ตื่นเช้าได้ไปใส่บาตรที่วัดป่าบ้านตาด กลับมาเข้าห้องประชุมทันเวลา
วันที่สองของการประชุมเชิงปฏิบัติการ วันนี้นายแพทย์เทอดศักดิ์ เดชคง ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข บรรยาย สาธิตรายบุคคล จัดกลุ่มให้พวกเราได้ฝึก MI (Motivational Interviewing)
อาจารย์ทำให้ดูอย่างมืออาชีพ สนทนาสบาย ๆ แต่เลือกคำ ประโยคที่ทำให้โดนใจคนฟัง ... คลิก จนอยากเปลี่ยนตนเอง
MI การสนทนาสร้างแรงจูงใจ เป็นการสื่อสารสองทาง อย่างฉันท์มิตร เพื่อสร้างแรงจูงใจในผู้รับการปรึกษา จนเกิดความตั้งใจ สามารถก้าวข้ามความลังเล ไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพ
อาจารย์เล่าจากประสบการณ์การเป็นจิตแพทย์ งานให้คำปรึกษาจนผู้ป่วยเลิกเหล้า เลิกยาเสพติด เลิกบุหรี่ได้ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่ควบคุมโรคไม่ได้ เพราะมีพฤติกรรมที่ไม่เอื้อให้สุขภาพดี เช่น เบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้
อาจารย์ยกตัวอย่างจากการนำ MI ไปใช้ในสถานการณ์ที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสม เช่น พยาบาลกำลังจะเย็บแผลให้ผู้ป่วยรถล้มเพราะดื่มสุรา สามารถสนทนาจูงใจในเวลาไม่เกิน ๕ นาที ขออนุญาตคุย จนผู้ป่วยตัดสินใจอยากเริ่มเลิกสุรา และผู้ป่วยยินดีให้เบอร์โทรศัพท์ เพื่อพยาบาลจะได้โทรศัพท์ติดตามคุยต่อสัก ๓ - ๔ ครั้ง
น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ อาจารย์สรุปใกล้เคียง Pareto principles ด้วย การให้คำปรึกษาแบบ ๔๕ นาที ๑๕ - ๒๐ นาที ก็ดี แต่ในสถานการณ์ที่เวลาของผู้ให้บริการจำกัด และตามประสบการณ์การฝึกฝน อาจจะไม่สำเร็จในครั้งเดียว ออกแบบการสนทนารวม ๔ ครั้ง ๆ ละ ๕ - ๑๐ นาที มีผลที่นำไปใช้ในกลุ่มเลิกสุรา กลุ่มผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี ผลลัพธ์การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ใช้ MI
กลุ่มที่พวกเราจะนำไปใช้สนทนาเพื่อสร้างแรงจูงใจให้เลิกบุหรี่ ... ผลลัพธ์น่าจะดีกว่าไม่ทำอะไร (กลุ่มควบคุม) อยู่ที่พวกเราแล้วล่ะ จะออกแบบ Entry point จากระบบบริการสาธารณสุขที่พวกเราทำงานปกติ อย่างไรบ้าง
^_,^
ตีเหล็กต้องตีตอนกำลังร้อน..เหมือนกันมั้ยครับ?
ชอบบรรยากาศที่วัดป่าบ้านตาดที่เคยไปอยู่ครั้งครับ เรียบง่าย สงบ ร่มรื่น ..
ใช่ค่ะอาจารย์ ตอนกำลังสนใจต้องรีบหาทางส่งเสริมชักชวนไปทางที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดี
ไปวัดป่าบ้านตาดทีไร สงบใจได้ดีมากค่ะ
ขอบคุณ อ.ธนิตย์มากค่ะ