๗๐๐. ชีวิต...ต้องอุทิศและทุ่มเท


สังคมทุกวันนี้ มีแต่คนคอยแต่จะตักเตือน คอยตำหนิและวิจารณ์กัน แต่ขาดคนลงมือทำ..หรือไม่?..อย่างไร? บางทีผมก็ต้องทำนอกเหนือหน้าที่งานบริหารฯ และบาทีก็คิดว่า อาจเป็นหนึ่งในหน้าที่ของผู้บริหารโรงเรียนทุกคนก็ได้.. ที่ต้องทำด้วยจิตอาสา...

              วันนี้..วันที่โรงเรียนปิดภาคเรียนอย่างเป็นทางการ..เป็นวันแรก และคงจะเป็นโรงเรียนในระดับต้นๆของอำเภอและเขตพื้นที่..ที่ปิดเรียนช้าที่สุด..

            ในความล่าช้า..ก็เกิดประโยชน์ต่อราชการ มีโอกาสทบทวน ตรวจสอบและสะสางงาน ไม่มีอะไรต้องคั่งค้าง และไม่ต้องให้ต้นสังกัดต้องทวงถาม

            ๒ – ๓ ปีมานี้..ผมมีความพยายาม..ที่จะไม่สร้างภาระงานให้เขตพื้นที่การศึกษา ต้องทวงรายงานฯ ผมถือว่า..นี่คือ..”คุณภาพ”ของการบริหารจัดการ ที่ไม่ได้มองกันแค่คะแนนของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน..เท่านั้น..

            ผมคิดว่า..ผู้ปกครองส่วนใหญ่ น่าจะชื่นชอบที่ผมดูแลและเลี้ยงลูกหลานของเขา จนถึงวันที่ ๓๐ มีนาคม.ผมสังเกตจากสีหน้าท่าทางและจำนวนผู้ปกครองในที่ประชุมฯ..

            ใบหน้าทุกคนเปื้อนยิ้ม..มีทีท่าที่เป็นกันเอง รับฟังนโยบายฯอย่างตั้งใจ ก่อนแยกย้ายไปพบปะครูประจำชั้น..

            ผมชื่นชมผู้ปกครองที่ย้ายลูกหลานมาเรียน..มากันเกือบครบถ้วน  ทำให้จำนวนนักเรียนในปีการศึกษาใหม่ ลงตัวที่ ๙๘ คน..ห้องประชุมจึงดูล้นหลามเป็นพิเศษ..

            การประชุมในวันสุดท้ายของปีการศึกษา..ผมไม่ลืมที่จะต้องแจ้งผลสอบโอเน็ตชั้นป.๖ เพื่อให้ประธานกรรมการโรงเรียนฯมอบของที่ระลึก พร้อมทุนการศึกษา

            กิจกรรมที่ทำให้ ป.๖ อย่างเรียบง่าย..ไม่ใหญ่โตฟุ้งเฟ้อ..เป็นธรรมเนียมและวัฒนธรรมการทำงานของโรงเรียน ที่ดำเนินสืบต่อกันมา..นับสิบปี

            มีองค์ประกอบด้านเหตุผล..ที่ต้องการ “ความพอประมาณ” ยึดประโยชน์ต่อจิตใจและความรู้สึกของนักเรียนเป็นสำคัญ

            ขณะเดียวกัน..ต่อหน้าผู้ปกครองที่โรงเรียนให้เกียรติเสมอมา...กำลังชื่นชมความสำเร็จของลูก.นี่คือภาพเชิงประจักษ์..และจะเป็นภูมิคุ้มกันให้โรงเรียนตลอดไป..

            อย่างน้อย..ผู้ปกครองก็เข้าใจแล้วว่า..ที่ผู้บริหารและครูต้องเหนื่อยยากและเคี่ยวเข็ญ..ก็เพื่อวันนี้นี่เอง..

            ผมมองภาพบนเวที ที่นักเรียนขึ้นรับทุนการศึกษา..เป็นทุนเฉพาะกิจเท่านั้น คือให้เป็นกำลังใจเฉพาะนักเรียนที่ทำคะแนนได้สูง..แต่ก่อนหน้านี้ ได้ให้ทุนการศึกษาประจำปีไปแล้ว..ทุกคน

            ผมตั้งคำถามด้วยความแปลกใจว่า..ทำไม?..และทำไม?..นักเรียนหลายคน..จึงมีโอกาสรับทุนในครั้งนี้..ในเมื่อ..ต้นปีการศึกษา..การเรียนรู้ของทุกคน..แทบไปไม่รอด

            ความรู้สึกที่ขมขื่นและกลืนกล้ำ...ของชีวิตครูคนหนึ่ง..ที่เลือกเด็กไม่ได้ ต้องคิดหาช่องทางให้เกิดแรงบันดาลใจเชิงบวก..สะท้อนภาพให้กลับทาง..แก้ปัญหาเพื่อลดปัญหา..

            ก่อนอื่น..คิดเข้าข้างตัวเองก่อนว่า..เด็กป.๖ ส่วนใหญ่อ่านได้ เมื่อเขาอ่านได้  การทำข้อสอบวิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์..ถึงอย่างไรก็ไม่น่าจะตกต่ำมาก..

            แต่ข้อสอบโอเน็ตของ สทศ. ยากและพลิกผันทุกปี..ผมจะประมาทไม่ได้เลย..ทำอย่างไร?..นักเรียนจะอ่านคล่องมากกว่านี้..แล้วรักการเขียน..และเขียนได้คล่องมากขึ้น

            เพราะข้อสอบวิชา “ภาษาไทย” มีอัตนัย..ให้ต้องเขียนตอบ..และนี่คือโจทย์ข้อใหญ่ ที่ผมทำการบ้าน โดยประสานกับครูประจำชั้นว่า..ผอ.จะช่วยอีกแรงหนึ่ง..

            ผมลงมือจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนป.๖..ตั้งแต่ภาคเรียนที่ ๑..โดยใช้เครื่องมือและกิจกรรมทำอย่างต่อเนื่อง..ไม่เว้นกระทั่งวันเสาร์..จำได้ว่าในขณะที่ทำไม่มีความคาดหวังเลยแม้แต่น้อย..

            ผมฝึกให้นักเรียนอ่านข้อความ..แล้วคิด วิเคราะห์หาคำตอบ จากนั้นก็ทำแผนภูมิความคิด..สุดท้ายก็ไปจบลงที่..เขียนเรื่องจากจินตนาการและประสบการณ์..

            ผมทำอยู่อย่างนี้ทั้งปี ไม่รู้ว่านักเรียนเบื่อหน่ายวิธีสอนของผมหรือเปล่า เพราะผมไม่มีเวลาจะคิด แต่เท่าที่รู้ ผมได้อุทิศเวลาให้นักเรียนรุ่นนี้ไป..มิใช่น้อย..

            วันนี้..ผมจึงรู้สึกขอบคุณ ที่นักเรียนป.๖ทุกคนมีใจสู้ ทั้งที่รู้ว่าเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่ง..แต่ก็ทุ่มเทหัวใจไปพร้อมกับครู..

            สมมุติฐานของผมใช้ได้..เมื่อภาษาของนักเรียนไม่อ่อนแอ โอเน็ตก็ย่อมไม่ตกต่ำ มิหนำซ้ำวิชาภาษาไทยของเด็กป.๖ จากทั้งหมด ๙ คน นักเรียน ๖ คน ทำคะแนนได้..ค่อนข้างดีเป็นที่น่าพอใจ..สูงสุด ๖๗ คะแนน 

          ผมจึงอยากฝาก ท่านผู้อ่านไว้ตรงนี้..สังคมทุกวันนี้ มีแต่คนคอยแต่จะตักเตือน คอยตำหนิและวิจารณ์กัน แต่ขาดคนลงมือทำ..หรือไม่?..อย่างไร?   

         บางทีผมก็ต้องทำงานนอกเหนือหน้าที่งานบริหารสถานศึกษา และบางทีก็คิดว่า อาจเป็นหนึ่งในหน้าที่ของผู้บริหารโรงเรียนทุกคนก็ได้.. ที่ต้องทำงานสอนและอื่นๆอย่างหลากหลาย..ด้วยจิตอาสา...

         คือทำด้วยการมุ่งมั่นทุ่มเทและเสียสละ โดยไม่สนใจว่าจะได้รับคำชื่นชมหรือไม่?..แต่สิ่งที่ได้รับวันนี้ คือความสุขใจ ที่ได้ทำ..เพื่อครู นักเรียนและผู้ปกครอง....    

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๓๑  มีนาคม  ๒๕๖๑



หมายเลขบันทึก: 646124เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2018 19:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 เมษายน 2018 09:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท