842. วิทยาศาสตร์ของ "คน"


ผมเป็นสมาชิก Netflix มาสักพัก ได้มีโอกาสดูหนังนอกกระแส หรือหนังแปลกๆ หลายเรื่อง เรื่องล่าสุดเป็นหนังจากสาธารณรัฐเชค เรื่อง The Devil’s Mistress ...หนังเป็นอัตชีวประวัติของดาราสาวที่ดังที่สุดของเชคชื่อ Lída Baarová  ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ...สมัยก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมันเริ่มเรืองอำนาจ ฮิตเลอร์เข้ามาเป็นผู้นำ   ศูนย์กลางของยุโรปอยู่ที่เยอรมัน  ลิด้า ประสบความสำเร็จอย่างสูงที่ประเทศของตัวเอง ก็เจอแมวมองชักนำไปลองคาสติ้งดูที่เยอรมัน ถึงแม้จะมีอุปสรรคด้านสำเนียง ทางเยอรมันก็หาครูมาติว จนเธอพูดสำเนียงเยอรมันได้เหมือนคนเยอรมัน หนังเรื่องแรกประสบความสำเร็จด้วยดี เธอเป็นขวัญใจชาวเยอรมัน แม้กระทั่งฮิตเลอร์ยังเชิญเธอไปพบสองต่อสองที่ทำเนียบประธานาธิบดี 

ชีวิตดั่งความฝัน เธอได้กลายเป็นภรรยาของดาราชื่อดังอีกคน แต่ก็เจอปัญหา เนื่องจากยังไม่หย่าจากภรรยาคนเดิม แถมมีลูกติด แต่ก็ไปกันได้  วันหนึ่งเธอพบกันกอปเปล รัฐมนตรีกระทรวงโฆษณาชวนเชื่อ ..คนสนิทของฮิตเลอร์ ที่ก็ชอบเธอด้วย เธอติดปัญหาหลายเรื่องกอปเปลก็ช่วยเคลียร์ให้ แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น กอปเปลพยายามขอเป็นคู่รักกับเธอแต่เธอก็ไม่ยอม แต่ที่สุดเนื่องจากไปหากอปเปลบ่อยด้วยเหตุผลเรื่องงานแสดง เพราะกอปเปลรับผิดดชอบอุตสาหกรรมหนังในเยอรมันอยู่ ...สามีเกิดหึงหวง ที่สุดก็ทนไม่ได้ เลยหนีไปหากอปเปล และตกเป็นภรรยาน้อยกอปเปล ...กอปเปลรักผู้หญิงคนนี้มาก   ทุกอย่างดูดี มีวันหนึ่งมีแมวมองจากฮอลลีวู๊ดมาหา และชวนไปแสดงหนังที่อเมริกา พร้อมเตือนว่าเยอรมันนีมีปัญหา สาวน้อยลังเล แต่ก็เลือกที่จะไม่ไป 

ในขณะเดียวกันภรรยาหลวงของกอปเปลก็ไปร้องเรียนกับฮิตเลอร์ ...ฮิตเลอร์เลยบอกให้กอปเปลเลิกกับลิด้า เพราะกอปเปลมีหน้าที่ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างให้ชาวเยอรมันเห็น เอาเรื่องส่วนตัวมาปนไม่ได้ กอปเปลเลยจำใจเลิก  เมื่อถูกเลิก ทุกอย่างพังทลาย ไม่มีใครจ้างงาน ที่สุดลิด้าหนีกลับมาในประเทศตัวเอง แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับ ที่สำคัญ พอเยอรมันแพ้ ทุกคนที่เกี่ยวข้องรวมทั้งลิด้าถูกไล่ล่า ลิด้าถูกหาว่าเป็นคนทรยศ ถูกยึดทรัพย์สิน ครอบครัวพังพินาศ แม่ถูกทรมานจนตายระหว่างสอบสอน น้องสาวถูกกีดกันจากวงการบันเทิง จนไม่มีที่ไปและฆ่าตัวตายในที่สุด  แม้ภายหลังจะพ้นโทษ แต่ก็ยังเป็นอะไรที่หลอกหลอนลิด้าไปทั้งชีวิต  

เรื่องนี้ถ้าสรุปเป็นสุภาษิตแบบไทยๆ น่าจะเป็นคบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”  

ภาพที่เห็นคือ ลิด้าหลงรักคนพาล คนพาลเลยพาลงนรก  ...ลิด้าไม่มีบัณฑิตเลยในชีวิต  

จริงๆ ยังดีครับยังไงหนังเรื่องนี้สอนถึงกรใช้ชีวิตครับ ปรากฏการณ์ความสำเร็จของลิด้า เกี่ยวกันพกับตัวเองและผู้อื่น ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง Giver Taker และ Matcher  ผมนึกถึง Adam Grant ครับ เป็นอาจารย์ที่ U. Penn

อาจารย์ทำงานเรื่องจิตวิทยาองค์กรมาหลายปี ...อาจารย์มักจะเจอคนกลุ่มหนึ่งที่เมื่อเวลาเจอคนอื่น จะคิดอะไร หรือทำอะไรออกมาในทางว่าคุณจะช่วยอะไรฉันได้บาง”  คนกลุ่มนี้เรียกว่า Taker อีกกลุ่มจะเป็นพวกที่คิดอยู่เสมอว่าผมจะช่วยอะไรคุณได้บ้างกลุ่มนี้อาจารย์เรียกว่า Giver   อาจารย์บอกบางทีเราก็เป็น Giver บางทีเราก็เป็น Taker อาจารย์บอกว่ามีคนหนึ่งที่อยู่ตรงกลางก็คือ Matcher คือคนที่มีบทบาททั้งรับทั้งให้ ..ประมาณว่ายื่นหมูยื่นแมว..  Matcher เหมือนเป็นผู้เชื่อมต่อครับ 

จากงานวิจัยของอาจารย์คนที่จนสุด ประสบความสำเร็จน้อยและมากี่สุดสุดคือพวก Giver เพราะมัวแต่ให้คนอื่น ดูแลคนอื่นจนงานตัวเองไม่ดี  แต่กลับเป็นคนที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ เพราะชอบแบ่งปันความรู้ ชอบช่วยองค์กร ทีมจะดีขึ้นคนอยู่นานขึ้น Giver ถ้าประคับประคองไม่ดีอาจไม่ก้าวหน้า แต่ถ้าประคับประคองดีก็ไปโลด 

แต่ใครไปไกลก็พวก Taker ครับ ..แต่ก็ไประยะหนึ่งเพราะไม่ยั่งยืน  เพราะมีปัญหา พวกนี้เอาแต่ได้ ในระยะยาวจึงไปไม่รอด ...  ใครทำให้พวกนี้มีปัญหาก็พวก Matcher ครับ พวก Matcher จะมีอิทธิพลรู้ใครดีไม่ดี และอาจเป็นฝ่ายทำลาย Taker เสียเอง  อาจารย์ Adam บอกว่าถ้าในองค์กรมี Taker ...จะทำลายบรรยกาศการดูแล การให้ การช่วยเหลือ .. ควรเอาออกไปครับ 

ผมดูเรื่องน้ีจะเห็นชัดว่า Lida สาวสวยเป็น Taker ครับ ..มองหาตลอดเวาว่าคนข้างหน้าจะเป็นประโยชน์อะไรกับตัวเอง .. 

Giver มีอยู่รอบตัวครับ ได้แก่บรรดาแฟนๆ และทีมงานโรงถ่ายที่พยายามช่วย Lida อย่างไม่ได้หวังผลตอบแทน  หลายคนจนกว่า Lida 

Matcher จริงๆ ที่เชื่อมโยง Lida ที่เป็น Taker ก็มีหลายคน ตั้งแต่แมวมองที่ดึง Lida ไปแสดงในเยอรมันนี และพยายามช่วย Lida ให้ไปเจอแมวมองจากฮออลลี่วู๊ด ซึ่งก็เป็น Macther อีกคน Matcher พวกนี้เป็นนักธุรกิจที่พยายามเชื่อมโยง Lida ไปสู่สิ่งดีๆ และรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับเยอรมัน  

แต่ลิด้ากลับไปเลือก Matcher ตัวพ่อ ที่เป็นปีศาจนั่นคือกอปเปล..กอปเปล เป็น Matcher ตัวพ่อของอาณาจักรไรท์ที่สาม  ...

Lida คิดอย่างเดียวคือทำอย่างไรจะได้ผลประโยชน์สุด และที่สุดก็ตลกหลุ่มรักกอปเปล ที่เชื่อมโยงทุกอย่างในเยอรมัน และเมื่อความรักไปต่อไปไม่ได้ และอาจทำให้ Macther อย่างกอปเปลเสียผลประโยชน์ นั่นเอง Matcher ก็เอาฝ่ามือปิดฟ้า หันมาฆ่า Lida ทางอาชีพ ด้วยการปิดกั้นทุกช่องทางทำมาหากิน..ไม่มีใครกล้ามาเป็น Macther ทางธุรกิจอีก และจ้างงาน Lida อีก Lida จบชีวิตการเป็นนักแสดงในเยอรมัน ..และก็เป็น Giver คนที่ให้อย่างไม่หวังผลตอบแทนในกองถ่าย ที่ Lida ไม่เคยเห็นหัว นั่นเอง ที่พาหนีกลับประเทศ 

และก็เป็น Macther ในเชคอีก ที่หันมาเอาเรื่อง Taker อย่างลิด้า เพราะมองว่าลิด้าเคยเป็นเมียลับของอาชญากรสงคราม ทรัพย์สมบัติที่ได้มาไม่ชอบด้วยกฏหมาย แถมถูกกล่าวหาเป็นสายลับ...และลิด้าก็ถูกดำเนินคดีจาก Matcher ที่เคยเป็นแฟนคลับ จนชีวิตตกต่ำ

ถ้าถามว่าใครทำร้ายลิด้า คนสวย...ก็ต้องบอกว่าตัวเธอเอง บุคลิกเธอเองครับ เธอเป็น Taker ตัวแม่ ..ที่บังเอิญไปรัก Matcher ตัวพ่อ..ลงนรกเห็นๆ

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

  1. อย่าเป็นเลย Taker 
  2. ถ้าจะไปให้ไกลเป็น Matcher หรือ Giver ดีกว่า แต่ต้องเป็นคนดี คุณจะเปลี่ยนองค์กร ทำให้องค์กรทรงพลังไปได้ไกล สังคมก็ไปได้ไกล
  3. ถ้าจะคบหาใครให้ดูหน้าดูหลัง ดูศีลธรรมประกอบ ...  ไม่งั๊นชีวิตคุณอาจพังทลายด้วย Matcher คนนั้น หรือไม่ก็เป็น Matcher คนอื่นเข้าไปทำลายคุณครับ 
  4. อาจารย์ Adam บอกว่า เราควรกำจัด Taker ออกจากองค์กร แล้วส่งเสริมให้ Giver ก้าวหน้า เปล่งประกายออกมา ..Giver บางคนพูดไม่เป็นหรือปากเสีย แต่จริงๆ องค์กรขาดเขาไม่ได้ ..ต้องดึงออกมา
  5. เอา Taker เข้าไปหนึ่งคนอาจทำลายได้ทุกอย่างที่คุณสร้างมา .. ต้องไม่เอาไว้ 
  6. ต้องสังเกตให้ออก... อาจารย์แนะนำว่าวิธีสังเกตว่าใครเป็น Taker ให้ดูจะประสาทๆ หน่อย ..ที่สำคัญลองถามดูว่าใครที่มีส่วนต่อความสำเร็จของเขา..เขาจะพูดออกมาเฉพาะคนที่ต่ำกว่า...แต่ถ้าเป็น Giver จะพูดถึงคนที่สูงกว่าเขา ...จริงเท็จแค่ไหน ลองไปพิสูจน์กันดู  
  7. ในศาสนาพุทธท่านให้ดูเรื่องกัลยาณมิตร ประมาณว่าเป็นคนมีคุณธรรม .. ลองดูเรื่องกัลยาณมิตรต่อได้ที่นี่   http://thaihealthlife.com/%E0%...
  8. ถามตัวเองว่าจะให้อะไรกับคนอื่น จะเชื่อมโยงคนดีๆ ทำให้สร้างพื้นที่ให้คนดีได้อย่างไร ดีกว่าจะถามว่าคนที่อยู่ตรงหน้าจะให้อะไรกับเรา 
  9. สุดท้ายจะบอกว่า คนเราไม่ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว ..  ความสำเร็จของเรามีส่วนมาจากคนรอบข้าง เราต้องไม่เป็น Taker อย่างเดียว เป็น Macther หรือไม่ก็ Giver และคุณต้องดีด้วย ..ในขณะเดียวกันต้องเลือกคบคนด้วย 

วันนี้พอเท่านี้ เพียงเล่าให้ฟัง ลองเอาไปพิจารณาดูนะครับ

บทความโดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์

www.aithailand.org

หมายเลขบันทึก: 644041เขียนเมื่อ 19 มกราคม 2018 10:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มกราคม 2018 10:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท