เย็นนี้ฉันกับปู่เรของฟ้าครามชวนกันไปเยี่ยมพี่ฟ้าครามและสกาย...พร้อมซื้อทุเรียนไปฝาก ๒ ลูก เพราะเธอบอกว่า...อยากกินมากกกกก...ย่าเลยจัดให้ตามอยาก...ช่วงนี้เธอเรียนพิเศษเสร็จแล้ว เตรียมตัวรอรับกับการเปิดเทอม ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑
ย่าไปลงทะเบียนเรียนให้แล้วที่ธนาคาร...เทอมนี้ ๑๘,๒๑๒ บาท...เธอถูกคุณครูคัดเลือกให้เรียนห้องวิทย์-คณิต...ชั้น ป.๑.๒ ลองจากห้อง EP ถ้าเป็นสมัยย่าเรียน นั่นคือ ห้องคิง...ย่ากังวลว่าเธอจะเรียนไม่ได้ เพราะย่าไม่ต้องการให้เธอเครียด ต้องการให้เธอมีความสุขมากกว่า...แต่ก็จะลองดูก่อนว่าผลการเรียนเป็นเช่นไร...
มีครูบางคนถามว่า...ใครลงทะเบียนให้ฟ้าคราม ย่าตอบไปว่า...ก็ย่าไง? ทำไม? ย่างง...ก็ย่ารักลูก หลานทุกคน ย่ามีเงิน ย่าแบ่งให้ลูก หลานของย่าได้...ย่าไม่ได้เห็นแก่ตัวนี่ ถามแปลกๆ...พอถามแล้วได้ฟังย่าตอบ เขาเลยหน้าม่อยๆ...ก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกัน...สำหรับย่าบุษ รักลูก หลานเท่าชีวิต...แบ่งได้ก็แบ่ง เพราะเรารักพวกเขาเหมือนลูกอีกคน...ทำทุกอย่างให้พวกเขาได้...ไม่เคยคิดแต่จะเอามาสบายคนเดียว...อีกอย่างลุงภัคร พ่อเพรียงก็ไม่ต้องส่งให้เรียนแล้ว...หากินเองได้แล้ว...หรือพ่อแม่พวกเขามิเป็นเช่นนี้...ย่าบุษขอบอกเลยว่า ตราบที่ลมหายใจของย่ายังมีชีวิตอยู่...หากย่ามีย่าจะดูแลพวกหนูๆ เอง...พอตายสมบัติที่ปู่เร ย่าบุษมีก็แบ่งกันไป...และพวกหนูๆ ก็ควรหาเพิ่มเพื่อเลี้ยงชีวิตต่อไป...ย่าเพียงสร้างฐานให้กับลูก หลานย่าเท่านั้น
สำหรับครั้งนี้พ่อเพรียงของฟ้าครามและสกายทำนา ๓๐ ไร่ อีก ๑๕ ไร่ ให้พ่อตาทำ ส่วนอีก ๑๐ ให้เขาเช่า...นี่คือ นาของเราเองไม่ต้องไปเช่าใครเขาทำ...ซึ่งแม่บุษดูแล้ว พ่อเพรียงของฟ้าครามเก่งมากๆ...นายทำเองคนเดียว ไถเอง ทำเทือกเอง จากที่ผืนนาสมัยก่อนขรุขระ ไม่เรียบ...แต่มาปัจจุบันนายทำเสียเรียบเลย เก่งมากลูก...ชีวิตที่ลูกเลือกเอง เป็นนายของตัวเอง ไม่ได้เป็นลูกน้องใคร...ต่อสู้กับภัยธรรมชาติ คนล่ะแบบกับแม่บุษเลย...นายหว่านข้าวได้ ๓ วัน ฝนตกมาพอดีเลย
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
บุษยมาศ แสงเงิน
๒๙ เมษายน ๒๕๖๑
ดีจังค่ะ ลูกชายทำนาเองใช่ไหมคะ
ใช่ค่ะพี่แก้ว เจ้าตัวเล็กค่ะ พ่อของนู๋ฟ้าคราม เขาไม่ยอมเรียนต่อค่ะ
ดีแล้วล่ะค่ะ ทำนาเอง กินข้าวปลอดสาร
ที่เหลือก็ขายได้ค่ะ