จะทำอย่างไรถ้าต้องอยู่/เจอกับคนคิดลบ


ปุจฉา #จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างไรกับคนคิดลบ
#ถ้าต้องเจอกับคนคิดลบบ่อยๆ #ต้องทำอย่างไร?

+
วิสัจฉนา ขอตอบแบบภาคปฏิบัติที่แม่ดาวใช้อยู่ในชีวิตประจำวันเนอะ คำถามข้างต้นต่างกันตรงที่ 
+
คำถามแรกคือคนในครอบครัวเราใกล้ชิดเราเป็นคนคิดลบ ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวัน แบบแทบจะหลบเลี่ยงไม่ได้อันนี้จะจี๊ดใจได้ง่ายกว่า และหมดพลังมากกว่าแบบที่ 2 
+
คำถามที่ 2 คืออาจเป็นเพียงคนรู้จัก เพื่อนที่คบกัน เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย คือหมายถึงคนนอกบ้านเรา
+
แต่วิธีการที่แม่ดาวใช้ก็ไม่ต่างกันมากนัก จึงอยากนำมาแบ่งปันเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
+
วิธีการเมื่อต้องอยู่หรือเจอกับคนคิดลบ

1. เหมือนการคิดบวกเลย "#โปรดมีศรัทธาต่อตัวเอง" ว่าเราสามารถอยู่กับคนเหล่านี้ หรือพัฒนาความสามารถของเราให้อยู่/เผชิญกับพวกเขาได้

2. #เห็นใจตัวเองและปรับเปลี่ยนมุมมอง เมื่อเราต้องอยู่หรือเจอกับคนคิดลบ สังเกตความรู้สึกในใจตัวเองนะ เรารู้สึกอย่างไร
ส่วนใหญ่ก็มักไม่ชอบ เราไม่ชอบคนคิดลบ แต่เรากำลังจะเพิ่มประชากรคนคิดลบขึ้นอีก 1 คน คือตัวเราเองใช่หรือเปล่า
ปรับใจตัวเองให้เป็นปกติ คล้ายๆ วิธีการคิดบวก ที่ไม่ให้ค่ากับ คนคิดบวก หรือคนคิดลบ เห็นเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ต่างจากเรา

3. #เห็นใจเขา ทุกพฤติกรรมล้วนมีสาเหตุเสมอ เราอาจไม่รู้ว่าอดีตเขาเจออะไรมาบ้าง หรือจะดีมากหากเราได้รู้เรื่องราวชีวิตในอดีตของเขา รวมถึงวิถีชีวิตของเขาในปัจจุบัน เพราะจะทำให้เราเกิดความเห็นใจ เข้าใจ ให้อภัยเขาได้มากขึ้น ไม่มีใครอยากเป็นคนร้ายกาจ คิดลบคิดร้าย พูดร้อน เขาเองที่เป็นเช่นนี้ก็ถูกทุกข์กระทำมาหนักเช่นนั้น เขาอาจไม่รู้ตัว ที่เขาคิด เขาทำ เขาพูด แต่ละครั้งเราเห็นไหมว่าเขาทุกข์ร้อนอย่างไร คนที่มีความสุขเขาคงไม่ใช้ชีวิตเช่นนี้จริงหรือไม่ บางคนมีพื้นนิสัยมาตั้งแต่เกิดที่จะเป็นคนขี้กังวล ช่างวิตกก็มี พวกนี้จะคิดร้ายไว้ก่อนเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง เขารู้สึกไม่ปลอดภัย ข้อนี้ถ้าพูดให้ลัดสั้นสุดคงเป็นใช้ #ความเมตตา

4. #สื่อสารอย่างมีสติด้วยการใช้คำพูดอย่างสันติ โดยพิจารณาด้วยว่า ณ ตอนนั้น เราพร้อมจะพูดและเขาพร้อมจะฟังเราด้วยหรือเปล่า ถ้าไม่พร้อมเอาสั้นๆ พอ
.
ในฐานะที่เราเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน เรานั้นก็มีความรู้สึก มีความต้องการไม่ต่างจากเขา การที่เราเข้าใจเขา ก็มิใช่ต้องยอมจำนนต่อทุกสิ่งหรือคำพูดร้ายๆ ของเขา เราเองยังเป็นปุถุชนยังไม่ใช่พระอรหันต์ผู้หลุดพ้น กระทบถี่ๆ กระแทกหนักๆ ก็มีกระเทือนใจได้ปกติ 
.
รับรู้อย่างมีสติ เรียงเรียงคำพูดดีๆ และสื่อสารออกไป เช่น ถ้าเขาพูดว่าเธอมันเป็นแม่ที่แย่มากเลี้ยงลูกไม่ได้เรื่อง เราอาจรู้สึกเสียใจ/โกรธ เราต้องการให้เขาเคารพสิทธิความเป็นแม่ของเรา (ต้องการอะไรก็บอกไปตามจริง)
.
แสดงความเข้าใจเขาก่อนและพูดออกมา ว่าที่เขาพูดนั้น เพราะเขากำลังรู้สึกอย่างไรเช่น เขากำลังรู้สึกโกรธ/หรือไม่พอใจที่ลูกของเราไป..............(ระบุพฤติกรรมที่ลูกทำที่คิดว่าทำให้เขาไม่พอใจ)
.
และบอกต่อได้ว่า "ฉันเองก็รู้สึกเสียใจ/ไม่พอใจ(ความรู้สึกของเราจริงๆ) ที่ได้ยินคำพูดแบบนี้ เข้าใจว่าเป็นห่วง ขอบคุณที่เตือนด้วยความหวังดี คำว่าแย่นี้ ช่วยระบุได้ไหมว่าแย่อย่างไร จะได้นำมาปรับปรุงตัวเองได้ถูก" 
เหล่านี้คุณจะสื่อสารออกมาไม่ได้ดี หรือไม่ได้เลย ถ้าขาดสติที่มีกำลังมากพอ
+
5. #มองหาข้อดีที่มีอยู่ในพฤติกรรมคำพูดร้ายๆ มันอาจมีประโยชน์ก็ได้ เขาอาจกำลังชี้ขุมทรัพย์ให้เราอยู่ ซึ่งเราอาจไม่ได้รับจากคนที่พูดจาดีๆ กับเราก็ได้ เพราะเขาอาจเกรงใจ เกรงว่าเราจะเสียใจไม่กล้าบอกข้อไม่ดี ข้อที่ควรแก้ไขให้เรารู้ ลองฟังแล้วนำกลับมาคิดก่อน อย่าเพิ่งด่วนตัดสินโยนทิ้ง เลือกคำพูด ข้อคิดที่มีประโยชน์มาใช้ปรับปรุงพัฒนาตนเองได้ แต่ถ้าพิจารณาแล้วไม่จริงก็ค่อยโยนทิ้งไป ไม่ต้องนำมาใส่ใจ ไม่ต้องเก็บไว้เนอะ
+
6. #ดูแลร่างกายเราและจิตใจเราให้แข็งแรงพอ ฝึกฝนสะสม #สติ เสมอๆ พอเกิดเหตุปุ๊บจะได้ใช้ได้ปั๊บ สติมาปัญญาเกิด
+
7. ในกรณีที่ไม่ใช่คนในครอบครัว เป็นคนนอก #หลบเลี่ยงได้ก็หลบเลี่ยงไปก่อน พูดคุย พบปะเท่าที่จำเป็น 
+
8. กลับไป #ฝึกวิธีการคิดบวก ตามบันทึกเก่าที่เคยแบ่งปันไว้ มันช่วยได้จริงๆ 
+
ข้อดีของการอยู่/เจอกับคนคิดลบ
1. เราได้โอกาสทองในการฝึกฝนสติ ยิ่งเจอบ่อย หากฉวยโอกาสในการฝึก จะมีกำลังสติแข็งแรงเร็วขึ้น

2. เป็นบททดสอบที่ดีมาก สำหรับใครที่ฝึกฝนตนมา จะได้ทดสอบเลยแหละว่าสอบตก หรือสอบผ่าน หากสอบตกก็ฝึกใหม่วนไป

3. เขาอาจเป็นผู้ที่ชี้ช่องโหว่ จุดดำ ข้อผิดพลาดที่ควรแก้ไขให้เราก็ได้ เรียกว่าเป็นครูบาอาจารย์อารมณ์ครูฝึกโหดๆ?
+
หมายเหตุ การฝึกสตินั้น คือ การฝึกรู้อารมณ์ ความคิด ตามความเป็นจริง (รู้กายเคลื่อนไหว รู้ใจคิดนึก) มิใช่การกดข่มความคิดความรู้สึกนะตัวเอง แรกๆ ในการฝึกฝนนั้น ต้องใช้ความอดทนเป็นเบื้องต้นมากกกกกกกสักหน่อย ฝึกบ่อยๆ จะค่อยๆ กลายเป็นความเขัาใจ ความอดทนใช้น้อยลง หรือบางทีไม่ต้องใช้เลยก็มี 
+
เหล่านี้เป็นการแบ่งปันจากประสบการณ์จริงของตัวเอง ค่อยๆ เรียบเรียงถ่ายทอดออกมาแบ่งปัน หรือท่านใดมีวิธีอื่นๆ เสนอแนะ ก็เชิญขวนแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันกันนะคะ เผื่อเพื่อนๆ ที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่จะได้ลอกไปใช้บ้าง?

คำสำคัญ (Tags): #คิดลบ
หมายเลขบันทึก: 658106เขียนเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2018 19:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2018 19:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท