ศาสตราจารย์ระพี สาคริก เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2465 เป็นบุคคลที่มีนิสัยรักธรรมชาติ รักการศึกษาและเรียนรู้ รักการคิด และสนใจต่อชีวิตที่มีการต่อสู้กับปัญหาต่างๆ อย่างอิสระเสรีมาตั้งแต่ชีวิตยังเยาว์วัยมาก
จากการที่ได้แสดงออกมาตั้งแต่เล็ก ถึงความฝังจิตฝังใจและผลการเรียนที่สูงมากทางด้านวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆ และการประดิษฐ์คิดค้นเช่น เครื่องบินเล็ก เครื่องส่งวิทยุ และเครื่องมือจัดรูปภาพ ซึ่งในยุคนั้นมิใช่สิ่งแพร่หลายนักสำหรับเด็กไทย
ในด้านศิลปะในสมัยนั้นยังเด็ก ก็ได้แสดงออกถึงความมีจิตวิญญาณด้านนี้อยู่ในอุปนิสัยใจคอ มีความรักธรรมชาติ รักต้นไม้ รักสัตว์เลี้ยง รักการเขียนภาพ ถ่ายภาพ และรักการดนตรี ดังเช่นการเล่นไวโอลินมาตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ และมีผลงานการแต่งเพลงอยู่ในวงดนตรีสุนทราภรณ์และเค.ยูแบนด์ด้วย
สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งก็คือ เป็นผู้ที่มีอุปนิสัยสุภาพอ่อนโยน มีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์มาตั้งแต่เด็ก จนเป็นที่รักของบรรดาเพื่อนๆ ที่รู้จักมาโดยตลอด เมื่อมีภาวะความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างเพื่อนๆ ที่อยู่กันเป็นจำนวนมากมักได้รับการขอร้องให้เป็นผู้ประสานรอยร้าวเสมอๆ
กล้วยไม้เป็นสิ่งหนึ่งซึ่งศาสตราจารย์ระพี สาคริก ได้แสดงออกถึงความรักความสนใจมาตั้งแต่อายุได้เพียง 10 กว่าขวบปี และการดำเนินชีวิตที่สัมพันธ์อยู่กับสิ่งที่รักที่สนใจอย่างจริงจัง ที่ทำให้พบความใจแคบของคนในสังคมได้เป็นแรงผลักดันอย่างสำคัญที่ทำให้ ศาสตราจารย์ระพี สาคริก ต่อสู้กับสิ่งที่สวนทางกับความคิดความเชื่อของตนเองอย่างทุ่มเทให้ด้วยชีวิตและจิตใจ
ท่ามกลางภาพที่สะท้อนให้ ศาสตราจารย์ระพี สาคริก เห็นว่า เมืองไทยเป็นแหล่งที่มีกล้วยไม้ป่าอยู่ในธรรมชาติเป็นจำนวนมาก แต่การเลี้ยงกล้วยไม้ก็จำกัดตนเองอยู่แต่เพียงในกลุ่มคนผู้สูงอายุ ผู้มีเงินทอง และมียศฐาบรรดาศักดิ์กลุ่มเล็กๆ และท่ามกลางกระแสความคิดความเชื่อว่า กล้วยไม้เป็นของไร้สาระ เป็นของฟุ่มเฟือย และเป็นของคนแก่ คนมีเงิน ที่ปิดตนเองอยู่ในกลุ่มแคบๆ และยังใช้กล้วยไม้เป็นสิ่งซึ่งดูถูกดูแคลนผู้อื่น
กับความคิดของ ศาสตราจารย์ระพี สาคริก ที่ทวนกระแสดังกล่าวโดยเหตุที่เชื่อว่า กล้วยไม้เป็นสิ่งที่ไม่มีส่วนรู้เห็นต่อการเป็นเช่นนั้น แต่คุณภาพของความสามารถของคนต่างหากที่ทำให้เป็นเช่นนั้นไป จึงเกิดเป็นแรงดลใจให้ตนเอง รู้สึกท้าทายต่อการก้าวลงไปพิสูจน์ความจริงด้วยการกระทำจริงด้วยตนเอง
ผลงานการค้นคว้าและส่งเสริมกล้วยไม้ทั้งในด้านการปรับปรุงพันุธุ์ ขยายพันธุ์ตลอดจนด้านธุรกิจการส่งออก ทำให้กล้วยไม้ไทยกลายเป็นสินค้าส่งออกด้านเกษตรที่สำคัญชนิดหนึ่งของประเทศไทย ด้วยเหตูนี้ ศาสตราจารย์ระพี สาคริกจึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา สาขาเกษตรศาสตร์ นอกจากนี้ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ อีกด้วย
ศาสตราจารย์ระพี สาคริกเคยดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ รวมทั้งตำแหน่งอื่นๆ ที่สำคัญอีกมากมาย แม้จะเกษียณอายุราชการนานแล้วก็ตาม ศาสตราจารย์ระพี สาคริกก็ยังได้รับความเคารพยกย่องเป็นปูชนียบุคคล โดยเฉพาะในวงการศึกษาและวงการกล้วยไม้ จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น บิดาแห่งกล้วยไม้ไทย
แนวคิดของศาสตราจารย์ระพี สาคริก..ที่สมควรยึดเป็นแบบอย่างก็คือ..
“..การทำความดี ต้องดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ด้านนอกคือสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่ด้านในคือรากฐานของตัวเรา ไม่ว่าข้างนอกจะเปลี่ยนแปลงสักแค่ไหน ตัวเราอย่าเปลี่ยนตาม ต้องซื่อสัตย์ต่อตนเองรู้จักปล่อยวางอย่าให้ใครเดือดร้อนจากกิเลสของเรา...”
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑
รวบรวมและเรียบเรียง จากการศึกษาข้อมูลใน YouTube
ไม่มีความเห็น