เที่ยวพิจิตรกับสุภัชชาตอน.วัดเขารูปช้าง


เที่ยวพิจิตรกับสุภัชชาตอน.วัดเขารูปช้าง

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ท้องฟ้า และสถานที่กลางแจ้ง


วัดนี้ สร้างในพ.ศ. ๒๒๔๔ พร้อมกับ วัดโพธิ์ประทับช้าง ในสมัยพระศรีสรรเพ็ชรที่ ๘ หรือพระเจ้าเสือแห่งกรุงศรีอยุธยา โดยสมุหนายก ผู้ควบคุมไพร่พลโยธามาสร้างวัดโพธิ์ประทับช้างตามพระราชประสงค์ ได้มาพบภูเขาส่วนยอดมีลักษณะเหมือนรูปช้าง เห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะที่จะสร้างวัด สร้างที่พักอยู่บนที่สูงเพื่อตรวจภูมิประเทศ ดูแลความปลอดภัยของไพร่พล เมื่อสร้างเสร็จแล้วให้ชื่อว่า “วัดเขารูปช้าง” ตามลักษณะหินสีขาวที่ซ้อนกันอยู่เป็นรูปช้างคุกเข่าบนยอดเขามีลักษณะการก่อสร้างสถาปัตยกรรมโบสถ์ วิหาร พระพุทธรูป พระปรางค์ เจดีย์ เป็นแบบสมัยอยุธยา ต่อมาได้มีการสร้างเจดีย์บรรจุพระธาตุไว้บนส่วนหัวของรูปช้างและสมัยรัชกาลที่ ๔ ยังทรงผนวชเป็นภิกษุ ได้เสด็จธุดงค์เมืองนครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย สวรรคโลก และอุตรดิตถ์ ทรงแวะประทับที่วัดเขารูปช้างและตำบลฆะมัง เพื่อร่วมฉลองวิหารวัดเขารูปช้าง เมื่อวันที่ ๒๒ – ๒๖ มกราคม ๒๓๗๖ นับได้ว่าวัดเขารูปช้างแห่งนี้ พระเจ้าแผ่นดินเป็นผู้สร้าง และพระเจ้าแผ่นดินยังได้ทรงมาประทับร่วมฉลองวิหารอีกด้วย จึงถือว่างานประเพณีปิดทองไหว้พระ วันเพ็ญเดือน ๓ ก็นับเริ่มตั้งแต่นั้นมา นับเป็นเวลากว่าร้อยปี ในระยะเวลาถัดมา วัดเขารูปช้างได้รับการพัฒนาให้มีความเจริญขึ้นมาตามลำดับ เท่าที่ทราบเริ่มจากในสมัยของพระเดชพระคุณพระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ หรือหลวงพ่อเตียง สมัยพระครูวิเวกธรรมมาภิรมย์ หรือหลวงพ่อเทิ้ม และสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันคะ

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และผู้คนกำลังยืน


ที่เรียกชื่
อกันว่าวัดเขารูปช้างเพราะมีเจดีย์แบบลังกาตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันมองดูคล้ายช้างนั่นเอง คะจึงเป็นที่มาของชื่อวัดว่าวัดเขารูปช้างการเดินขึ้นไปกราบไหว้เจดีย์บนยอดเขาคุณต้อง เดินขึ้นไปบันไดนาคที่สูง 136 ชั้นซึ่งไม่ลำบากมากนักสามารถเดินได้สบายๆคะเพราะแต่ละจุดจะมีม้านั่งหินอ่อนให้เรานั่งพักเป็นระยะๆคะและมีชุดชมวิวแต่ละจุดที่มีอากาศถ่ายเททำเย็นสบายให้เราผ่อนคลายหายเหนื่อยทีเดียวคะและก่อนจะขึ้นจุดสูงสุดบนเจดีย์จะมีจุดกราบไหว้พระขอพรคะต้องยกนิ้วให้มนุษย์คะสรรสร้างกันเก่งทีเดียวเมื่อสู่ลานกว้างบนยอดเขาซึ่งสูงมากๆคะผู้เขียนถึงกับขาสั่นที่เดีย

วแต่ก็คุ้มค่าคะเพราะเราสามารถจะมองเห็นวิวเมืองพิจิตร และตัวเมืองตะพานหินได้ชัดเจน โดยเฉพาะยามเย็นที่มีแสงสีทองทาบ

ทอลงมาเติมเสน่ห์เมืองพิจิตร สำหรับเจดีย์เก่าแห่งนี้ ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์ มีรั้วรอบองค์เจดีย์ และทางวัดยังได้สร้างวิหารใหญ่ขึ้นอีกหลัง โดยมีเจดีย์เก่าแบบลังกา ทรงเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา นอกจากนี้ยังมีมณฑปแบบจตุรมุขหลังเก่า อยู่ไม่ไกลกัน ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทสำริดและภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องไตรภูมิพระร่วง 

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, กำลังยืน


ประวัติโบราณสถานของวั
ดเขารูปช้างที่มองเห็นเด่นเป็นสง่า คือ เจดีย์แบบลังกา ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีหินสีขาว ซ้อนกันมองดูคล้ายรูปช้าง เจดีย์แต่เดิมเป็นเจดีย์เก่ามาก่อนต่อมาทางวัดได้ ปฏิสังขรณ์ ขึ้นใหม่โดย ได้ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์ มีรั้วรอบองค์เชิงบันไดทางขึ้นคะโดย รูปปั้นโขลงช้าง 5 เชือก บนยอดเขาสามารถมองวิวทิวทัศน์ ของเมืองพิจิตรได้แบบ 360 องศา ซึ่งจะมองเห็นไร่นาของชาวบ้านรวมถึงเส้นถนนที่ตัดมายังวัดด้วย พื้นที่รอบบริเวณพระเจดีย์ทางวัดได้สร้างวิหารใหญ่ขึ้น

หลังหนึ่งและมีเจดีย์เก่าอยู่องค์หนึ่งเป็นเจดีย์แบบลังกาทรงเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา มีตัวระฆังเป็กลีบมะเฟืองแต่ยอดเจดีย์หักแล้ว มี รอยพระพุทธบาทจำลองคะ

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน
ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ต้นไม้, ต้นพืช และสถานที่กลางแจ้ง
หมายเลขบันทึก: 660894เขียนเมื่อ 3 เมษายน 2019 17:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน 2019 17:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท