วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๑ ทีมผู้ประสานงานรายวิชา ๐๐๓๕๐๐๑ หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน ร่วมลงพื้นที่เพื่อศึกษาปัญหาชุมชนกับนิสิตหลักสูตร English for Internaional Communication (EIC) ของภาควิชาภาษาตะวันตก คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ท่าน ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ พร้อมกับบรรยายให้ข้อมูลเบื้องต้นอย่างดีเยี่ยม ... ผมขออนุญาตท่านเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเบื้องต้น เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับนิสิตและอาจารย์ทุกคนที่จะมาช่วยกันเรื่องการจัดการขยะในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลท่าขอนยาง ... ขอขอบคุณท่านมากๆ ครับ และขอชื่นชมน้องเจ้าหน้าที่ที่ทำสไลด์ให้ข้อมูลได้ดีมากๆ
ข้อมูลพื้นฐาน
- เทศบาลตำบลท่าขอนยาง มีพื้นที่ทั้งหมด ๓๘.๖๒ ตารางกิโลเมตร ๑๕ หมู่บ้าน
- หรือคิดเป็นประมาณ ๒๔,๒๖๓ ไร่ เป็นพื้นที่การเกษตรประมาณร้อยละ ๘๐ พื้นที่สาธารณะประโยชน์ร้อยะเกือบ ๒๐ ที่เหลือเป็นพื้นที่อยู่อาศัยประมาณ ๒ พันไร่
- ตามทะเบียนราษฎร์ มีจำนวนประชากรเพียง ๘,๖๖๓ ชายหญิงเกือบครึ่งๆ
- ประชากรแฝงประมาณ ๓๐,๐๐๐ คน เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- หากประชากรแฝงเหล่านี้ ย้ายทะเบียนราษฎร์มาขึ้นกับเทศบาลฯ เทศบาลท่าขอนยางจะได้รับงบประมาณจากเพื่อจัดการดูแลประมาณ ๗๕ ล้านบาทต่อปี (คนละประมาณ ๒๕,๐๐๐ บาทต่อคน)
- สังเกตว่า มีศูนย์การเรียนรู้เกษตรพอเพียง ๑ แห่ง ที่บ้านหัวขัว
- มีศูนย์สาธารณสุขมูลฐานตำบล ๑๕ แห่ง และ
- มีวัด ๙ แห่ง และสำนักสงฆ์ ๒ แห่ง
- มะเร็งคือสาเหตุอันดับหนึ่งของการตาย มากถึงร้อยละ ๒๐
- สาเหตุของการเสียชีวิตที่มีต้นเหตุมาจากอาหารรวมกันสูงถึงร้อยละ ๔๐ มีคนเสียชีวิตเพราะโรคชราเพียงร้อยละ ๑๐ เท่านั้น (ผมเดาว่า ที่เหลืออีกร้อยละ ๔๐ อาจตายด้วยอุบัติเหตุ)
- มีผู้ทำเกษตรกรรมร้อยละ ๓๓ ไม่ถึงครึ่ง
- รับจ้างทั่วไปสูงถึง ร้อยละ ๒๓ ค้าขายเองเพียงร้อยละ ๗
ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาขยะ
- มีกิจการหอพักที่ขึ้นทะเบียน ๓๘๕ หอพัก ... ความจริงมีหอพักมากถึง ๔๐๕ หอพัก
- มีร้านมินิมาร์ทมากถึง ๒๗๘ แห่ง อาคารพาณฺชย์ให้เช่ามากถึง ๑๑๙ แห่ง โรงแรม ๘ แห่ง และร้านอาหาร ๙๐ แห่ง ... ผมตีความว่า สถานที่เหล่านี้เกี่ยวข้องกับนิสิตประชากรแฝงกว่า ๓๐,๐๐๐ คน และเป็นแหล่งก่อขยะหลัก
- เทศบาลมีรถเก็บขนขยะ ๓ คัน ... มีพนักงานท้ายรถรวมแล้วประมาณ ๑๒ คน
- ปริมาณขยะต่อปีอยู่ที่ประมาณ ๓,๒๐๐ ตัน ต่อเดือนประมาณ ๓๒๐ ตัน หรือคิดเป็นประมาณ ๑๐ ตัน ต่อวัน ... ท่าน ผอ. บอกว่า นี่เป็นปริมาณที่เราเก็บขนได้ จริงๆ แล้วแต่ละวันจะมีการก่อขยะในเขตถึงวันละ ๓๐ ตัน (เฉพาะในเขตเทศบาล ไม่รวมหมู่บ้านรอบนอก)
- ในการทิ้งขยะที่บ่อขยะหนองปลิง (ดูที่นี่) เทศบาลฯ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการทิ้งขยะตันละ ๔๐๐ บาท คิดเป็นสัปดาห์ละ ๔,๐๐๐ บาท เดือนละ ๑๒๐,๐๐๐ บาท ปีละ ๑,๔๐๐,๐๐๐ บาท
- นอกจากนั้นยังต้องจ่ายค่าน้ำมันเชือเพลิงถึงเกือบ ๘๐๐,๐๐๐ บาท ค่าจ้างคนงานอีก ๗๐๐,๐๐๐ และค่าซ่อมบำรุงรถอีก ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท
- รวมๆ คือเกือบ ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาทต่อปี ที่เทศบาลต้องจ่ายเรื่องขยะ
- ปัญหาและอุปสรรคสำคัญในการจัดการขยะ
- ไม่มีบ่อเก็บขยะของตนเอง
- ขยะมีปริมาณมาก เก็บขนได้ไม่หมดในแต่ละวัน ... เก็บได้เพียง ๑ ใน ๓ ของขยะเท่านั้น
- มีขยะจากนอกพื้นที่เข้ามาทิ้งในเขตที่เทศบาลรับผิดชอบ
- รถเก็บขยะชำรุดบ่อย ต้องซ่อมบำรุงบ่อยๆ
- ผู้ก่อขยะขาดจิตสำนึกที่จะช่วยกันลดปริมาณขยะ
- มีความเสี่ยงอย่างมาก กรณีที่เทศบาลเมืองซึ่งดูแลบ่อขยะหนองปลิง ปิดปรับปรุงไม่ให้นำขยะไปทิ้ง
การจัดการขยะของเทศบาล
- แนวทางในการจัดการขยะและแก้ไขปัญหาที่เทศบาลทำอย่างต่อเนื่อง มี ๔ แนวทาง ได้แก่
- เก็บขนไปทิ้งบ่อขยะหนองปลิง
- ลดปริมาณ
- สร้างการมีส่วนร่วมจากชุมชน
- สร้างจิตสำนึกและรณรงค์กับนิสิต นักเรียน ร้านอาหาร ... ท่านบอกว่าไม่ได้ผลเลย
- โดยแต่ละแนวทาง ท่านได้นำเสนอและเล่าเรื่องให้ฟังค่อนข้างละเอียด ... เห็นถึงความพยายามจัดการขยะอย่างมาก
ประเด็นที่น่าเห็นใจยิ่ง
- ปริมาณขยะเยอะมากเกินไป ไม่มีทางจะเก็บขนได้ทัน .... ทางเดียวที่จะแก้ไขได้คือการลดปริมาณขยะ
- ผู้ที่ก่อขยะส่วนใหญ่น่าจะมาจากร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงต่างๆ และขยะจากหอพัก ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับประชากรแฝง ๓๐,๐๐๐ คน ที่เป็นนิสิต
ผมฝันว่า นิสิตที่จะเรียนรายวิชาหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชนทุกคนในปีการศึกษาที่ ๒-๒๕๖๑ แยกขยะ และลดปริมาณขยะอย่างพร้อมเพียงกัน และช่วยกันคนละไม้ละเมือในการหาแนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์