“ดอกไม้แห่งกาลเวลา” ดอกไม้แห่งชีวิตของใครหลาย ๆ คน เพราะกว่ากาลพฤกษ์แต่ละต้นจะออกดอกผลิบาน ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายขวบปี ฟันฝ่าอุปสรรคทั้งวัชพืช โรคแมลง อากาศแล้ง ฝนตกน้ำหลาก แต่กาลพฤกษ์ก็ยังยืนหยัด ท้าแดดลมฝน เพื่อฝึกตนให้แกร่งกล้า สง่างาม รอการผลิช่อดอกใบให้งดงามตามฤดู บัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น ก็คงเฉกเช่นกัน ที่จะต้องอดทนฝึกฝนตน ทั้งกายและใจให้สามารถทนแดดกับความยากลำบากหลายขวบปีที่จะฝึกฝนตนให้มีความรู้คู่ปัญญา ก่อนจะอาสาออกไปรับใช้ชน “ดั่งไม้ยืนต้นทนแห้งแล้ง ขวัญชาวมอดินแดงล้นอุรา” เนื้อท่อนหนึ่งของเพลงขวัญมอดินแดง ดังกระหึ่มในสนามกีฬากลางในครั้งที่เป็นน้องปี 1 ขณะร่วมประเพณีเชียร์กลาง ผ่านกาลเวลาจนสำเร็จการศึกษา เป็นบัณฑิตสวมครุยทรงคุณค่าสง่างาม แล้วขับร้องเพลงขวัญมอดินแดงกระหึ่มอีกครั้งในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรอย่างภาคภูมิใจ.... ดอกไม้แห่งกาลเวลา จึงมีเรื่องราวที่ดีและเจ็บช้ำใจให้ได้เรียนรู้ เป็นคู่มือ เพื่อให้แกร่งกล้า สง่างาม ผลิดอกแย้มกลีบชมพูขาวระเรื่อให้ชนได้ชมในเหมันตฤดู
เสี่ยไอซ์กลับบ้านที่สุรินทร์ เลยถือโอกาสถ่ายภาพต้น “กาลพฤกษ์” ที่ได้รับมอบไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนนี้เติบโตพร้อมผลิช่อดอกใบ เรื่องราวของกาลพฤกษ์ ไม่ได้เพียงเกิดขึ้นแค่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นเท่านั้น หากแต่ถูกส่งต่อร้อยเรียงเรื่องราวของกาลพฤกษ์
เหมันตฤดูคราวหน้านี้ กาลพฤกษ์ต้นนี้ คงออกดอกเบ่งบาน ให้ได้ชื่นใจ
ณ มอดินแดง
10 กันยายน 2562
ไม่มีความเห็น