เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โดย มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถาบันแม่ข่าย จัดโครงการพัฒนาศักยภาพและติดตามประเมินผลโครงการของสถาบันเครือ 15 สถาบัน และด้วยความตั้งใจว่าอยากจะชวนสถาบันสมาชิกไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเครือข่าย ฯ ภาคเหนือตอนล่างที่มีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นสถาบันแม่ข่าย จึงได้ประสานงานและทราบว่าเครือข่าย ฯ ภาคเหนือตอนล่าง กำหนดจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันภายในเครือข่าย ระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน 2561 ที่จังหวัดพิษณุโลก
มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงถือโอกาสเดียวกันนี้จัดโครงการเพื่อพาสมาชิกจากเครือข่ายภาคอีสานตอนบนไปพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับพี่น้องเครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง โดยให้เหตุผลว่าเครือข่ายภาคเหนือตอนล่างเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งและมีผลการปฏิบัติที่ดี พร้อมทั้งมีนวัตกรรมการทำงานร่วมกันภายในเครือข่ายที่เข้มแข็ง
ในฐานะผู้จัดโครงการ ตั้ง “เป้าหมาย” ไว้สามประเด็น ประเด็นแรกคืออยากให้สถาบันเครือข่ายได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อสานสัมพันธ์ภายในเครือข่าย เพราะเครือข่ายอีสานตอนบน มีโอกาสพบปะกันน้อย จึงถือโอกาสที่จะสานสัมพันธ์ร่วมกัน ให้เครือข่ายเข้มแข็ง และร่วมมือกันขับเคลื่อนงานต่อไป ประเด็นถัดมาคืออยากให้สถาบันเครือข่ายภาคอีสานตอนบน ได้พบปะแลกเปลี่ยนหรือเกิดมุมมองใหม่ ๆ จากเครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง เพื่อนำแนวคิดมาประยุกต์ใช้หรือปรับปรุงและพัฒนางานให้ดีขึ้น เพื่อความยั่งยืน ประเด็นสุดท้ายคือการที่ทั้งสองเครือข่ายได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน เพื่อมองภาพกว้างขึ้นสำหรับงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ... อย่างน้อย ก็ทำให้เรารู้จักกันมากขึ้นภายในเครือข่าย และมีเพื่อนเพิ่มขึ้นระหว่างเครือข่ายทั้งสอง
เมื่อการเดินทางไปถึงพิษณุโลก เครือข่ายอีสานตอนบน มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในเครือข่ายและทำความรู้จักมักคุ้นกัน และได้สอบถามสมาชิกถึง “ความคาดหวัง” ของการเดินทางมาร่วมโครงการในครั้งนี้ ใส่กระดาษแผ่นเล็ก เพื่อบอกเล่าความในใจ... ส่วนใหญ่คาดหวัง จะได้รับความรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปปรับใช้ในมหาวิทยาลัย ได้พบเพื่อนใหม่และสัมพันธภาพที่ดีจากเพื่อนต่างสถาบัน พร้อมทั้งขยายเครือข่าย หวังจะได้เรียนรู้รูปแบบการดำเนินโครงการของสถาบันต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจและเรียนรู้ ได้รับแนวคิดและมุมมองใหม่ ๆ เพื่อนำไปปรับใช้หรือพัฒนาโครงการ การได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการทำงาน การรู้บทบาทหน้าที่ของการเป็นเครือข่ายที่ดี การให้ความร่วมมือ การแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้...และ “หวังว่า” จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนเครือข่ายให้ยั่งยืน เกิดประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม...มีผู้ร่วมเดินทาง ได้บรรจงแต่งร้อยกรองไว้ว่า
มาพิษณุโลกนี้ ยังหวัง
หวังได้มิตรและหวัง รักด้วย
หวังอะไรมิสู้หวัง ปราดเปรื่อง
หวังนำความรู้ช่วย พวกพ้อง มิตรนา
วันที่สองของการเดินทางเพื่อเรียนรู้เรื่องเล่าเร้าพลัง โดยหวังเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแบบ “ฟังมาก ย่อมได้ปัญญา” ... ก่อนจะไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เครือข่ายอีสานตอนบน เดินทางไปเยี่ยมชมพระราชวังจันทน์และพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ทราบเรื่องราวของ “พิษณุโลกสองแคว” แล้วข้ามแม่น้ำน่านไปกราบนมัสการพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ... แล้วจะมุ่งหน้าไปพบพี่น้องภาคเหนือตอนล่างที่โรงแรมหรรษนันท์ พากันหอบเอา “ความหวัง” อันทรงพลังไป “ฟัง” พี่น้องเครือข่ายภาคเหนือตอนบนนำเสนอผลการจัดโครงการ/กิจกรรม รูปแบบการบริหารจัดการที่แตกต่าง การใช้เวทีเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการขอให้คน “ฟัง” ร่วมกันตั้งคำถามผู้นำเสนอ เป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญในการช่วยให้ทัศนะหรือมุมมองกว้างออกไปเพื่อการ “พัฒนา” เพราะคำถามล้วนมาจากความสงสัยใคร่ “รู้” จึงเป็นส่วนช่วยเติมเต็มสำหรับผู้ให้และผู้รับ...จึงได้รับผลดีทั้งสองฝ่าย กิจกรรมในภาคเช้า จึงเป็นกิจกรรมที่ต้อง “ฟัง” อย่างใคร่ครวญ คิดตาม แล้วช่วยกันชี้ช่องหรือแนวทางการพัฒนาร่วมกัน... ดั่งพุทธสุภาษิตที่ว่า “สุตมยปัญญา” การมีปัญญาอันเกิดจากการได้ฟัง ได้อ่าน ได้เรียนรู้เรื่องราวจากผู้อื่น
ในช่วงบ่าย แม่ข่ายภาคเหนือตอนล่าง สร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของคณาจารย์และนิสิตนักศึกษาได้อย่างเข้มข้น ไม่แบ่งเหนือล่างอีสานบน แต่คละคนให้ทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างลงตัว มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนมุมมองได้อย่างเมามัน พลันผุดสาระจากการคิดมองเห็นต่าง แล้วหักล้างกันด้วยเหตุและผล เพื่อเป้าหมายเรียนรู้ความเป็นคน แก้ปัญญาเยาวชนให้ไกลยาเสพติด
จึงได้เห็นความมุ่งมั่นของฝ่ายจัดการคือ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ได้สร้างกลไกสำคัญให้เครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง มีแนวทางการทำงานร่วมกัน ผสานความต่างของสถาบันและพื้นที่ให้สามารถขับเคลื่อนงานในภาพรวมของเครือข่ายได้อย่างดีเยี่ยม การสร้างกระบวนการและกลไกให้นิสิตนักศึกษาเป็นผู้มีส่วนร่วมคิด วางแผน และทำงาน จึงเป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อความสำเร็จและยั่งยืน เพราะให้นิสิตนักศึกษาช่วยกันคิด หาวิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาของเหล่านิสิตนักศึกษาด้วยกันเอง ส่วนอาจารย์และเจ้าหน้าที่ เป็นส่วนส่งเสริม สนับสนุน ให้นิสิตนักศึกษาสามารถทำหน้าที่ขับเคลื่อนภารกิจได้อย่างสมบูรณ์
ระหว่างที่ทำกิจกรรมร่วมกันทั้งสองเครือข่าย รวมถึงระหว่างเดินทางไป-กลับ ขอนแก่นถึงพิษณุโลก จากการสังเกตพบว่าสมาชิกเครือข่ายภาคอีสานตอนบน มีความตื่นตัว ใคร่รู้และอยากได้บทเรียนที่ดีจากเครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง จากการสอบถามและพูดคุย รวมถึงการสอบถามข้อมูลและการถอดบทเรียนจากผู้ร่วมเดินทางมีประเด็นที่น่าสนใจคือ 1) ระดับความสุขและความพึงพอใจจากกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนล่างกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด 2) ประเด็นหรือเนื้อหาสาระจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนล่างกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้เห็นกระบวนการทำงานของเครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง มีการทำงานที่น่าสนใจ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในกลุ่มเครือข่ายอีสานตอนบนได้ และได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทำให้เห็นมุมมองที่แตกต่างในการทำกิจกรรม ทำความรู้จักเพื่อนและอาจารย์จากต่างภูมิภาค ต่างสถาบันซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการทำงานของเครือข่าย ได้ทราบกลไกและการบริหารจัดการของเครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง และการนำปัญหามาแลกเปลี่ยนเพื่อหาแนวทางร่วมกันในการพัฒนางาน 3) ประเด็นที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเครือข่ายภาคเหนือตอนล่างแล้วคิดว่าจะสามารถนำมาพัฒนาเครือข่ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนให้เกิดความยั่งยืน คือ การบำบัดการติดยาด้วยสมาธิและธรรมะรวมถึงการร่วมมือจากภาคสังคมในบ้าน วัด เเละโรงเรียน รวมถึงในโลกออนไลน์ ในการใช้กลวิธีปลูกป่าสร้างกระเเส เพื่อเป็นเทรนในการใช้ชีวิตที่ปราศจากการใช้ยาเสพติด และโดยใช้วิธีการน้ำดีไล่น้ำเสีย โดยพยายามสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพไม่พึ่งยาเสพติดมาเจือจางกับจำนวนคนติดยา วิธีนี้จะสามารถเปลี่ยนน้ำเสียให้เป็นน้ำดีจากคนติดยาให้กลายเป็นไม่ติดยาและมีคุณค่าต่อสังคมมากที่สุดอีกกลุ่มหนึ่งด้วย
ยังมีอีกหลาย ๆ ความคิดเห็นและข้อเสนอของผู้ร่วมเดินทาง... เพื่อช่วยกันเติมเต็มเรื่องราวทั้งระหว่างการเดินทางขอนแก่น-พิษณุโลก และขอนแก่น-สถาบันของตน การถึงที่หมายด้วยความสวัสดิภาพไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง หากแต่การมองไปข้างหน้าเพื่อการทำงานสานต่อภารกิจและทำหน้าที่เพื่อรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่องต่างหาก เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การทำงานของเครือข่ายยั่งยืน และสิ่งสำคัญอีกประการคือ ความเชื่อมั่นว่าทุก ๆ หน่วย ทุก ๆ ส่วน ยังมีความสำคัญเพื่อทำหน้าที่และแบ่งปันเกื้อกูล เติมใจและไฟฝันให้กันและกัน เพื่อความสำเร็จ...และนั่นคือ “ความศรัทธา” ที่จะนำพาเราไปถึงฝั่งฝัน “ร่วมกัน” การเรียนรู้ข้ามเครือข่าย จึงสง่างาม
ภาสกร เตือประโคน
รองผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ไม่มีความเห็น