ไปค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวของเมือง Dallas จากเวปไซต์ต่างๆ แบบคร่าวๆและวางแผนในการพำนักอยู่ที่นี่เป็นเวลา 4 คืน เลือกเฉพาะที่เป็น ไฮไลท์จริงๆ สามารถเดินทางได้สะดวก *** สรุปว่าสะดวกมากเลยเพราะใช้บริการรถแท็กซี่ตลอดการท่องเที่ยวที่นี่ ***
Dallas City Tour นั่งรถชมเมือง
กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด เป็นกิจกรรมพานั่งรถแนะนำสถานที่สำคัญๆ ในเมืองนี้ว่ามีสิ่งไหนน่าสนใจบ้าง ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ ที่น่าชื่นชมคือใช้พนักงานคนเดียว เป็นผู้หญิงร่างกำยำ ขับรถด้วย บรรยายด้วย แต่หากท่านใดมีเวลาศึกษาและวางแผนที่จะท่องเที่ยวมา แล้ว กิจกรรมนี้ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ
หลังจากนั่งรถชมเมืองแล้ว จึงเดินไปที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวในอาคาร Old Red Museum of Dallas County History & Culture Red Museum เพื่อหาข้อมูลประกอบการเลือกกิจกรรมการท่องเที่ยวที่นี่อีก 3 วันครึ่ง พนักงานสาวที่ประจำอยู่ในอาคาร ให้บริการดีเยี่ยมสมกับการทำหน้าที่ให้บริการ ครั้งแรกผู้เขียนจะสแกนคิวอาร์โค้ดสั่งซื้อ Dallas City Pass ผ่านออนไลน์ แต่เธอแนะนำให้ผู้เขียนไปซื้อตั๋วยังสถานที่แห่งแรกที่จะเข้าไปชมดีกว่า เพระจะได้เอกสารประกอบครบถ้วน ในราคาเดียวกันคือ 49 เหรียญ สามารถเลือกสถานที่เข้าชมได้ถึง 4 แห่ง ในราคาถูกลงไป กว่าครึ่งเลยทีเดียว
1. Sixth Floor Museum at Dealey Plaza (Dallas City pass)
สถานที่แห่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องเข้าไปชม เป็นอันดับแรกเพราะเป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์ช็อกอเมริกา และช็อกโลก มีการลอบสังหารท่านประธานาธิบดี John F Kennedy ลำดับที่ 35 ของสหรัฐเมริกา ระหว่างการมาเยือนแดลลัส กับภรรยาของเขา คุณ Jacqueline Lee Kennedy Onassis เมื่อวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 เวลา 12.30 น. ณ เดลลีย์พลาซา และมือปืนไปแอบซุ่มยิงจากห้องริมสุดขวามือ(มองจากด้านนอก หันหน้าเข้าหาอาคาร) ของชั้นที่ 6 ของโรงเรียน
ชื่นชมการจัดนิทรรศการของที่นี่เป็นอย่างมาก มีการจัดแสดงทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว มีเครื่องรับฟัง ที่ท่านสามารถกดฟังเสียงเมื่อผ่านแต่ละจุด รวมทั้งการจัดสิ่งของ-อุปกรณ์จริงประกอบ ในสถานที่ที่เกิดขึ้นจริงคือชั้นที่ 6 ของโรงเรียน จากนั้นยังจัดห้องให้ชมภาพยนตร์สารคดีโดยสรุป คุ้มค่าต่อการเข้ามาชมเป็นอย่างยิ่ง
แม้ความสามารถด้านภาษาของผู้เขียนจะไม่ได้อยู่ในระดับเชี่ยวชาญ แต่การจัดแสดงนิทรรศการของเขาสามารถส่งผ่านได้ถึงความรู้สึกเศร้าสะเทือนใจ ราวกับอยู่ในเหตุการณ์นั้น จนต้องกลับไปบันทึกภาพแห่งความทรงจำเก็บไว้ในกล้องอีกครั้ง
2. Perot Museum of Nature and Science(Dallas City pass)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จัดแสดงในอาคารรูปร่างแปลกตาที่เน้นให้เห็นถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สีสันสบายๆตาบ่งบอกถึงรสนิยมในระดับสากล มีการจัดแบ่งโซนนิทรรศการ ให้ชมถึง 4 ชั้น ตั้งแต่เริ่มก่อกำเนิดโลก และวิวัฒนาการไปหลายล้านปี จนมาถึงโลกยุค IT
มีการออกแบบอารยะสถาปัตย์ที่เอื้ออำนวยต่อสภาพร่างกายของผู้ชมทุกระดับของวัย และเสนอทางเลือกในการเดินขึ้น-ลง หลายรูปแบบ เช่นบันไดเลื่อน บันไดธรรมดา และลิฟต์
มองเห็นสภาพความพร้อมในการให้บริการเพื่อคุณภาพชีวิต และการให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมความรู้ให้แก่ประชาชน ของเขาสมกับได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
3. Dallas' Reunion Tower GeO-Deck Observation ( Dallas City pass)
สถานที่แห่งนี้เป็นจุดชมทัศนียภาพ เมือง Dallas แบบ 360 องศา ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะนิยมสร้างอาคารสูงๆเพื่อให้ผู้คนขึ้นไปชมความงดงามของเมืองนั้นๆ ความเป็นจริงผู้เขียนก็รู้สึกเฉยๆกับการชมเมืองผ่านกระจกแบบนั้น แต่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยได้พลาดกิจกรรมแบบนี้สักเท่าไร ทั้งนี้เพื่อเปรียบเทียบดูความงามในมุมมองที่ต่างระดับกันนั่นเอง
4.Dallas Arboretum and Botanical Garden( Dallas City pass)
สวนรุกขชาติและสวนพฤกษศาสตร์ Dallas ตั้งอยู่ห่างไกลชุมชนเมืองไปหลายสิบไมล์ทีเดียว ทั้งนี้ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ในเมื่อบินมาตั้งหลายพันไมล์ก็ต้องไปชมกันหน่อย เขาโฆษณาชวนเชื่อว่า เป็น สถานที่ที่สามารถสูดลมหายใจอันสดชื่นเข้าปลอดได้อย่างดี
ยอมว่ารับว่าผู้เขียนเองหลงใหลกับภาพอันงดงามที่ได้เห็นจากเวปไซต์ ตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียว แม้จะท้อแท้ในเรื่องสุขภาพเท้าที่ต้องเดินเยอะในเนื้อที่ที่มีความกว้างใหญ่ถึง 160 กว่าไร่ แต่งานนี้สู้แค่พิการจริงๆ หุหุหุ
วันที่ไปเยือน ฝนเทกระหน่ำ ตกแบบมืดฟ้า มัวดิน จริงๆ งานนี้ต้องใช้ใจสั่งให้ฝนหยุดตก มิเช่นนั้นคงไม่สามารถเดินชมได้ แปลกแต่จริง ที่ธรรมชาติยอมฝืนกฏของธรรมชาติเอง หยุดให้ผู้เขียนได้เดินชมเป็นระยะๆ บอกได้เลยว่า งดงามเกินบรรยาย *** A few kind words and memorable experiences ***
I am always searching online for tips that can benefit me. Thanks!https://dubaidesertsafarii.com/