หมู่เฮาแอ่วเหนือ61 :สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์(แม่ริม)


6-12. พฤศจิกายน. 2561. พวกเรารวมตัวกันไปสัมผัสหนาวล่องเรือดอยเต่า-เขื่อนภูมิพล จ.ตาก. 

เช้าวันพฤหัสบดีที่ 8. พฤศจิกายน 2561 ..แม่ริม. เชียงใหม่ คณะเราพักที่ เดอะกัสคิวบูทิกโฮเทล ตื่นเช้าทานอาหารเช้ามีทั้งกาแฟ  ขนมปังและข้าวต้ม วันนี้ตั้งใจนุ่งซิ่น  กางจ้อง แอ่วเหนือค่ะ

ระหว่างรอทุกคนพร้อม ก็เก็บภาพสวย ๆ กับเดอะกัส  ไว้เป็นที่ระลึกค่ะ

ประมาณ 08.00 น.เช้าวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน 2561. คณะของเราจำนวน 9  คน ประกอบด้วย ผอ.จันทร อ.ชนิดา  พลสิงห์ , อ.จิตวัต  อ.กัลยา ธนอัญญาพร  , อ.สุทัศน์  อ.สคราญ  วิเศษสมบัติ , คุณกมลทิพย์  ทิพย์กรรณ , อ.อุษณีย์ ชูแก้ว  และ อ.พชรพร   ออกเดินทาง โดยรถตู้คุณธำรงค์  ครุฑนิ่ม และบริการจาก..บริษัททัวร์ ฤทัยรัศม์ แอคคอมโมเดชั่น แอนด์ทัวร์ (คุณทัย)  เดินทางไปสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จาก อ.แม่ริม ใช้ทางหลวงหมายเลข 1096 (แม่ริม-สะเมิง) ประมาณ 12 กม. สวนสมเด็จฯ อยู่ทางซ้ายมือ  ประมาณ 08.30 น. เราถึงสวนสมเด็จฯ ระหว่างรอเขาซื้อบัตรผ่านก็เก็บภาพสวย ๆ ก่อนค่ะ 

สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,500 ไร่ เป็นสถานที่ อนุรักษ์และ รวบรวมพรรณไม้เป็นหมวดหมู่ตามวงศ์สกุลต่างๆ โดยจัดปลูกให้สอดคล้องกับธรรมชาติมากที่สุดโดย เฉพาะกลุ่มอาคาร เรือนกระจกบนยอดเขาที่มีทั้ง ความสวยงามและความรู้ ทำให้สวนแห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและ สถานที่ศึกษาธรรมชาติ ด้านพืช และ ภูมิทัศน์ที่โดดเด่นมากสวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เดิมเรียกว่า "สวนพฤกษศาสตร์แม่สา" นับว่าเป็น สวนพฤกษศาสตร์แห่งแรก ของประเทศไทย ที่มีการบริหารจัดการตามมาตรฐาน สากล มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาวิจัย และให้ความรู้ ทางด้านพฤกษศาสตร์ ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2537 องค์การสวนพฤกษศาสตร์ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต จากสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ว่า "สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  ที่นี่มี Canopy walkway  หรือทางเดินลอยฟ้าเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดใน ประเทศไทย  เป็นสถานที่เราจะเข้าไปชมเป็นที่แรก  ต้องเสียค่าผ่านประตูและฝากสิ่งของประเภทร่ม หรืออะไรที่ยาว ๆ ที่จะเกียวกับกิ่งไม้ได้ ห้ามสวมส้นสูง

สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ได้สร้าง Canopy walkway  หรือทางเดินลอยฟ้าเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดใน ประเทศไทย ด้วยระยะทางกว่า 400 เมตร และระดับความสูงกว่า 20 เมตร โดยออกแบบให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ โครงสร้างทำมาจากเหล็กกล้า แข็งแรง บางช่วงยังมีกระจกใส สามารถมองเห็นลงไปด้านล่างได้

ลงจากสะพานแล้วเดินชม  สิ่งน่าสนใจในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  เก็บภาพสวย ๆ อย่างเพลิดเพลิน

- กลุ่มอาคารเรือนกระจกอาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนลานเนินเขาที่สวยงาม ภายในอาคารใหญ่รวบรวมพรรณไม้ใน เขตป่าดงดิบจากทุกภูมิภาค ของทวีปเอเชีย ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการควบคุมระดับความชื้นสัมพัทธ์ โดยการฉีดละอองน้ำใน เรือนกระจก รวมทั้งมีน้ำตกจำลองด้วย จัดแต่งสภาพ เหมือนกับเข้าไปอยู่ในป่าจริงๆ นอกจากนี้อาคารเรือนกระจกอื่นๆ ก็มีพรรณไม้ ที่น่าสนใจ เช่น พืชทะเลทราย พรรณไม้น้ำ เฟิน กล้วยไม้ เป็นต้น

- เรือนกล้วยไม้ไทยในเรือนนี้ได้รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้กว่า 350 ชนิด ซึ่งเป็นกล้วยไม้ป่าที่มีสีสันสวยงาม หลายชนิดมีกลิ่นหอม ส่วนใหญ่จะทยอยออก ดอกตลอดปี โดยรวบรวมมาจากป่าดงดิบ ป่าเต็งรัง ซึ่งบางพันธุ์หาดูได้ยากและบางชนิดใกล้สูญพันธุ์

- เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สวนพฤกษศาสตร์ได้จัดเส้นทางเดินชมพรรณไม้ตาม จัดไว้ 4 เส้น คือ 1.เส้นทางน้ำตกแม่สาน้อย-สวนหิน-เรือนรวมพันธุ์กล้วยไม้ไทย (Waterfall Trail) ระยะทาง 300 เมตร 2.เส้นทางสวนรุกชาติ (Arboretum Trail) ระยะทาง 600 เมตร 3. เส้นทางวลัยชาติ (Climber Trail) ระยะทาง 2 กม. 4. เส้นทางพันธุ์ไม้ประจำจังหวัด ระยะทาง 800 เมตร

นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพรรณไม้ที่รวบรวมไว้กว่า 30 วงศ์ มีวงศ์ปาล์ม เตย ราชพฤกษ์ วัลยชาติ (ไม้เลื้อย) ขิงข่า เป็นอาทิ แต่ละชนิดจะมีป้าย ชื่อพรรณไม้ที่ถูกต้องไว้ให้ศึกษาภายในสวนพฤกษศาสตร์ยังมีสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ บริเวณน้ำตกแม่สาน้อย ซึ่งเป็นลำธารเล็กๆ มีผู้คนนิยมนำอาหารไปปิกนิกอยู่เป็นประจำ

ชมเรือนกล้วยไม้ไทยในเรือนนี้ได้รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้กว่า 350 ชนิด ซึ่งเป็นกล้วยไม้ป่าที่มีสีสันสวยงาม หลายชนิดมีกลิ่นหอม ส่วนใหญ่จะทยอยออก ดอกตลอดปี โดยรวบรวมมาจากป่าดงดิบ ป่าเต็งรัง ซึ่งบางพันธุ์หาดูได้ยากและบางชนิดใกล้สูญพันธุ์

ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.30-17.00 น. ค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 40 บาท นักเรียน นักศึกษา คนละ  2 0 บาท ผู้ใหญ่อายุเกิน 60 ภิกษุ สมาเณร เด็กอายุต่ำกว่า 12 ไม่เสียค่าเข้าชม รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 100 บาท รถบัส คันละ 200 บาท


ดื่มด่ำกับธรรมชาติและอากาศที่สบาย ๆ คณะเราก็กลับขึ้นรถเพื่อเดินทางไปเที่ยว....ปาย.


















หมายเลขบันทึก: 658012เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2018 13:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2018 12:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท