 มื้อ เมื่อมีคนตายบนเรือเขาจะเอาศพทิ้งทะเลทันทีเป็นภาพที่เห็นกับตาและจำได้
ขึ้นจากเรือที่ฉะเชิงเทรา เตี่ยกับแม่ปักหลักทำงานรับจ้างอยู่ที่นี่ อยู่ได้ระยะหนึ่ง เริ่มแสวงหาที่อยู่ใหม่ เตี่ยมีคนรู้จัก เป็นแซ่ลิ้มด้วยกันอยู่ที่สุพรรณบุรี และยังมีญาติอยู่ที่กรุงเทพฯ มีฐานะดี แต่ไม่กล้าไปหา
เตี่ยตัดสินใจพาครอบครัวเดินทางมาสุพรรณบุรี เดินเท้าบ้าง ขึ้นเรือบ้างจนมาถึงสุพรรณบุรี
เริ่มจำเหตุการณ์ต่างๆได้ตอนมาอยู่สุพรรณบุรี
ซีวิตลำบากมาก เตี่ยกับแม่ทำงานรับจ้างทุกอย่างเพื่อเลี้ยงครอบครัว เจ็กเองต้องไปช่วยชาวบ้านเผาถ่านและทำงานทุกอย่างเพื่อแลกอาหารกินเป็นมื้อๆให้ผ่านไปในแต่ละวัน
พอโตหน่อยได้เริ่มทำงานเป็นลูกจ้างที่อู่ต่อเรือ ที่นี่ได้เรียนรู้เรื่องช่างไม้ จนต่อเรือได้เก่ง ตอนนั้นการคมนาคมต้องใช้ทางน้ำเป็นหลัก เรือจึงเป็นพาหนะสำคัญ
พออายุได้ 29 ปีมีครอบครัวและลูกแล้ว มองเห็นว่า เมื่อการคมนาคมทางบกเริ่มมีขึ้นและสะดวกกว่า ความต้องการในการใช้เรือจะน้อยลง อาชีพการต่อเรือจะค่อยๆหมดไป จึงเตรียมตัวที่จะต้องรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น
ขณะนั้นเตี่ยกับแม่เริ่มมีการค้าขายเล็กน้อยที่ตลาดคอวัง มีรายได้พอเลี้ยงชีพไปวันๆ
ขณะทำงานอยู่ที่อู่ต่อเรือที่สุพรรณบุรีนั้น มีเงินเก็บได้ 49,000 บาท คิดว่าน่าจะมองหาร้านที่มีทำเลเหมาะสมเพื่อค้าขาย โดยคิดว่าจะไปตั้งหลักแหล่งที่ปากช่อง
ได้ลาออกจากอู่ต่อเรือเพื่อเดินทางหาแหล่งที่เหมาะสมเพื่อทำการค้าในวงเงินที่มีอยู่
จากสุพรรณผ่านมาลพบุรี พระพุทธบาท การเดินทางสมัยนั้นต้องอาศัยการต่อรถเป็นทอดๆ รถไม่ได้วิ่งเป็นระยะทางไกลหรือออกทุกชั่วโมงเหมือนปัจจุบัน
้เจ็กมองหาทำเล หาแหล่งเปิดร้านค้าขายมาเรื่อยๆ แต่ไม่ถูกใจ จนถึงแก่งคอย พบว่ากำลังสร้างตลาดใหม่ริมถนนสุดบรรทัด มีท่าจอดรถโดยสารอยู่ข้างถนน ตอนนั้นมีบ้านเหลือเพียง 2 ห้อง ราคารวม 39,000 บาท ในวงเงินที่พอจะซื้อได้ และยังเหลืออีก 10,000 บาทสำหรับซื้อสินค้าเพื่อลงทุนค้าขาย
คนจีนจะมีความเชี่อถือในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำท้องถิ่น เจ็กมาที่ศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่าแก่งคอยเพื่อขอพรและเสี่ยงเซียมซี โชคดีได้ใบเซียมซีที่มีความหมายดีมาก เลยตัดสินใจจองบ้านทันที แล้วรีบเดินทางกลับสุพรรณเพื่อนำเงินมาชำระค่าบ้าน
เจ็กเริ่มต้นชีวิตค้าขายที่แก่งคอยเมื่อปี พศ 2502 เริ่มจากขายสินค้าเบ็ดเตล็ด ของใช้ประจำวัน เฝ้าสังเกตชาวบ้านที่มากับรถโดยสารประจำทางว่ามีอะไรติดมาขายที่ตลาดแล้วรับซื้อสินค้าเหล่านั้นไว้ขายต่อ จากการซื้อสินค้าเล็กๆน้อยๆ เช่น ถ่านหุงข้าว มะขามเปียก ฯลฯ จนมีโอกาสซื้อสินค้าพืชไร่ ข้าว ข้าวโพด ส่งต่อให้พ่อค้ารายใหญ่ที่กรุงเทพฯ จนสามารถซื้อรถโกดังใหญ่ 2 คัน วิ่งรับส่งสินค้าพืชไร่ วิ่งส่งสินค้าถึงอุบลราชธานี รถโกดัง 2 คันนี้ทำรายได้ให้เจ็กมากมายในช่วงนั้น และได้เพิ่มทำฟาร์มเลี้ยงหมูเป็นอีกธุรกิจหนึ่งด้วย
เจ็กเป็นคนเก่ง มองจังหวะและโอกาสได้ถูกต้อง มีความขยันและประหยัด
เมื่อประสพความสำเร็จ เจ็กรับเตี่ย แม่ และพี่น้องทุกคนมาอยู่ด้วยกัน
ชีวิตที่ลำบากและยากจนเป็นพลังก่อให้เกิดความสำเร็จในวันข้างหน้า ขอให้มีความมุ่งมั่นเท่านั้น
สุนีย์ สุวรรณตระกูล ผู้บันทึก
เจ็กเว้ง ผู้ให้ข้อมูล
ไม่มีความเห็น