วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๒ มาสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระเทพฯ ผ่านโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ที่โรงเรียนเทศบาลศรีสวัสดิ์
- คุณครูเริ่มกระบวนการด้วยการสาธิต โดยจัดให้นักเรียนนั่งล้อมเป็นรูปตัวยู่ นักเรียนแต่ละคนจะมีตำแหน่งประจำของตน มีสติ๊กเกอร์ติดชื่อไว้ชัด ซึ่งผมเห็นทุกโรงเรียนระดับอนุบาลก็ทำลักษณะนี้ ... น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ครูเห็นเด็กทุกคน เด็กทุกคนเห็นครูและรู้ว่าครูกำลังทำอะไรอยู่ ไม่มีหน้า ไม่มีหลัง ไม่มีบัง ....
- การนั่งแบบตัวยูนี้ นอกจากจะทำให้เด็กดูครูครูดูเด็กแล้ว น่าจะมีเหตุผลตรงที่การเว้นระยะห่างระหว่างเด็กกันเองด้วย เพราะสังเกตว่า เมื่อไหร่เด็กหันหน้าหากันและใกล้กัน จะเกิดการชุลมุนกันขึ้นทันที ... แต่ถ้าหาวิธีไม่ให้เกิดชุลมุนได้แต่ให้เด็กเข้าไปมุ่งดูการสาธิตอยู่ใกล้ ๆ ได้ จะดีที่สุด
- การทดลองเรื่อง "น้ำเดินได้" เมื่อใส่สีผสมอาหารในน้ำจะสร้างความสนใจได้ดีครับ เพราะเห็นชัด แต่มีข้อเสียคือ น้ำจะ "เดิน" ช้ามาก ไม่ทันใจหรือสร้างความสงสัยให้เด็ก คุณครูอาจออกแบบกิจกรรมระหว่างรอ จะดีที่สุดครับ
- กิจกรรมลูกข่างหลากสี ก็ได้ผลดีเสมอครับ ... ความยากอยู่ตรงที่ ทำอย่างไรให้เด็กสังเกตเห็นการผสมของสี
- ผักกาดเปลี่ยนสี เป็นการทดลองของนักเรียนมัธยมต้นเลยนะครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับท่อลำเลียง แต่ก็ให้ผลสร้างความสนใจให้เด็ก ๆ สงสัยได้ดี ... ไม่ต้องพะวงกับความรู้นะครับ
- "ผักกาดเปลี่ยนสี" จะคล้ายกับ "น้ำเดินได้" คือ การเปลี่ยแปลงเกิดขึ้นช้ามาก คุณครูอาจต้องออแบบกิจกรรมเข้ามาแทรกระหว่างรอ เช่น ให้วาดรูปและระบายสีตามที่เห็น เป็นต้น
- กิจกรรมบอลลูนลูกโป่ง ... ผมว่ากิจกรรมนี้น่าจะสนุกและสร้างความสงสัยและสนใจได้มาก ... ขอไปลองกับน้องข้าวหอมกับน้องขวัญ ก่อนจะมารายงานนะครับ
- ถ้าเรามุ่งไปที่การสังเกต และให้เด็กหาทางอธิบายว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เมื่อเอา "ผงอะไรไม่รู้" ผสมกับ "น้ำอะไรไม่รู้" แล้วทำให้เกิดบอลลูนลูกโป่งขึ้น .... ถ้าเด็กตั้งคำถามว่า "นั่นอะไรอะ" ... ก็ถือว่า คุณครูทำสำเร็จแล้ว ... ใช่ครับ ความสงสัยที่เกิดขึ้นเอง คือสิ่งที่เราต้องการ
- การทดลองเรื่อง "เมล็ดพืชเต้นระบำ" ก็ทำกันทั่วไป เป็นที่นิยมกับทุกโรงเรียนในโครงการบ้านวิทย์น้อยครับ ...
- ต้องเลือกเมล็ดพืชที่มีจมน้ำและมีน้ำหนักไม่มากเกินไป เบาพอที่ฟองจะพา "เต้นระบำ" ได้
- การใส่สีในน้ำ น่าจะทำให้เด็กสังเกตการเคลื่อนที่ของเมล็ดพืชได้ยากขึ้นนะครับ ... หรืออาจารย์มีวัตถุประสงค์อย่างอื่น...
- วง PLC สั้น ๆ สะท้อนจุดสำคัญ โดยหวังจะคลายความกังวลของคุณครู คล้ายกับที่โรงเรียนเทศบาลบูรพาฯ คือ...
- ไม่ต้องห่วงเรื่อง "ความรู้" การสรุปความรู้ที่เป็นวิทยาศาสตร์อะไรมากดอกครับ ถ้าคุณครูเรียนรู้ไป ทำไป จะค่อย ๆ เข้าใจความคิดรวบยอดของแตะละการทดลองได้เอง เราไม่จำเป็นต้องสรุปเป็นความรู้ให้เด็ก ๆ ท่องจำใด ๆ ...
- สิ่งที่เราเน้นคือ การฝึกทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ให้เด็ก ๆ ครับ โดยเฉพาะ การสังเกต การจำแนกประเภท พยายามให้เด็กอธิบายสิ่งที่เห็นด้วยคำของตนเอง โดยไม่ใช่ให้จำไปพูด
- สำคัญมาก ๆ คือการส่งเสริมหรือสนับสนุน ให้เกิด ความสงสัยที่เกิดขึ้นเอง
- และที่สำคัญที่สุดคือ ความเป็นธรรมชาติ สุข สนุก ที่ได้เรียน ได้สอน
ผมชอบและเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ท่าน ศน.ไสว ท่าน บอกว่า "เล่นอย่างมีความหมาย" ....