๙๒๕. ต้นไม้ที่โตเร็วที่สุด คือต้นที่ปลูกวันนี้


“ถ้าคุณรำคาญอากาศร้อนให้ปลูกต้นไม้ ถ้าคุณรำคาญฝนให้ปลูกต้นไม้ ถ้าคุณชอบนกให้ปลูกต้นไม้ ถ้าคุณชอบผลไม้ให้ปลูกต้นไม้ ถ้าคุณชอบธรรมชาติ ให้ปลูกต้นไม้ ถ้าคุณเบื่อไม่มีอะไรทำ ให้ปลูกต้นไม้ ถ้าคุณคิดอะไรไม่ออก ให้ปลูกต้นไม้...”

        ผมได้รับข้อความทางไลน์จากเพื่อนที่ส่งต่อเรื่องราวเกี่ยวกับประโยชน์ของต้นไม้ มีใจความสำคัญอยู่ทุกบรรทัด ผมชอบใจบรรทัดสุดท้ายมาก ที่บอกว่า”ต้นไม้ที่โตเร็วที่สุด คือต้นที่ปลูกวันนี้.."

    ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน..ในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา..ผมปลูกต้นไม้เยอะมาก ปลูกเพราะอยากปลูก อาจจะเป็นด้วยในวัยเด็กได้รับการบ่มเพาะอยู่เสมอถึงคุณค่าของต้นไม้ว่ามีประโยชน์อเนกอนันต์..

        ย่างเข้าสู่ปีที่ ๑๓ ที่มาอยู่โรงเรียนขนาดเล็ก ในท่ามกลางไม้ยืนต้นขนาดใหญ่นับร้อยต้น ผมเห็นตั้งแต่ยังเป็นลำต้นที่ผอมเรียว มองเป็นแนวทะลุปรุโปร่ง

        ตอนนี้..ทุกต้นเกาะกลุ่มดูแน่นหนา เป็นป่าทึบ แผ่กิ่งก้านใบคล้ายอาณาจักรแห่งพงไพร มีทั้งประดู่  มะค่า ยางนา สะเดา ขี้เหล็ก และต้นแจง

        โรงเรียนจึงกลายเป็น”บ้านเล็กในป่าใหญ่” เกิดการเรียนรู้ที่น่าสนใจ อย่างน้อยก็เคยมีคนตั้งคำถามว่า..รักษาเอาไว้ได้อย่างไร โดยที่ไม่เคยตัดเลยแม้แต่ต้นเดียว..

        ต้นแจง..ดูจะเป็นไม้ใหญ่ที่สง่างามที่สุด เป็นไม้สมุนไพรที่มีลักษณะเด่น คือทนแล้ง โตเร็วและแพร่กระจายขยายพันธุ์ได้ง่าย เม็ดปลิวไปตกที่ใด เจอความชุ่มชื้นเข้าหน่อยก็แตกเป็นลำต้นเกิดลูกหลานแจงเต็มไปหมด

        โรงเรียน..ไม่ได้แตกต่างจากที่บ้านของผมแต่อย่างใด..ผมปลูกป่าอยู่หลังบ้าน ปลูกมานานหลายปี ปิดเทอมครั้งนี้ แทบจะต้องจารึกไว้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ปลูกต้นไม้ได้มากที่สุด

        ถ้าเป็นไม้ประดับที่ปลูกไว้เพื่อความสวยงามและเพลิดเพลิน ผมปลูกนับร้อยต้น ลงดินบ้างลงกระถางบ้าง..ผมอยากเน้นไม้ยืนต้นที่สูงใหญ่ให้ร่มเงามากกว่า

        เพราะมีบทเรียนหลายครั้ง..ที่ตัวบ้านต้องปะทะกับพายุฤดูร้อน ปรากฏว่าไม้ใหญ่อย่าง สัตตบรรณ มะขาม ประดู่ ปีบ และต้นมะพร้าว ช่วยเป็นเกราะกำบังลมได้เป็นอย่างดี..ลดความกดดันไปได้เยอะ  

        ต้นลำไย..มีหลายต้นสูงใหญ่ก็จริง แต่พึ่งพิงไม่ได้ เพราะกิ่งก้านเปราะมาก เสียดายที่ผมปลูกประดู่น้อยเกินไป..ไม่เช่นนั้นจะได้เห็นความงดงามและความยิ่งใหญ่อลังการมากกว่านี้

        สัตตบรรณ ๒ ต้นตรงหน้าบ้านที่ว่าใหญ่แล้ว ยังสู้ประดู่ข้างบ้านไม่ได้ เกือบสองคนโอบแล้ว อยู่ด้านซ้ายของตัวบ้าน ด้านขวาเป็นหน้าที่ของมะขามที่ยืนต้นทะมึนดำน่าเกรงขามเสียเหลือเกิน

        ผมยังไม่คิดที่แขวนกล้าไม้ ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องปลูก วันนี้ปลูกต้นแก้วไป ๑ ต้น และปลูกฮอคกานีอีก ๓ ต้น ฮอคกานีเป็นไม้ต้นตรง โตเร็ว เนื้อไม้เหมาะที่จะใช้ทำเครื่องดนตรีสากล..

        จริงๆแล้ว ผมไม่ค่อยจะมีความรู้เรื่องต้นไม้สักเท่าไหร่ อาศัยว่าเคยทำงานในท้องถิ่นที่เป็นป่า แต่จะรู้จักชื่อพันธุ์ไม้แบบพื้นๆเท่านั้น

        ตอนนี้เริ่มรู้จักมากขึ้น โดยเรียนรู้จากลูกชาย ที่กำลังเสาะแสวงหาเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้ที่หายาก มีทั้งสั่งซื้อจากต่างจังหวัดและหาจากในชุมชนท้องถิ่น

        บางชื่อผมยังไม่คุ้นเท่าที่ควร ถ้าเป็นเม็ดพิกุลผมจะรู้จักดี ตอนนี้ลูกชายกำลังเพาะประดู่ กับยางนาอย่างขะมักเขม้น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เพาะต้นกล้าของมะกอกไว้หลายต้น..ลำต้นสวยงามพร้อมที่จะลงดินแล้ว

        ชีวิต...ที่ขลุกอยู่กับต้นไม้ใบหญ้าก็รู้สึกดีไปอีกแบบ ไม่ต้องวุ่นวาย บางทีการปลูกต้นไม้ให้กับบ้าน ให้สังคมและชุมชน..สักวันอาจก่อให้เกิดความเข้มแข็งทางความคิดแบบมีส่วนร่วม และส่งผลดีต่อประเทศชาติก็เป็นได้..

        ก่อนนอนอ่านทบทวนข้อความในไลน์ที่เพื่อนส่งมาอีกครั้ง..จะได้หลับสบาย

        “ถ้าคุณรำคาญอากาศร้อนให้ปลูกต้นไม้  ถ้าคุณรำคาญฝนให้ปลูกต้นไม้         ถ้าคุณชอบนกให้ปลูกต้นไม้  ถ้าคุณชอบผลไม้ให้ปลูกต้นไม้ ถ้าคุณชอบธรรมชาติ ให้ปลูกต้นไม้ ถ้าคุณเบื่อไม่มีอะไรทำ ให้ปลูกต้นไม้ ถ้าคุณคิดอะไรไม่ออก ให้ปลูกต้นไม้...”

       ต้นไม้ที่โตเร็วที่สุดคือ ต้นที่ปลูกวันนี้

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๔  เมษายน  ๒๕๖๒


หมายเลขบันทึก: 661340เขียนเมื่อ 24 เมษายน 2019 21:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน 2019 21:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท