งานวิจัย : การพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ MIA ชั้น ม.2


ชื่อเรื่อง    :    การพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อผู้วิจัย   :    นางสาวสุภาพร  สุขสงวน

หน่วยงาน  :    โรงเรียนหนองทุ่มศรีสำราญวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ปีที่วิจัย     :    ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

    การพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80  2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนหนองทุ่มศรีสำราญวิทยา จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 25 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2  สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผล และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยการทดสอบค่าที (t-test dependent samples) ผลปรากฏดังนี้

สรุปผลการวิจัย

    1. ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 84.66/83.20 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

    2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

    3. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6800 แสดงว่า ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 68.00

    4. ความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด็อค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

หมายเลขบันทึก: 644488เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2018 17:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2018 17:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท