ติดเชื้อ HPV


“หมอ หนูติดโรคมาจากสามี หมอช่วยหน่อย” 

นี่คือประโยคนำหลังจากที่ผมเชิญทั้งคู่นั่งลง หญิงชายคู่นี้ผมเคยดูแลเขามาก่อน จึงพอคุ้นๆหน้าอยู่บ้าง

เธอเกริ่นด้วยข้อความข้างต้น และจากนั้นก็มาอีกชุดใหญ่

“หมอรู้มั้ย นี่ถ้าไม่เค้น ก็คงไม่รู้ความจริงหรอก” เธอค้อนสามีให้ขวับหนึ่งแล้วตั้งท่าจะพูดต่อ จนผมต้องเบรค

“เดี๋ยว ใจเย็นๆ ถ้าจะมานั่งกระแนะกระแหนกันแถวนี้ผมไม่โอเค หยุดและตั้งสติ แล้วค่อยๆเล่าเรื่องให้ผมฟังช้าๆ อย่าใช้อารมณ์ ผมเป็นหมอสูติ ไม่ใข่จิตแพทย์” ดูเหมือนดุ แต่แท้จริงแล้ว ก็ออกจะขำๆ

หยุดจริงๆ 

เธอเงียบลง พร้อมกับสีหน้าเจื่อนๆของฝ่ายชาย

“เล่าให้ฟังหน่อย เป็นไงมาไง เห็นเธอหายไปเสียตั้งนาน” ผมเริ่มการสนทนาให้เพื่อลดความอึดอัด

“หนูมีเลือดออกผิดปกติมานาน ๓ เดือนค่ะหมอ จึงไปโรงพยาบาล หมอเค้าตรวจ และดูดโพรงมดลูก บอกว่าปกติดี แต่ผลการตรวจมะเร็งที่ปากมดลูกมันผิดปกติ หมอเค้าบอกว่าติดเชื้อ HPV มาค่ะ” โอเค ผมเริ่มนึกภาพตาม

เธอมีเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก หมอจึงดูดเนื้อโพรงมดลูกไปตรวจ จากนั้น ผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกออกมาพบว่าผิดปกติ 

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่เธอบอกว่า ติดโรคมาจากสามี” ถึงตรงนี้ผมไปต่อไม่ถูกแฮะ

“หมอรู้มั้ย วันที่หนูถูกส่องกล้องน่ะ หมอเค้าบอกว่า มันมีรอยโรคอยู่ ๓ จุด เค้าจึงตัดออกไปตรวจให้” เธอกำลังเล่าว่า เมื่อผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกออกมาผิดปกติ จึงถูกส่งไปส่องกล้องที่ปากมดลูกเพื่อการวินิจฉัยต่อไป ซึ่งอันนี้ผมก็เข้าใจ แต่ก็ยังงงกับการบ่นของเธออยู่

“หนูถามว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร หมอบอกว่าเกิดจากเชื้อ HPV” ฮั่นแน่ นิยายเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้ว

“หมอบอกว่า มันเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” ออ นั่นไง เพียงประโยคนี้ บ้านเขาเกือบแตก

“คราวนี้หนูก็กลับไปเค้นสิคะ ว่าหนูติดมาได้อย่างไรเพราะหนูมีสามีคนเดียว จึงได้รู้ เค้าว่าแอบไปเที่ยวนอกบ้านมา ดูซิ อยู่ดีๆสามีก็เอาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาให้” เธอยังคงบ่นต่อเนื่อง ส่วนสามีก็นั่งหน้าเจื่อนๆ

“บ่นจริงเว้ย ถามจริงเหอะ ที่บ้านน่ะ บ่นแบบนี้มั้ยนิ” ผมถาม

“ครับหมอ แบบนี้เลย” ชายคนนั่นเพิ่งได้พูดครั้งแรก

“แล้วจะไม่ให้บ่นได้ยังไง.....” ครับ เธอยังคงต่ออีกชุด

“หยุด” ผมใช้มุขเดิม

“ฟังให้ดี เท่าที่เธอเล่ามานั้น ที่โรงพยาบาลเค้าดูแลเธอได้อย่างดีตามมาตรฐานเลย แล้วเธอจะมาให้ฉันทำอะไร ห้ามตอบว่าให้ช่วยด่าผัวเธอนะ ฉันทำไม่เป็น นี่ไม่ใช่ผัวฉัน” เอาเข้าไป

“หนูอยากรู้ว่า จะต้องใช้ชีวิตยังไงต่อไปค่ะหมอ หนูยังต้องอยู่กับเค้า เรายังต้องมีเซ็กส์กันต่อ แต่หนูกลัวติดโรคมาอีก หนูยังสาวนะหมอ หนูยังมีอารมณ์ ยังมีความต้องการทางเพศ” เธอบอกมา เสียงแผ่วลง

“ใจเย็นๆ หมอขออนุญาตอธิบายนิดหนึ่ง ไอ้ HPV ที่เธอกำลังตกใจน่ะ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างกับว่ามันจะทำให้เธอจะต้องตายวันพรุ่งนี้มะรืนนี้หรอก ใจเย็นๆ  ไอ้ที่โวยวายมาน่ะ ฉันก็นึกว่าเธอติดหนองในมา” ผมเว้นช่วงหายใจนิดหนึ่ง

“ส่วน HPV น่ะ ฉันไม่เถียง ว่าเธอได้มาจากการมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ได้หมายความว่า ต้องติดมาจากครั้งนี้ มันอาจจะติดมาตั้งแต่เธอสาวๆที่เพิ่งได้กันใหม่ๆ ก็ได้” มันพิสูจน์ไม่ได้หรอกครับ ว่าเป็น HPV ของสมัยไหน บางทีกว่าเจ้า HPV จะทำให้เกิดมะเร็งได้ ก็ผ่านไป ๕ ปี ๑๐ ปีเข้าไปแล้ว ต่างจากหนองใน ที่โดนไปราวสัปดาห์ก็รู้เรื่อง

“ถ้าเธอระแวง จากนี้ไปก็ใช้ถุงยางดิ” ผมเสนอ

“ถ้าเธอไม่มั่นใจ ว่าสามีเธอจะยังเลิกไม่ได้ เธอต้องใช้ถุงยางเท่านั้น สนุกดีออก ถุงยางมีให้เลือกให้เล่นเพียบ จะบอกให้ เวลาฉันจะซื้อถุงยางอนามัยน่ะ ฉันให้ลูกสาวเดินไปเลือกให้นะ จะบอกให้” ทั้งคู่ยิ้มเล็กน้อย

“มันบอกว่าใช้ถุงยางกับเด็ก แต่หนูไม่เชื่อมันหรอก หมอช่วยตรวจสามีให้หนูหน่อย ดูว่ามันจะมี HPV เหลืออยู่มั้ย” เธอยังไม่ยอมเลิกง่ายๆ

“ไม่ ไม่ตรวจ ขี้คร้านจับไข่ผู้ชาย ฉันจะบอกให้นะ ถ้าจะให้ดูว่ามี HPV อยู่ไหมนั่นน่ะ เอาไข่มาแกว่งในน้ำยาพาไปตรวจไม่ได้หรอกนะ น้ำยามันผสมฟอร์มาลีน ขืนเอาไข่มันลงไปแกว่ง รับรอง เจี๊ยวแข็งไม่มีเน่าเลยล่ะเธอเอ๋ย” ผมเย้าไป

“นี่ จะบอกให้นะ ฉันรู้สึกว่า เธอกำลังระแวง เธอกำลังไม่ยอมปล่อยความเชื่อบางอย่าง เธอเป็นผัวเมียกันมา มีลูกด้วยกันมาตั้งสิบปี หากเธอไม่ยอมที่จะให้อภัยกัน ครอบครัวเธอพังแน่นอน จำวันที่รดน้ำสังข์ วันที่แขกอวยพร วันที่เขาสอนว่าให้อภัยไม่ได้แล้วหรือ” พูดออกไปแบบนี้ ผมก็นึกถึงวันของผมเช่นกัน 

ความเงียบเข้ามาปกคลุมนิดหนึ่ง

“ค่ะหมอ แหม..หมอเทศน์เก่งเหมือนกันนะ” ออกมาแนวขำเลยเชียว

ผมหยุดพูดกับเธอ และคราวนี้หันมาทางฝ่ายชาย

“เฮ้ย เวลาไปได้เด็กนอกบ้านนี้สนุกมั้ยนะ” เค้าคงงง ว่าผมจะมาไม้ไหน คำตอบจึงเป็นเพียงการพยักหน้าเบาๆแบบเกรงว่าเมียจะด่าให้อีก

“หมอก็ว่ามันน่าสนุกเหมือนกันนะ” ผมหาพวก และเห็นว่าเจ้าหนุ่มนั่นมันคงเริ่มมีความฮึกเหิม

“มันคงจะสุดยอดมาก ได้ถูกนวดก่อน ได้ดูผู้หญิงคนอื่นมาแก้ผ้านวดให้เรา เมียเรายังงั้ยยังไงก็ทำแบบนั้นไม่ได้นะ เฮ้ย มันน่าจะยอดมาก มีเซ็กส์กัน ถึงจุดสุดยอดทางเพศ หลั่งน้ำ โอว...” ผมยังคงสาดอารมณ์เข้าไปในกองไฟราคะอย่างต่อเนื่อง

“แถมไม่ต้องคิดอะไรมากด้วยนะ ได้กัน จ่ายเงิน มันคือการซื้อขาย จบ ไม่ผูกมัด มันดีเหมือนกัน” กองไฟของผมคงลุกไหม้ ส่วนฝ่ายเมียนั่งทำตาขวางใส่

“เขื่อไหม หมอนี่โคตรอยากไปเที่ยวแบบนายเลยว่ะ แบบว่า เป็นความฝันแบบชายหนุ่มเลยนะเว้ย” เอา เอาเข้าไป

“แต่ก็ไม่เคยทำใจให้ไปลองจริงๆได้ซักที” ผมนึกถึงวันที่ครั้งหนึ่งเคยถูกชวนไปเที่ยวแบบนี้ จำได้ว่าต้องยืนนึก ว่าจะไปหรือไม่ไปด้วยดี คิดไปเจี๊ยวก็เริ่มแข็งเมื่อเห็นความสนุกตรงหน้าแบบไม่มีพันธะ ก็มันคือการซื้อขายไง

“นึกถึงเมียที่ยังนอนหลับอยู่ที่บ้าน ลูกสาวอีก ๒ คนก็นอนรอเราอยู่ นึกๆไปแล้ว ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถทำใจให้ไปลองเอาผู้หญิงอื่นลงสักที” ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แม่ง โคตรพระเอก ผมคิดในใจ

“อันที่จริงมันก็แค่เรื่องซื้อขายนะ แต่ลองคิดดู ถ้าวันหนึ่งลูกเราต้องมาทำงานแบบนี้ มีผู้ชายมาเอากันมากหน้าหลายตา ผมคงนอนตายตาไม่หลับแน่ๆ”

ถึงตรงนี้ ฝ่ายหญิงปาดน้ำตา ฝ่ายชายพยักหน้าแล้วหลบตาต่ำ อันที่จริง ผมก็ไม่รู้หรอก ว่าถึงตอนนี้เขาทั้งคู่คิดอย่างไร

คุยกันเกือบครึ่งชั่วโมง คิดตังค์ ๒๐๐ คาดว่า คงจะได้ปิดกิจการกันเร็วๆนี้ 

ธนพันธ์ ชูบุญอยากลองอยากลอง

๘ กย ๖๑

หมายเลขบันทึก: 652142เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2018 18:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 กันยายน 2018 18:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท