วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม 2560 เวลาประมาณ 11.30 น. ออกจากตลาดปลา เป้าหมายไปทานมื้อกลางวันที่เขื่อนน้ำงึม ระหว่างทางรถจอดให้ทำภารกิจส่วนตัวที่ปั๊มน้ำมัน ที่ปั๊มนี้มีของขายเหมือนปั๊ม ป.ต.ท. บ้านเราเมืองไทย และมีไอศกรีม ที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยมาก เขาเรียกว่า "กะแล่ม"
ไอศกรีม(กะแล่ม)ข้าวเหนียวใบเตย ถ้วย(ลาวเรียกจอก) 10,000 กีบ คิดเป็นเงินไทย 10,000/2 50=40 บาท ราคาไม่ต่างจากบ้านเรามากนัก ทุกคนเรียบร้อยกลับขึ้นรถเพื่อไปล่องเรือทานมื้อกลางวันที่เขื่อนน้ำงึม เขื่อนน้ำงึมตั้งอยู่ที่บ้านท่าลาด แขวงเวียงจันทร์ คณะฯของเราลงมาจากวังเวียง ข้ามสะพานซึ่งคนลาวเรียกว่า "สะพานให้เกีรยติ" มองจากสะพานลงไปจะเห็นแม่น้ำงึมเป็นสองสี ซ้ายเป็นแม่น้ำหลีก(เป็นสีเหลือง) ขวาเป็นแม่น้ำงึมใสกว่าเพราะเป็นน้ำท้ายเขื่อน ภาพนี้ถ่ายบนรถผ่านกระจกขณะรถวิ่งบนสะพาน
เขื่อนน้ำงึม ตั้งอยู่ห่างจากนครเวียงจันทน์ ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2515 มีลักษณะเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ กักเก็บน้ำในลำน้ำงึมเอาไว้ เขื่อนน้ำงึมแห่งนี้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในปริมาณที่มากพอสำหรับใช้ในนครเวียงจันทน์ และยังมีเหลือพอส่งออกมาขายทางฝั่งไทย การสร้างเขื่อนน้ำงึมต้องเสียพื้นที่ป่าไปประมาณ 250 ตารางกิโลเมตร ภายในเขื่อนน้ำงึมมีเกาะเล็กเกาะน้อยกระจัดกระจายอยู่หลายร้อยเกาะ เหมือนอ่างเก็บน้ำทั่วๆ ไป และที่ท่าเรือบ้านนาคะนูนจะมีเรือของชาวบ้านให้เช่าออกไปเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ในอ่างเก็บน้ำนี้ไปชื่นชมธรรมชาติอันงดงามภายในอ่างเก็บน้ำ สวรรค์บนดิน ที่ ท่าลาด แขวงเวียงจันทน์ มีบรรยากาศดีๆ น้ำใส ชมธรรมชาติเขื่อนน้ำงึม (มัลดีฟส์เมืองลาว).และที่นี่เปรียบเสมือนทะเลลาว สวยงามและธรรมชาติที่นี่ต่อชีวิตเราให้ยืนยาวได้อีกหลายปี
นี่คือท่าเรือของที่นี่มีเรือให้เช่า ทั้งเรือเล็กและเรือที่มากันเป็นหมู่คณะ มีอาหารพร้อมความบันเทิง มีห้องน้ำ คณะฯของเราลงเรือที่มีอาหารและความบันเทิง เป็นการล่องเรือในเขื่อนพร้อมทานอาหารกลางวัน และเก็บภาพธรรมชาติสวย ๆ เป็นอาหารตาและอาหารใจ
อาหารกลางวัน เน้นเมนูปลาคัง อร่อยมากโดยเฉพาะปลาคังแดดเดียว ทุกเมนูเป็นปลาคังค่ะ เครื่องดื่มเป็น "เบยลาว" เบียร์ลาวที่ขึ้นชื่อว่าอร่อย อร่อยจริงหรือเปล่า เราไม่ได้ลอง ฮา ฮา จึงตอบไม่ได้ค่ะ
ทานอาหารอิ่มแล้วขึ้นไปเก็บภาพบนดาดฟ้าเรือ แดดร้อน ๆ ยามบ่าย แต่ได้ภาพน้ำกับฟ้า สวยถูกใจมากกับทะเลลาว(มัลดิฟส์เมืองลาว) คุ้มค่ากับการนั่งรถมายาวนาน สี่วันกับสามคืน
ทั้งเก็บบรรยากาศสวย ๆ สนุกสนานกับการร้องคาราโอเกะ และการเต้นบาสโลบของลาว โดยมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นสอนให้ ทุกคนมีความสุข ลืมอายุ สนุกสนาน
ได้เวลาพอสมควรกับความสนุกสนานหลังอาหาร และบางคนเลือกซื้อเครื่องหวายศิลปหัตถกรรมของชุมชนที่นี่ 14.00 น. เดินทางต่อไปนครหลวงเวียงจันทร์ค่ะ
ไม่มีความเห็น