ท่องแดนโลมาอิรวดีที่ทะเลสาบ พัทลุง
ชมรมอนุรักษ์ โลมาอิรวดีในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ได้นัดประชุมเพื่อหาแนวทางในการป้องกันการเสียชีวิตของโลมา เมื่อวันอาทิตย์ ที่24 กันยายน
2560 ซึ่งถือเป็นการประชุมปรึกษาหารือร่วม ทั้งหน่วยงานผู้เกี่ยวข้อง เช่น ทรัพยากาและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ประมงจังหวัด หัวหน้าเขตห้ามล่าพันพืช
และสัตว์ป่า อดีตนักการเมือง ทั้ง 3 ท่าน ศูนย์ วิจัยชายฝั่ง อาจารย์ จา่กมหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์ ประมงอาสา อาสาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน
รวมไปถึงคนที่อยู่กับทะเลสาบ หากินในทะเลสาบ ทั้ง สงขลา พัทลุง และผู้เขียน คน วปช (วิทยาลัยป้องกันชุมชน) โดยมีท่านรองผู้ว่า ภิรมย์ นิลทยา
ของข้างกายบล็อกนาม ทิพยวัลย์ นิลทยา เป็นประธานในการประชุม ประชุมกันจนรถึงบ่ายสองโมง จึงได้ข้อสรุปเป็นแนวทางในการปฎิบัติการ 5
ประเด็นดังนี้
1.ยกระดับโลมาอิรวดี จากสัตว์ป่าคุ้มครอง เป็น สัตว์ป่าสงวน
2.ประกาศเขตรักษาพืชพันธุ์ ในบริเวณที่เป็นที่อาศัยของโลมา
3.สร้าง,ซ่อม ฐานเฝ้าระวังโลมา
4.แก้ปัญหามลพิษ ด้วยการออกประกาศห้ามใช้ยาฆ่าแมลง ฆ่าหญ้า ในบริเวณที่จะไหลลงทะเล
5. การผสมเทียมข้ามสายพันธุ์โดยคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ
-แต่ละประเด็นสามารถดำเนินการได้ทันที โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ รับไปดำเนินการและจะมีการประชุมติดตามเป็นระยะ/
หลังจากเวที วันที่ 24
พฤศจิกายน 2560 พวกเรา คนคอเดียวกัน นัดถกแถลงเรื่องโลมา ที่บ้าน พี่สมนึก พรรณศักดิ์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 เพื่อหาทีม หาพวกเพิ่ม ในการ
เคลื่อนงานอนุรักษ์ โลมาภาคประชาชน ได้ข้อสรุปว่า เราต้องลงเล ไปแลโลมา ไปดูไปแล เขตที่อยู่อาศัยของโลมา และหาพระเอกตัวจริง ในการอนุรักษ์
โลมา จึงนัดหมายต่อกันว่า พวกเรา จะไปท่องแดนโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาพัทลุงใน วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม นัดไปนอนที่เกาะแก้วคุระเป็นเกาะที่ไม่คน
อาศัย
เราไปถึงเกาะค่ำ ก็ทำอาหารกินกันค่ำๆ ได้ เป็ดตุ่นมะนาวดอง อภินันทนาการจากท่านปุริมพรรษ์ สองตัว หรอยราสา รุ่งเช้าจะเดินทางท่องแดนโลมา
แบบสบายๆสไตล์ สโลไลฟ์ ทานอาหารเช้าแบบสบายๆ ที่เหลือจากเมื่อคืน เพียงเติมกุ้งใส่ลงไป ก็เป็นข้าวต้มกุ้ง เมนูบนเกาะแก้ว แล้วตามด้วย กาแฟ
หัวมันหมก
เราผ่านหน้าเกาะใหญ่ ไปลอยเรือ รอโลมา วันนี้ฟ้าปิด พระอาทิตย์ไม่ยิ้ม ฝูงโลมา จึงไม่ออกมาทักทาย พระอาทิตย์ จอดเรือรอประมาณ หนึ่งชั่วโมง
ก็เดินทางต่อ ไปคลองปากประ ถิ่น ยอยักษ์ ตลอดสองฝั่งคลอง มียอ เต็มไปหมด เรือมาจอดเติมน้ำมันที่ ท่าสำเภา ถิ่นเพื่อนเก่าน้องคิมหันต์ นายท้าย
เรือวันนี้ ได้น้ำมันเราก็วกกลับทาง ลำปำ และกินข้าวเที่ยงที่ตลาดน้ำลำปำ แล้วแวะเยี่ยม พิพิธภัณฑ์ แต่ไม่เจออาจารย์ สมเสริม จึงอดเข้าชมโลมา
เป็นอันว่า ท่องแดนโลมารอบนี้ ไม่ได้ชม โลมาตัวเป็นๆ และไม่ได้ชมพิพิธภัณฑ์ โลมา แต่ก็ได้เห็น บริเวณเขต โลมา ที่ต้องซ่อม สร้าง ทั้งฐานเฝ้าระวัง
ข้อเสนอของการคุยกันที่เกาะแก้ว ภายใต้คำสำคัญที่ว่า
คนหากินเลอยู่ดี โลมาอิรวดี ก็อยู่ได้
คือ1 เราต้องคิดเรื่องทะเลสาปทั้งระบบ ไม่ใช่จับเอาประเด็นโลมาเพียงเรื่องเดียว
2 การส่งเสริมอาชีพคนริมเลสาป
3 ควรมี มาตรการ
3 ป คือ ป้อง ปราม ปราบ ในการบังคับใช้กฎหมาย ท่องแดนโลมา โอกาสหน้า จะมาใหม่...
.ขอบคุณ น้องคิม อาจารย์สมพร และอาจารย์ วณิตย์ สุวรรณเรืองศรี
เตรียมสัมภาระลงเรือ
แม่ครัว สั่งตรงจากบ้านแหลมดิน
อาหารพร้อม ที่นอนพร้อม
ล่องเรือ ท่องแดนโลมา
บริเวณเขตปกป้องโลมา แลฐานเฝ้าระวัง
ความเห็น (2)
บริษัทผลิต..ยา..ฆ่า..ทุกชนิด..ยังได้รับอนุญาติให้ ผลิต..ต่อไป..ได้..เราก็ยังรับ ผลของการใช้ยาฆ่าทุกชนิด..แม้จะ ห่าง ทะเล เพียงใด ..ก็ตาม..เพราะมัน ปนเปื้อนไป ทั่วโลกแล้ว....
สวัสดีคุณยาย ตอนนี้ อยู่ไทย หรือ เยอรมัน
พัทลุงช่วงนี้ฝนตก โลมาระเริงชล เดือนนี้ตายไปสองตัวแล้ว