ท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่


ท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่

จังหวัดกระบี่

ที่ตั้งและอาณาเขต

จังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดขนาดเล็กที่มากด้วยทรัพยากรท่องที่ยวทางธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ การผสมผสานการดำรงชีวิตของผู้คนที่ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา และความเชื่อที่แตกต่างอย่างกลมกลืน ตั้งอยู่ทางด้าน ฝั่งทะเลตะวันตกของภาคใต้ติดกับทะเลอันดามันฮยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงแผ่นดินประมาณ ๘๑๔ กิโลเมตร มีพื้นที่ ทั้งหมด ๔,๗๐๘.๕๑๒ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๒,๙๔๒,๘๒๐ ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับ จังหวัดใกล้เคียง ดังนี้- ทิศเหนือ จด จังหวัดพังงา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี- ทิศใต้ จด จังหวัดตรัง และทะเลอันดามัน- ทิศตะวันออก จด จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดตรัง- ทิศตะวันตก จด จังหวัดพังงา และทะเลอันดามัน

10 ที่เที่ยวสุดฮิต

1.อุทยานแห่งชาติเกาะรอก

       อยู่ในน่านน้ำทะเลกระบี่ที่เชื่อมต่อทะเลตรัง ลักษณะเป็นสองเกาะเล็กๆ ตั้งคู่กันเป็นเกาะที่มีหาดทราย ที่ยาวเหยียด เม็ดทราย ละเอียดเนียนนุ่มเท้าเมื่อสัมผัส ทรายขาวมาก บรรยากาศการท่องเที่ยวของเกาะรอกเหมาะกับผู้ชื่นชอบการค้นหามุมมอง ที่สวยงาม เงียบสงบ และโรแมนติกจากธรรมชาติ หาดทรายที่สวยงาม น้ำทะเลตื้นและใสมากแนวปะการังที่อุดมไปด้วยดอกไม้ทะเลเป็นถิ่นอาศัย ของปลาการ์ตูนส้มเหลืองสี สดใสที่ทุกคนชื่นชอบที่จุดชมทิวทัศน์เกาะรอกนอกจะเห็นภาพของอ่าวโค้งคล้ายเกือกม้า สองด้านของอ่าว เป็นผาหินสูง ชันเห็นทิวทัศน์ของเกาะรอกนอกและเกาะรอกในและ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่ง      เกาะรอกได้รับการประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เกาะรอกประกอบด้วย 2 เกาะคือ เกาะรอกใน และเกาะรอกนอก ด้านที่หันหน้าเข้าหากันเป็นหาดทราย คั่นด้วยร่องน้ำทะเลตื้นๆ ระยะห่างของ เกาะประมาณ 250 เมตร สำหรับคนที่ชอบเดินเล่นปล่อยอารมณ์ไปตามชายหาด ด้านหน้าของเกาะรอกนอก มีหาดทรายสีขาวละเอียด ทอดตัวยาวจากหัวเกาะ ถึงท้ายเกาะ ใครที่อยากกระโดดน้ำเล่นบริเวณนี้ก็สามารถทำได้    จุดเด่นของหมู่เกาะรอก คือแนวปะการังรอบเกาะและตามร่องน้ำ ส่วนใหญ่เป็นปะการังก้อน มีดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนอาศัยอยู่ มากมาย บริเวณที่ลึกยังพบปะการังอ่อน แต่มีจำนวนไม่มากนัก เกาะรอกจึงเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น ปะการัง ด้านตะวันออกของเกาะเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ทั้งปะการัง เขากวาง ปะการังสมอง ปะการังแผ่น ดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูน หลากสีสัน นอกจากนี้ยังมีรายงาน การพบ ฉลามวาฬบริเวณหินม่วง หินแดง น่านน้ำบริเวณรอบนอกของเกาะรอก อยู่บ่อยครั้ง ทำให้นักดำน้ำใฝ่ฝันที่จะมาสัมผัสอย่างใกล้ชิด จุดดำน้ำที่สำคัญของเกาะรอกอยู่ที่ชายหาดด้านหน้าเกาะรอกนอกและบนเกาะรอกใน บริเวณ ร่องน้ำระหว่างเกาะยาวไปตลอดจนถึงทะเลหน้าหาดศาลเจ้า สองแห่งนี้เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม นอกจากนี้ใน ยามเย็นยังสามารถชมความงามของแสงสุดท้ายของวันได้ที่บริเวณอ่าวหาดหินงาม ส่วนภาพอาทิตย์ขึ้นนั้น เพียงคุณตื่นเช้าสักนิด ก็จะพบกับแสงแรกของวันที่บริเวณหน้าเต็นท์กันเลยทีเดียว

2.สระมรกต

กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิประมาณ30-50 องศาเซลเซียส เป็นสระน้ำสวยใสกลางใจป่า ที่มีน้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า เปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลาและสภาพแสง สระมรกตกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อนลักษณะเป็นสระน้ำร้อน 3 สระ ได้แก่ สระแก้ว สระมรกต และ สระน้ำผุด น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส รอบๆ บริเวณเป็นป่าร่มรื่นเขียวครึ้มมีพรรณไม้ที่น่าสนใจ

จากที่จอดรถเดินทางเท้าเข้ามาประมาณ 800 เมตร จะถึงตัวสระมรกต หรือจะไปอีกทางที่เป็นเส้นทางศึกษา ธรรมชาติที่มีระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตร แต่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะมาบรรจบกันที่สระมรกตที่เดียวกัน แต่แนะนำว่าตอนเดินเข้าไปที่สระให้เดินในเส้นทางปกติ ส่วนขากลับนั้นก็กลับมาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินใน ลักษณะเป็นวงรอบ เส้นทางศึกษาธรรมชาติเป็นป่าเขียวครึ้ม ร่มรื่นด้วยพรรณไม้ที่น่าสนใจเป็นแหล่งชมนกหายาก เช่น นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล นกเงือกดำ ฯลฯระหว่างเดินก็จะพบสายน้ำไหล และสระใหญ่ สระเล็กไปตลอดทาง สวยงามมาก  หลังจากที่เดินชม สระมรกต ก็ไปชมบ่อน้ำผุด ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสระมรกต ลักษณะเป็นตาน้ำสีฟ้าอมน้ำเงิน เป็นสระน้ำแร่ธรรมชาติ ด้วยความมีแร่ธาติอยู่มาก และได้สะท้อนแสงอย่างที่เห็น ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติ เขาพนมเบญจา เป็นแอ่งน้ำตามธรรมชาติขนาดเล็ก มีฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาเหนือน้ำตลอดเวลา สันนิษฐานว่า เกิดจากน้ำที่ซึมออกมาจากใต้ดิน ทำให้ที่แห่งนี้มีน้ำตลอดปี และไหลเป็นลำธารสู่ที่ต่างๆ    ค่าธรรมเนียมการเข้าชม คนไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท ต่างชาติ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท  เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.30 น. ถึง 17.00 น. ทุกวัน

3.เกาะลันตา

เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีผู้คนอาศัยต่อเนื่องมายาวนานกว่าร้อยปี ประกอบด้วย เกาะลันตาใหญ่ และ เกาะลันตาน้อย แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่บน เกาะลันตาใหญ่ ขณะที่ เกาะลันตาน้อย เป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอเกาะลันตา ด้วยระยะทางที่ห่างไกลจากแผ่นดิน เกาะลันตาจึงยังคงความสวยงามของหาดทรายและน้ำทะเลสะอาด อีกทั้งยังมีวิถีชีวิตของชาวเกาะดั้งเดิม ที่มีทั้งชาวไทยพุทธ ชาวไทยจีน ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยใหม่ (ชาวเล) อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ผสานกับความเจริญทางด้านหัวเกาะแถบท่าเรือและชายหาดฝั่งตะวันตก ซึ่งคึกคักด้วยนักท่องเที่ยว การมาเยือนเกาะลันตาจึงได้เที่ยวหลายบรรยากาศในคราวเดียวกัน

    อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีเนื้อที่ประมาณ 151.9 ตรกม. ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเกาะลันตา ประกอบด้วย เกาะต่างๆ ได้แก่ เกาะลันตาใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยาน เกาะลันตาน้อย เกาะตะเล็งเบ็ง และเกาะเล็กเกาะน้อย ในบริเวณใกล้เคียงรวมไปถึง หมู่เกาะห้า หมู่เกาะรอก และเกาะไหง เกาะสำคัญที่น่าท่องเที่ยวได้แก่

เกาะลันตาใหญ่ - เป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอและที่ทำการอุทยาน มีสภาพเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยป่าที่สมบูรณ์ บนเกาะยังมีชาวเลที่ยังคงความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรม และประเพณีดั้งเดิมไว้อยู่ คือประเพณีลอยเรือ เพื่อสะเดาะเคราะห์และความเป็นสิริมงคล ในคืนวันเพ็ญเดือน 6 และ เดือน 11 ถือเป็นประเพณีสำคัญของชาวเล

เกาะรอกใน - มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ด้านทิศตะวันออกมีหาดทรายและแนวปะการังเป็นกลุ่มๆ ตามโขดหิน ด้านทิศเหนือของเกาะมีแหลมธงและอ่าวศาลเจ้า

เกาะรอกนอก - ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้ มีหาดทรายขาวละเอียด และแนวปะการังน้ำตื้น ด้านท้ายเกาะมีหาดทะลุและอ่าวม่านไทร การเดินทางไปเกาะรอก ต้องไปเช่าเรือที่ ท่าเรืออำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง

เกาะตะละเบ็ง - เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหินปูน คล้ายเกาะพีพีเล มีชายหาดเล็กๆ และโพลงถ้ำซึ่งจะโผล่ให้เห็นได้เฉพาะเวลาน้ำลง มีนกนางแอ่นอาศัยอยู่บนเกาะด้วย

เกาะไหง - ทางทิศตะวันออกของเกาะประกอบด้วยหาดทรายยาว และมีปะการังด้านหน้าหาดนับเป็นแหล่งดูปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์แห่งหนึ่ง การเดินทางต้องไปลงเรือที่ หาดปากเมงจังหวัดตรัง มีทั้งเรือโดยสารประจำและเรือเช่าเหมาลำ

4.อ่าวนาง

  อ่าวนาง เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทะเลกระบี่ เป็นที่ตั้งของ รีสอร์ท ร้านอาหาร บริษัททัวร์ให้บริการนำเที่ยวเกาะที่มีชื่อต่างๆของกระบี่ เช่น ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะพี พี หมู่เกาะห้อง เป็นจุดเช่าเรือไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ หาดไร่เล ถ้ำพระนาง และเกาะต่าง ๆสถานที่ท่องเที่ยวในทะเลกระบี่ พื้นที่ของ อ่าวนาง จะ ตั้งอยู่ตามถนนเลียบชายทะเลเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นหาดทรายทอดยาว มีถนนเลียบชายหาด มีภูเขาคั่นระหว่างชายหาด ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตา ด้านทิศตะวันออก ของอ่าว มีถ้ำหิน งอกหินย้อยชื่อ ถ้ำพระนาง และบริเวณด้านหน้าของ อ่าวนาง มีกลุ่มเกาะน้อยใหญ่ถึง 83 เกาะ ที่เป็นโขดหิน รูปร่างแปลกประหลาดบ้างก็คล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา หัวนก และอื่น ๆ กลุ่มเกาะเหล่านี้ เช่น เกาะปอดะ เกาะยาหมัน เกาะบะติงมิ้ง เกาะยาวาซา เกาะลาดิง เกาะหม้อ เกาะทัพ เป็นต้น อ่าวนางถือเป็น จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง

5.หมู่เกาะพีพี

หมู่เกาะพีพี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลัง กลายเสียงเป็น “พี พี” ซึ่งได้ ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทรนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้้ทะเลและปลาหลากสีสันที่สวยงาม

      หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ๆ คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล และเกาะเล็กๆข้างเคียง คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ อาจกล่าวได้ว่า เกาะพีพีดอน และเกาะพีพีเล เป็นสุดยอดแห่งสถานที่ท่องเที่ยวหลัก เป็นเวิ้ง หรืออ่าวใหญ่ที่ภายในมีหาดทรายขาวสะอาดสวยงาม น่าเล่นน้ำแลพดูปะการัง และเกาะพีพีดอน เองครั้งหนึ่ง เคย ติดอันดับ 1 ใน 10 อันดับเกาะที่สวยงามที่สุดในโลกเลยทีเดียว เกาะพีพีดอนเป็นศูนย์กลางของหมู่เกาะพีพี มีทั้ง ที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามอีกด้วยเกาะพีพี ประกอบ ด้วยอ่าว 2 อ่าวที่เป็นเวิ้งอ่าวคู่ คือ อ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัมคั่นด้วยที่ราบเล็กๆร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว

6.น้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม

      หากคุณคืออีกคนที่ชื่นชอบการอาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อน แน่นอนว่าคงน่าเสียดายเอามากๆ ถ้าพลาดโอกาสมาเยือน บ่อน้ำพุร้อนเค็ม หรือที่รู้จักกันในชื่อ บ่อน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม แหล่งท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงและน่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของตำบลห้วยน้ำขาว อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ โดยบ่อน้ำพุร้อนเค็มนั้นอยู่ในบริเวณเขตป่าชายเลนคลองบางผึ้ง ประกอบไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนเค็มที่เรียงรายเล็กใหญ่ถัดกันไปถึง 14 บ่อ และแต่ละบ่อนั้นสามารถวัดระดับความเค็มได้ถึง 10 ppm อุณหภูมิของน้ำใน บ่อประมาณ 40 - 47 องศาเซลเซียส     สำหรับความมหัศจรรย์ของบ่อน้ำพุร้อนเค็มนั้นอยู่ที่อุณหภูมิของน้ำในบ่อไม่ร้อนมากจนเดินไป น้ำมีลักษณะใสสะอาดสะท้อนกับท้องฟ้าเป็นสีมรกต ปัจจุบันได้มีนักท่องเที่ยวรวมทั้งคนในพื้นที่ต่างนิยมที่จะมาแช่น้ำ เพราะมีความเชื่อว่าสามารถรักษาโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคปวดเมื่อยตามข้อกระดูก โรคไหลเวียนโลหิต โรคผดผื่นคัน รวมทั้งมีบ่อโคลนอีก 1 บ่อ ซึ่งสามารถนำมาพอกหน้า พอกตัวรักษาสิว ฝ้า และโรคผิวหนังได้ 

7.น้ำตกร้อน

นับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว unseen Thailand อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ ตัวน้ำตกตั้งอยู่ใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งก็ใกล้ๆ กับสระมรกต เป็นอ่างอาบน้ำธรรมชาติกลางป่ารองรับ สายน้ำตก ที่ไหลหลั่นลง มาจากเนินเขา ใครได้มาสัมผัสต่างบอกกันว่า ไม่ใช่น้ำตกธรรมดาๆ แน่นอน ก็ใครจะเชื่อว่า นี่คือน้ำตกร้อน สายน้ำแร่ ที่ไหลมาพร้อมๆ กับไออุ่นเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ มีลักษณะ เป็นธารน้ำพุร้อนผุด ขึ้นมาจากใต้ดินตาม ธรรมชาติ มีสารกำมะถัน เจือจางเป็นส่วนประกอบ มีอุณหภูมิพอเหมาะตกลงมาในแอ่งสามารถอาบน้ำได้ บริเวณ ธารน้ำตกร้อนขนาดเล็ก ที่ไหลลดหลั่นกันมาตามธรรมชาติ ในน้ำพุร้อนประกอบไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยให้ผ่อน คลายเชื่อว่าสามารถบำบัดอาการไขข้ออักเสบ ปวดหลัง และเกี่ยวกับผิวหนังได้

    เมื่อเราเดินทางไปถึง ก็จะต้อง เดินเท้าเข้าไปอีก ประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงตัวน้ำตก ผ่านเส้นทาง ศึกษา ธรรมชาติระหว่างทาง อาจพบกับหินรูปหน้า หน้าตาประหลาดใต้น้ำอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีมีบ่อกักเก็บน้ำร้อนก่อน ทางเข้าน้ำตก นักท่องเที่ยมักลงไปแช่น้ำเพื่อรักษาสุขภาพ และความสบายตัว มีอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศา   ที่นี่เป็นแหล่งรวมของคนรักสุขภาพที่ต้องการมาบำบัดร่างกายคลายปวดเมื่อยล้าตามส่วนต่างๆและยังเป็นที่พักใจ ให้สบายจากความรื่นรมย์ของธรรมชาติป่าเขา...เพราะไออุ่นจากน้ำแร่ธรรมชาติของธารน้ำตกร้อน ที่ว่ากันว่าดี ต่อสุขภาพด้วยบรรยากาศกลางป่าน่ารื่นรมย์ บ่อน้ำตกร้อนที่มากด้วยสรรพคุณ น้ำตกร้อนคลองท่อมจึงเป็นสปา ธรรมชาติชั้นเลิศ ที่คนรักสุขภาพต้องติดใจ ถ้าเรามาเที่ยวในวันหยุดนั้น อาจมีทั้งนักท่องเที่ยว และชาวบ้าน มา เที่ยวและเล่นน้ำกันค่อนข้างมาก  แนะนำให้ไปในวันธรรมดา เพราะจะ ดูเป็นธรรมชาติและคนน้อยกว่า

ค่าธรรมเนียมการเข้าชมคนไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาทต่างชาติ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.30 น. ถึง 17.00 น. ทุกวัน

8.หาดไร่เลย์

เป็นหาดทรายสีขาวละเอียดริมโตรกผา ซึ่ง หาดไร่เลย์ เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมปีนหน้าผา และ หาดไร่เลย์ แบ่งออกเป็น หาดไร่เลย์ตะวันออก (หาดน้ำเมา) และ หาดไร่เลย์ตะวันตก มีโขดหินคั่นระหว่างหาดทั้งสอง บริเวณหาดมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวหลายแห่ง เดินทางเข้าถึงได้โดยทางเรือจากอ่าวนางใช้เวลา 10 นาที

   หาดไร่เลย์ หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็น "เกาะ" แต่จริง ๆ แล้ว หาดไร่เลย์ ตั้งอยู่บนผืนแผ่นดิน แต่ที่ต้องเดินทางด้วยเรือ เพราะ หาดไร่เลย์ ถูกภูเขาล้อมรอบทุกด้าน ทำให้ผู้คนที่จะเดินทางมาเที่ยวหาดไร่เลย์ ต้องนั่งเรือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งนี่อาจเป็นอีกผลหนึ่งทำให้ชาวบ้านที่ หาดไร่เลย์ ยังไม่ถูกเทคโนโลยีหรือความเจริญกลืนกิน รวมถึงวิถีชีวิตของหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย โดยที่ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว   อย่างไรก็ตาม นอกจากน้ำสวย ทะเลใสแล้ว หาดไร่เลย์ ยังได้ชื่อว่ามี "พระอาทิตย์ตก" ที่สวยงามบาดตา เพราะเมื่อพระอาทิตย์ตก แสงแดดจะสะท้อนเงาจากหินลงไปที่อ่าว ภาพต้นมะพร้าวเรียงกันเป็นทิวแถว เรือประมงจอดเรียงรายที่ชายฝั่ง ภาพดังกล่าวเป็นเหมือนแดนสวรรค์อันสุขสงบ    นอกจากนี้ หาดไร่เลย์ ยังมีจุดเด่นที่กิจกรรมการปีนผา เพราะที่ หาดไร่เลย์ มีผาหินปูนมากมาย ซึ่งการปีนผาที่ ไร่เลย์ สามารถทำได้ทั้งปี โดยในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการจัดกิจกรรม "ปีนผา" และบริเวณที่นิยมปีนผาคือบริเวณ ไร่เลย์ตะวันออก อ่าวต้นไทร และ เขาแถวถ้ำพระนางใน

9.ทะเลแหวก

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของ จ.กระบี่ ที่ถูกขนานนามให้เป็น Unseen Thailand ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอันเนื่องมาจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติใน ยามน้ำลดที่พัดพาเอาเม็ดทรายมาบรรจบกันไว้ณจุดนี้จนทำให้เกิดปรากฎการณ์ที่ เรียกว่า “ทะเลแหวก” ขึ้นและเผยให้เห็นส่วนของสันทรายขาวละเอียดทอดตัวเป็นแนวยาวเชื่อมต่อถึงกัน ได้ระหว่างเกาะ 3 เกาะคือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และ เกาะทับ และแนวสันทรายนี้จะค่อยๆจมหายไปใต้ผืนน้ำเมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาน้ำขึ้นของแต่ละวัน

10.อ่าวมาหยา เกาะพีพีเล

อ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล เกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ อ่าวมาหยา เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ จากการพังทลายของหน้าผาที่โอบล้อม แหว่งเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน

   เกาะหินปูนแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างชายฝั่งหลายสิบกิโลเมตร ด้วยความที่น้ำทะเลใสช่วยให้แสงส่องถึงใต้ผิวน้ำในระดับที่เหมาะสม ตัวอ่อนของปะการังเกาะตัวกันบนหินที่ทับถมอยู่กลางอ่าว เมื่อเวลาผ่านพ้นไป แนวปะการังขยายขนาดปกคลุมทั่วอ่าวมาหยา แต่ปัจจุบันแนวปะการังบริเวณด้านหน้าชายหาดอ่าวมาหยาได้กลายเป็นแนวปะการังเสื่อมโทรมไปหมดแล้วซึ่งเป็นผลพวงบางส่วนจากการทิ้งสมอเรือและคลื่นยักษ์สึนามิ แต่สภาพภูมิทัศน์ต่างๆ บริเวณชายหาดก็ได้รับการฟื้นฟูพัฒนา และปรับปรุงจนสวยงามมากขึ้น  อ่าวมาหยา นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์อีกจุดหนึ่งของทะเลกระบี่ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาพักผ่อนทิ้งตัวทิ้งใจลงบนหาดทรายขาวละเอียดที่เค้าว่ากันว่าละมุนเหมือนผงแป้ง นอนแช่น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแวดล้อมซึ่งปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้ชายทะเล จึงไม่แปลกใจเลยที่ต่างชาติจะยกให้ “อ่าวมาหยา” เป็นทะเลไทยที่สวยติดอันดับโลก
หมายเลขบันทึก: 649066เขียนเมื่อ 21 กรกฎาคม 2018 10:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 กรกฎาคม 2018 11:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท