รอยประวัติศาสตร์พม่าที่มัณฑเลย์กับสุภัชชา.พันเลิศพาณิชย์ตอน.พระราชวังมัณฑะเลย์ตอนที่2 (อังกฤษ: Mandalay Palace)

ตามรอยประวัติศาสตร์พม่าที่มัณฑเลย์กับสุภัชชา.พันเลิศพาณิชย์ตอน.พระราชวังมัณฑะเลย์ตอนที่2 (อังกฤษ: Mandalay Palace)

พระราชวังมัณฑะเลย์ เป็นพระราชวังในระบอบสมบูรณาญาสิทธราชย์และเป็นราชวังสุดท้ายในประเทศพม่าคะ ก่อนที่จะถูกทหารอังกฤษทำลายในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง
พระราชวังมัณฑะเลย์สร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ.1857-ค.ศ.1859โดยพระเจ้ามินดงหลังการย้ายเมืองหลวงจากอมระปุระมายังมัณฑะเลย์คะทั้งนี้ เพื่อหนีทหารของจักรวรรดิอังกฤษ ระหว่างสงครามพม่า-อังกฤษสร้างตามความเชื่อคะเป็นพระราชวังที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ได้ชื่อว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชียทีเดียว มีคูน้ำรอบพระราชวังและประตูที่ยิ่งใหญ่ และเป็นพระราชวังที่สุดท้ายของพระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์คองบองและในประวัติศาสตร์พม่าเพราะว่าเมื่ออังกฤษเข้ายึดครองพม่าในสงครามโลกครั้งที่สอง ทางอังกฤษคิดว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมของทหารญี่ปุ่น จึงได้ทำลายพระราชวังเสียด้วยการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินคะในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1945 พระราชวังตกอยู่ในความเสียหายมาโดยตลอด จนปัจจุบันได้รับการบูรณะโดยรัฐบาลพม่า โดยการลอกแบบโครงสร้างเดิม จากรูปถ่ายที่ปัจจุบันอยู่ที่พุกามคะเมืองมัณฑะเลย์เป็นเมืองหลวงได้แค่ 28 ปี อังกฤษก็ตีเมืองมัณฑะเลย์แตกในปี พ.ศ. 2367 พระเจ้าธีบอซึ่งโอรสของพระเจ้ามินดง จึงเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่าและถูกส่งไปอินเดียและเชื่อกันว่าถูก ประหารที่นั่นโดยไม่ได้กลับพม่าอีกเลย สมบัติทุกชิ้นถูกอังกฤษขนเอาไปไม่เว้นแม้แต่ราชบัลลังก์นกยูง สัญลักษณ์แห่งราชวงศ์และพระที่นั่งสิงหนาทในท้องพระโรงใหญ่ที่เป็นทองคำ ประดับด้วยเพชร พลอย ทับทิม อัญมณี อันมหาศาลก็ถูกขนไปไว้ที่ประเทศอังกฤษคะ

พระราชวังมัณฑะเลย์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นพระราชวังสร้างใหม่เพื่อทดแทนของเก่าที่ถูกทำลาย มีหอคอยสีแดงสำหรับขึ้นไปสูงเพื่อดูให้ทั่วๆสร้างพระราชวัง การเข้าชมสถานที่ในเมืองมัณฑะเลย์ต้องเสียบัตรเข้าชมแบบเหมา สามารถเที่ยวชมได้ทุกสถานที่ในมัณฑะเลย์ ราคา 10,000 จ๊าด หรือประมาณ 250 บาทคะ