170814-1 คำชวนสับสน ในการใช้ ชุด C – Creditor & debtor


ศัพท์อังกฤษ

การใช้ภาษาอังกฤษ ที่ถูกต้อง อ้างอิง มาตรฐานตามพจนานุกรม

Revised on 2017.08.13

Dictionary.com สะกด คำอ่าน “creditor”

      สะกดการออกเสียงเน้น พยางค์ แรก ว่า “KRED-i-ter”

Dictionary.com สะกด คำอ่าน “debtor”

      สะกดการออกเสียงเน้น พยางค์ แรก ว่า “DET-er” (ไม่ออกเสียง ’b’)


Dictionary of Problem Words and Expressions

อธิบายว่า “creditor” คือ “ผู้ที่ควรได้รับเงินคืน”

ส่วน “debtor” คือ ผู้ตกอยู่ในพันธะทางการเงินแก่ผู้อื่น เช่น

             ‘This wealthy mortgage holder is a creditor to ten property holders in this town.’

           ‘Three small loan companies were able to prove that I was their debtor.’

คำย่อของ (เจ้าหนี้) “creditor” คือ ‘cr.’

และของ (ลูกหนี้) “debtor” คือ ‘dr.’


Longman Business Dictionary

อธิบาย การใช้ “debtors” ใน British English ว่าหมายถึง

          “เงินจำนวนที่ ลูกค้า เป็นหนี้ต่อ (owed to) ธุรกิจหนึ่ง” เช่น

                ‘Current assets are typically finished goods, work in progress, raw materials, cash and debtors.’

โดยใน US English ใช้ว่า “accounts receivable”


Farlex Financial Dictionary

อธิบายความหมายของ “debtor” ว่าคือ

      “บุคคล/บริษัท หรือองค์กร หนึ่ง

      ที่ “owe money to” บุคคล/บริษัท หรือองค์กร อีกแห่ง

      กล่าวโดยทั่วไปว่า ‘a debtor acquires debt เพื่อดำเนินการเฉพาะอย่างหนี่ง’ เช่น

           ‘to fund การเรียนหนังสือ หรือซื้อบ้านอยู่อาศัย

          ทาง ธุรกิจ และรัฐบาล “บ่อยครั้ง ‘issued’ debt ในรูปของ bonds”

          ที่เป็น ‘tradeable securities’ ที่ซึ่งผู้ถือ (bearer)

         ได้รับสิทธิ ที่จะได้ ‘repayment’ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด

ทำให้ ธุรกิจ หรือรัฐบาล นั้นเป็น “debtor”

          ผู้เป็น ‘a debtor’ จะต้องจ่าย ชดเชย (compensate) เสมอๆ

         ให้แก่ ‘a creditor’ เป็น ดอกเบี้ย (interest) ตามจำนวนที่กำหนด

          แสดงแทนค่าของ “time value of money”

หากแต่ สถาบันการเงินบางพื้นที่ โดยเฉพาะ “Islamic banking”

        ไม่ได้รับอนุญาตให้มี “debt” with interest.


Merriam-Webster Dictionary

ให้ จำกัดความ ว่า “creditor” คือ

          เอกชน/สถาบัน ที่ ”lends money/services”

          แก่ ‘entity’ อื่น โดยมีข้อตกลงว่าจะมี “repayment”

ให้รายละเอียดการทำงาน ว่า โดยทั่วไป “creditor” มีสองประเภท

คือ ‘personal’ และ ‘real’

     “personal creditors’ คือ ผู้คน ที่ “loan money” แก่ เพื่อน หรือครอบครัว

     “real creditors” คือ สถาบัน การเงิน ที่ผู้ยืมต้องทำ ‘สัญญาตามกฎหมาย’

          โดยใช้หลักทรัพย์ เช่น รถ/บ้าน/ทรัพย์สินอื่น

         เพื่อเป็น “collateral” ให้แก่ “creditors”

         ในกรณี ที่ ผู้ยืม ผิดนัดการส่งคืนเงินที่ยืมนั้น

บุคคล/บริษัท สามารถมี :”creditors” ได้หลายรายในเวลาหนึ่ง

        ด้วยการใช้ “debt” แบบที่แตกต่างกัน เช่น

       “creditors” ผู้ขยาย ‘credit lines’ ให้เป็น ‘เงิน/บริการ’ ต่างๆ เช่น

            ‘utilities companies’ ‘health clubs’ ‘phone companies’

            และ “ผู้อออก ‘credit cards’”

และให้คำจำกัดความ ว่า “debtor” คือ

       “บุคคล/สถาบัน ที่ตามกฎหมาย ต้องจัดให้ ‘payment’ ‘service’ หรือ

       ‘benefit’ อื่นๆ แก่บุคคล/สถาบัน” อื่น (เรียกว่า ‘the obligee’)

บ่อยครั้ง ยังเรียกชื่อ “debtor” ได้ว่าคือ

       “borrowers” หรือ “obligators” ในสัญญา

ให้รายละเอียดการทำงาน ว่า

           “บริษัท ผู้ออก “bonds” ที่รู้จักกันดีที่สุดว่าคือ “debtors”

พวกเขาต้องจัดให้:

        แก่ ‘bondholders’ ของพวกเขา ด้วยดอกเบี้ย ตามที่กำหนดไว้’

       และ จ่าย เงินต้น (principal) ในวันที่ได้กำหนดไว้

       และในบางกรณี ต้องยินดี จะปรับเปลี่ยน “debt” นั้น

       ให้เป็น “equity” ตามอัตราส่วน (ratio) ที่กำหนดไว้ หรือ

       ชำระคืน “debt” นั้น ก่อนถึงกำหนด

       ถ้ามีเหตุการณ์เฉพาะอย่างเกิดขึ้น

“a debtor” อาจต้อง ‘ดำเนินการ ทำหน้าที่ เฉพาะอย่าง’

       หรือแม้แต่ ‘ยับยั้ง ไม่ดำเนินการ เฉพาะอย่าง’

       เมื่อ ‘debtor’ บกพร่อง มิได้กระทำตามพันธะหน้าที่ของตน

       ที่บางครั้ง ถือได้ว่า “debtor” นั้น ได้ กระทำผิดสัญญา (in default)

เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะ:

“debtors” ถูกบังคับให้มีพันธะหน้าที่ ตามสัญญา

        ถ้าหาก บกพร่องมิได้ปฏิบัติตาม พันธะหน้าที่เหล่านั้น

       “creditor” มีสิทธิ ที่จะดำเนินคดีฟ้องร้องต่อศาลได้

        อาจเกิด ความเสียหายอย่างมากต่อชื่อเสียง

ถ้าหาก ผู้ที่ผิดสัญญา เป็น “a public company”

บางกรณี แม้เมื่อมีการ คาดการณ์ว่า “debtor” นั้น อาจไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้

สามารถส่งผลให้ “ราคาหุ้น” (stock price) ของเขา ตกลงได้

และส่งผลต่อไป ว่า “อาจไม่ได้รับการอุดหนุน ทางการเงินหรือความช่วยเหลือในภายหลัง”

หมายเลขบันทึก: 633452เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2017 00:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 สิงหาคม 2017 17:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

Thank you.

1) a minor typo at the top: Dictionary.com สะกด คำอ่าน “credito”

2) The biggest debtor anywhere is usually 'the government' (by issuing 'government bonds')

;-)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท