ในวันที่ลูกฉัน...ไปเข้าค่าย


เช้าวันนี้ ลูกเสือตัวกลมของฉันไปเข้าค่ายที่โรงเรียน 1 คืน พรุ่งนี้ 10 โมงก็ได้กลับบ้านแล้ว? 
+
ปีที่แล้วในการเตรียมกระเป๋าเข้าค่าย ฉันให้ลูกเตรียมกระเป๋าเอง โดยแนะนำนิดหน่อย ให้เขียนรายการของที่จะนำไปออกมา และขาดสิ่งไหนฉันก็จะถามให้เขาคิดคำตอบของที่ลืม คล้ายๆ การใบ้คำ? เช่น ลืมเขียน ว่าต้องเอายากิน ยาทา ประจำตัวไป ก็จะถามว่า แล้วถ้าเกิดอาการคันขึ้นมาลูกจะทำอย่างไร ลูกก็จะคิดได้เอง
+
ปีนี้ ป.6 ถือเป็นพี่ใหญ่สุดในโรงเรียน เรื่องการเตรียมกระเป๋าเข้าค่าย เคยมีประสบการณ์มาแล้ว 1 ครั้ง และก็ไม่ต่างจากการเตรียมกระเป๋าไปบ้านยายนัก (ต่างจังหวัด) ดังนั้นฉันคิดว่าลูกมีการฝึกฝนซ้ำๆ เดือนละครั้งเป็นอย่างน้อยเรื่องการจัดกระเป๋าไปนอนที่อื่น ฉันจึงปล่อยให้เขาเตรียมเองลำพัง
+
เย็นวันก่อนเข้าค่าย ลูกหลงเพลินกับการดูคลิป เล่นเกมมือถือ ด้วยฉันอนุญาตให้เขาตามคำขอ ขอแลกวันใช้โทรศัพท์อิสระ (ปกติเป็นวันเสาร์) มาเป็นเย็นวันศุกร์ ฉันขอให้เขาเก็บกระเป๋าเตรียมเข้าค่ายก่อน แล้วค่อยใช้ 
+
ลูกเข้านอน ฉันแอบส่องกระเป๋า ที่เปิดอ้าค้างอยู่ คือเก็บแบบไม่ปิดกระเป๋า ไม่ได้รื้อค้น เพียงแค่มองๆ และคิดว่า น่าจะลืมผ้าเช็ดตัว เพราะไม่เห็น
+
ลูกตื่นมาแต่เช้าตรู่กว่าปกติ คงตื่นเต้นอยากจะไปเข้าค่าย ปากก็บอกไม่อยากไป ฉันถามว่าเตรียมกระเป๋าสิ่งของพร้อมหมดแล้วใช่ไหมครับ ลูกตอบรับ ว่าใช่เรียบร้อยหมดแล้ว
+
ฉันยิ้ม และวางใจ คือวางเรื่องผ้าเช็ดตัวไว้ มันเป็นปัญหาของลูก ความรับผิดชอบของเขา และเราก็ได้ทำหน้าที่ของเราแล้วคือถามเตือนแล้ว เดินไปทำอาหารเช้าต่อ ก่อนไป
+
ลูกถามว่า "แม่จะไปดูงานแสดงรอบกองไฟไหม?" ตอบวนไป
"แม่อยากไปนะ แต่แม่อยากให้ลูกได้ใช้ชีวิตกับเพื่อนๆ เต็มที่ แม่จะรอฟังเรื่องเล่าจากลูก"

"แม่มีเพื่อนหลายคนเลยที่อยากมาเข้าค่ายแต่เช้า แต่มาไม่ได้ต้องไปสอบเพชรยอดมงกุฎ ต้องไปสอบบลาๆๆๆ แต่พอสอบเสร็จแล้วก็จะตามมาเข้าค่ายอีกที (จำไม่ได้ว่าสอบอะไรที่ลูกเล่า) ฉันรับฟังลูกเล่า

"แม่ไปรับมีศีลกลับมานอนบ้านก็ได้นะครูไม่ว่า เพื่อนๆ คนอื่นก็มีคนที่พ่อแม่มารับไปนอนที่บ้าน" ฉันยิ้มและตอบ วนไป "ไปใช้ชีวิตให้สนุกกับเพื่อนๆ นะครับ 1 คืน พรุ่งนี้เจอกัน"

ฉันเลือกที่จะกระโดดข้ามการสะท้อนความรู้สึกลูกบางอย่างออกไป เพราะฉันคิดว่า ความรู้สึกนั้นมันเล็กน้อยมาก เป็นความกังวลเล็กๆ ฉันเชื่อว่าเขาจัดการดูแลหัวใจตัวเองได้
+
โชคดีนะลูกเสือน้อย ขอให้สนุกกับการเรียนรู้ชีวิต แม่ไม่รู้หรอกว่าลืมจริงไหม แม่แค่ไม่เห็น และแม่ก็ไม่ได้รื้อตรวจดูกระเป๋า 
ฉันกอดลูก หอมเขา พรุ่งนี้เราก็ได้พบกันใหม่
รอฟังเรื่องเล่าจากลูก?
+
ฉันไม่รู้หรอกว่าพ่อแม่บ้านอื่นเป็นอย่างไร
สิ่งที่เขาทำเป็นกรรมของเขา 
และสิ่งที่เราทำเป็นกรรมของเขา
เขาและเรามีความเชื่อ ความเข้าใจต่างกันไป
+
ทุกทางเลือกมีผลลัพธ์เสมอ 
ฉันเลือกที่จะปล่อยให้ลูกได้ใช้ชีวิตที่ผิดพลาดได้
หากไม่ถึงกับเสี่ยงต่อความเป็นความตายของชีวิต
ผิดพลาดวันนี้ ก็ได้โอกาสเรียนรู้ที่จะแก้ไขปรับปรุง
ได้ตั้งแต่วันนี้ เป็นโอกาสทองของลูก 
โดยเราไม่ทับถมซ้ำเติมเพิ่มทุกข์เขาเนอะ
รับรู้ รับฟังสะท้อนความรู้สึกลูก ตั้งคำถามให้เขาฉุกคิด
( ย้ำความรู้สึกลูกที่เรารับรู้ได้มิใช่ความรู้สึกตัวเอง) 
+
แต่ถ้าเขาใช้ชีวิตได้อย่างดี เราก็มีหน้าที่ชื่นชม
ตัวเขาเองก็จะภูมิใจ ความสำเร็จนี้เป็นของเขาเต็มๆ
ไม่ใช่สำเร็จจากที่พ่อแม่คอยกำกับ 
ความภูมิใจย้ายมาที่ใจพ่อแม่?
+
รักลูก #โปรดระวัง!!! #ความหวังดีที่มีคม นะคะ?

หมายเลขบันทึก: 658011เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2018 12:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2018 12:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท