ไปเรียนรู้การบริหารการเปลี่ยนแปลงในมหาวิทยาลัย
วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ ผมไปจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อร่วม “การสัมมนาวิชาการ การปฏิรูปหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้แบบ Transformative Learning สำหรับบุคลากรสุขภาพในศตวรรษที่ ๒๑” ที่จัดโดยวิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
จึงได้ไปเรียนรู้วิธีบริหารการเปลี่ยนแปลงของท่านคณบดี ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข คือ นพ. นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ผู้เคยเป็นทั้ง สว. และกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เห็นแล้วผมบอกตัวเองว่า นี่คือรูปแบบการบริหารส่วนงานในมหาวิทยาลัยที่เราต้องการ ... บริหารการเปลี่ยนแปลง ทั้งในภาพใหญ่ และภาพรายละเอียด
นพ. นิรันดร์ ไม่ใช่คนทางการศึกษา แต่เมื่อมารับหน้าที่คณบดีก็ศึกษาหลักการและเป้าหมายของการ จัดการศึกษาสำหรับบุคลากรสุขภาพอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าใจแนวทาง HPER สำหรับศตวรรษที่ ๒๑ ก็ดำเนิน ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทันที
โดยจัดการสัมมนาครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๐ เชิญท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข ไปให้นโยบายการพัฒนาระบบสุขภาพ เชื่อมโยงไปยังการปรับเปลี่ยนหลักสูตรและการจัดการศึกษา ซึ่งผมเล่าไว้ ที่นี่ เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ก็เพื่อให้ได้ภาคีร่วมมือจากหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่
นพ. นิรันดร์ติดต่อผม ขอวันที่ผมว่างไปร่วมการสัมนาครั้งที่ ๒ ก็ได้วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ โดยการสัมมนามี ตั้งแต่วันที่ ๒๗ ถึง ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๐ เป้าหมายหลักก็เพื่อให้ได้รับการสนับสนุน เชิงสถาบันจากท่านอธิการบดี มอบ. และความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในพื้นที่ รวมทั้งมีการประชุม เชิงปฏิบัติการ Curriculum Design ด้านต่างๆ
ที่สุดยอด strategic thinking ก็คือ ช่วงเช้าวันที่ ๒๗ เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. นพ. นิรันดร์ จัดให้มีการประชุมเชิงปรึกษาหารือระบบการจัดการ เพื่อบรรลุเป้าหมาย การเปลี่ยนแปลงระบบและกลไก ระดับสถาบัน ให้เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้แบบ Transformative Learning โดยระบุประเด็นหารือไว้ ๖ ประเด็นคือ
ผู้เข้าร่วมประชุมนำโดย รศ. ดร. นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี คณบดีของคณะด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ๔ คณะ รวมทั้งผู้บริหารระดับคณบดีของคณะด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ของมหาวิทยาลัยใกล้เคียง อีก ๒ มหาวิทยาลัย และผู้บริหารระดับรองๆ ลงไป รวมผู้เข้าร่วมประชุมราวๆ ๓๐ คน ประชุมกันเป็นโต๊ะกลม ฝ่ายเยือนได้แก่ ศ. นพ. ภิเศก ลุมพิกานนท์, ศ. พญ. วณิชา ชื่นกองแก้ว, นพ. อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล, รศ. พญ. จิตเกษม สุวรรณรัฐ และผม
การประชุมดำเนินไปแบบที่ทาง วิทยาลัยแพทยศาสตร์ฯ เล่าเป้าหมายและแผนยุทธศาสตร์ การปรับเปลี่ยนหลักสูตรและการเรียนการสอนเพื่อสนองสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป แล้วคณะผู้ไปเยือน เล่าการริเริ่มดำเนินการในมหาวิทยาลัยอื่นๆ เช่น จุฬาฯ มหิดล สงขลานครินทร์ นเรศวร แม่ฟ้าหลวง มทส. กับ รพ. มหาราชนครราชสีมา มหาสารคาม เป็นต้น
การจัดการประชุมสองชั่วโมงนี้ จึงเป็นการประชุมทำความเข้าใจว่ามหาวิทยาลัยจะต้องเปลี่ยนแปลง เชิงระบบ เชิงกติกา และเชิงการจัดสรรทรัพยกร อย่างไรบ้าง ในภาพใหญ่ของมหาวิทยาลัย เพื่อหนุนการ เปลี่ยนแปลงด้านการผลิตบัณฑิตสาขาวิชาชีพสุขภาพ ให้สอดคล้องกับระบบสุขภาพในปัจจุบัน
เพิ่มเติม ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
มีคนมาบอกผมในภายหลังว่า การจัดการการเปลี่ยนแปลงอย่างมียุทธศาสตร์และขั้นตอนนี้ พบความท้าทายสำคัญที่ รพ. สรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งเป็นสถานร่วมมือฝึกนักศึกษาแพทย์ชั้นคลินิก ที่อาจารย์แพทย์ที่นั่นยังไม่เข้าใจความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนวิธีจัดการเรียนการสอน ซึ่งในความเห็นของผม ผู้บริหารวิทยาลัยแพทยศาสตร์ฯ และผู้อำนวยการโรงพยาบาล รวมทั้งทีมแกนนำ ต้องร่วมกันวางยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงที่โรงพยาบาลด้วย
วิจารณ์ พานิช
๒๘ มิ.ย. ๖๐ ปรับปรุง ๑๓ ส.ค. ๖๐
ไม่มีความเห็น