การทำงานในแวดวงการศึกษาไทย...บอกได้เลยว่า...ขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเราเอง
ในฐานะที่ตัวฉันเองเป็นผู้หญิง...หากทำสิ่งใดที่ได้ด้วยตัวเองแล้ว นั่นแสดงว่า มีความสามารถ
สามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ด้วยขาของตัวเอง...สิ่งที่สามารถนำพาฉันไปได้ในทุก ๆ ที่
นั่น เป็นเพราะความรู้ที่ฉันได้ศึกษา เรียนรู้อยู่เสมอ...จากความรู้ที่ใช้ในการทำงาน กฎ ระเบียบ
ข้อบังคับ กฎหมายที่ใช้ในการทำงานที่ตนเองได้รับผิดชอบ...ต้องแม่น ต้องถูกต้อง ต้องเป็นธรรม
มันเป็นการยากเหมือนกัน หากตัวเราไม่สนใจ ไม่ใฝ่เรียนรู้ ไม่อ่าน...อาจทำให้เราไม่ทันโลก
ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมการทำงาน สังคมโลกได้...
การยอมรับการเปลี่ยนแปลง เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันสามารถปรับตัวเองให้อยู่ได้บนโลกของ
การทำงาน...สามารถนำความรู้ ที่ที่ได้รับรู้มาปรับ ประยุกต์ใช้กับการทำงานในหน้าที่
ให้สามารถดำรงอยู่บนฐานของการทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร...นอกจากการทำงาน
ภายในทีม กองบริหารงานบุคคล...มีความเชื่อมั่นในความรู้ ความสามารถของตนเอง
สามารถนำพากองและมหาวิทยาลัยเผชิญต่อสิ่งต่าง ๆ ที่จะเข้ามากระทบต่อตัวของเรา
และสามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้กับลูกน้องภายในกองได้...แม้ใครจะพูดให้กระทบใจเรา
เพียงใด สิ่งที่ยึดมั่น นั่นคือ ความอดทน ความไม่ใส่ใจ ความพูดด้วยเหตุด้วยผลมากกว่า
ที่จะทำให้ฉันจรรโลงอยู่บนโลกของการทำงานนี้ได้...ด้วยตัวของฉันเอง...แม้ว่าเป็นผู้หญิง
แต่ก็สามารถทำงานนี้ไปได้จนประสบความสำเร็จ...
การทำงานด้านบุคคลนี้ ต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ๆ มีความเป็นผู้นำ มีวิสัยทัศน์ มองไกล
ยอมรับต่อการปรับเปลี่ยน สร้างทีมให้เข้มแข็งเพราะลูกน้องจะได้ดูในยามที่ไม่มีตัวเราอยู่ด้วย
พวกเขาก็สามารถทำงานต่อไปได้ด้วยของเขาเอง...การมีคุณธรรม จริยธรรมทางด้านอาชีพ
สำคัญมาก ๆ ต่อการทำงาน เพราะหากตัวเราเหลวไหล ไม่มีคุณธรรม หลักยึดต่อการทำงานแล้ว
ขอบอกว่า...งานเละ ตัวเราก็เละ ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือของผู้อื่น...สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ
การเอาใจเขามาใส่ใจเรา...การให้โอกาสคน...การช่วยเหลือ ดูแล มีน้ำใจต่อคนรอบข้าง...
การช่วยเหลือผู้บังคับบัญชา ต่อให้ผู้บังคับบัญชาจะว่าเราไม่ดี ก็ช่าง...กาลเวลาจะเป็นเครื่อง
พิสูจน์สิ่งต่าง ๆ เอง...ทุกอย่างอยู่ที่ตัวของเราเอง มิใช่คนอื่น...การกระทำของตัวเราต่างหาก
ที่จะพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่า...ตัวเราเป็นเช่นไร มิใช่คนอื่นมาพิสูจน์
เวลาที่ผ่านมา ๓๐ ปี ต่อการทำงานรับราชการ...มันแสดงถึง "ความแกร่ง" ในการทำงานของ
ฉันเอง...ทำด้วยตนเอง มากกว่าขอความช่วยเหลือ...สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่ง นั่นคือ การมอง
ระบบราชการให้เป็น ให้รอบคอบและครอบคลุม จึงจะทำให้เป็นคนมีวิสัยทัศน์ในการมองงาน
ได้ไกล...จะทำให้การทำงานของเรามีจุดเด่นด้วยตัวของเราเอง...รู้ตัวเองว่า...ฉันคือ "ผู้หญิงแกร่ง"
แกร่งได้ด้วยตัวของฉันเอง...ในความแกร่ง มันอาจจะมีความเจ็บปวดเกิดขึ้น...แต่สำหรับฉันแล้ว
มันคือ บทเรียนชีวิตของฉันมากกว่า...เก็บทุกบทเรียนมาเป็นครู เพื่อช่วยสอนให้ตัวฉันเองเก่งขึ้น
แกร่งขึ้น...มองวิกฤติให้เป็นโอกาสของฉันเอง...คิดทุกเรื่องด้วยการคิดบวกต่อตนเอง ต่อครอบครัว
ต่อคนรอบข้างและสังคม นี่แหล่ะ!!!...คือ ชีวิตของผู้หญิงแกร่งในชีวิตและแกร่งในการทำงาน...
สำหรับผู้หญิงในโลกยุค Social...ขอเพียงอย่างกลัว มีจุดยืน เชื่อมั่นในความสามารถ ความรู้ของ
ตนเองเท่านั้นพอ...ทำสิ่งดี ๆ ต่อตนเอง ต่อทุกคนและสังคมก็พอ
...
ขอขอบคุณที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
บุษยมาศ แสงเงิน
๓ เมษายน ๒๕๖๑
ชื่นชมค่ะพี่บุษ