1.ลัทธิชาตินิยม[ nationalism ] คือ ความจงรักภักดีต่อชาติของตนสูงสุดเหนือสิ่งอื่นใดคิดว่าชาติของตนมีความสำคัญเหนือกว่าครอบครัว ท้องถิ่น หรือประชาชาติอื่น ๆ
สงครามฝรั่งเศส - ปรัสเซีย (Franco-Prussian War) ระหว่างปี ค.ศ. 1870-1871
สาเหตุ บิสมาร์กแห่งปรัสเซีย ได้ดำเนินนโยบาย เพื่อโดดเดี่ยวฝรั่งเศส
ผลของสงคราม
1. ฝรั่งเศสต้องเสียแคว้นอัลซาสและลอร์เรนให้ปรัสเซีย
2. รัฐเยอรมันสามารถรวมตัวสถาปนาเป็นจักรวรรดิเยอรมัน (นโยบาย“เลือดและเหล็ก” )
3. ฝรั่งเศสต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นสาธารณรัฐ
4. เกิดกระแสลัทธิชาตินิยม (คาบสมุทรบอลข่าน ที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวสลาฟ ที่ต้องการมีประเทศเป็นของตนเอง )
5. อิตาลีรวมประเทศได้
2. ลัทธิจักรวรรดินิยม อันเป็นผลมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้ประเทศต่างๆ แสวงหาตลาดระบายสินค้าและแหล่งวัตถุดิบป้อนโรงงานอุตสาหกรรมจึงก่อให้เกิด ความขัดแย้งด้านผลประโยชน์
3.การแบ่งกลุ่มพันธมิตรยุโรป มหาอำนาจยุโรปมีความขัดแย้งกัน จึงจำเป็นต้องมีพันธมิตรไว้เป็นพวกทำให้มหาอำนาจแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
1) กลุ่มไตรภาคี (Triple Alliance) ประกอบด้วยเยอรมนี ออสเตรีย – ฮังการีและอิตาลี ต่อมาอิตาลีถอนตัว กลุ่มนี้เรียกว่า “กลุ่มมหาอำนาจกลาง” (Central Powers)
2) กลุ่มไตรพันธมิตร (Triple Entente) ประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซียต่อมามีอิตาลีเข้าร่วมกลุ่มด้วยเรียกว่า “กลุ่มสัมพันธมิตร” (Allied Powers) 4.ความขัดแย้งในคาบสมุทรบอลข่าน ได้แก่ ดินแดนในบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และทะเลดำ (ซึ่งในปัจจุบันเป็นดินแดนบางส่วนของอดีตยูโกสลาเวีย แอลเบเนีย บัลแกเรียและกรีซ ) จะรวมเรียกว่า คาบสมุทรบอลข่าน
สาเหตุของปัญหาเกิดจากการพยายามรักษาอำนาจและอิทธิพลระหว่างออสเตรีย –ฮังการีกับรัสเซีย
โดยรัสเซียต้องการใช้คาบสมุทรบอลข่านเป็นทางออกสู่ทะเลทางใต้ของตนและต้องการขึ้นเป็นผู้นำของชนชาติสลาฟ (Slav)ในคาบสมุทรบอลข่าน อันมีเชื้อสายเดียวกับรัสเซียเป็น บริเวณนี้มีประชากรเป็นชาวสลาฟ กรีกและเตริ์ก ให้มีความแตกต่าง ในด้านสังคมภาษา วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชนชาติ
จักรวรรดิออสเตรีย – ฮังการี ต้องการรักษาไว้เป็นตลาดการค้า และเขตอิทธิพลทางการเมืองโดยได้รับการสนับสนุนจาก
ส่วนรัสเซียและอิตาลี ได้พยายามเข้ามามีอิทธิพลในบริเวณนี้ โดยแต่ละประเทศก็พยายามรักษาอิทธิพล และอำนาจของตนไว้
เยอรมัน อิตาลี พยายามไม่ให้ออสเตรีย-ฮังการีขยายอิทธิพลเพิ่มขึ้น
รัสเซีย ต้องการหาทางออกทะเลโดยผ่านดินแดนในบริเวณนี้
อังกฤษ และฝรั่งเศส ไม่ต้องการให้ชาติเหล่านี้ขยายอิทธิพลให้มากกว่านี้
ชนวนสงคราม
เกิดจากการที่อาร์ชดุ๊กฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ [Archduke Francis Ferdinand] รัชทายของจักรวรรดิออสเตรีย- ฮังการี ถูกลอบปลงพระชนม์ ในวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1914 ที่เมืองซาราเยโว เมืองหลวงของแคว้นบอสเนีย โดยฝีมือชาวเซอร์เบีย
สงครามโลกครั้งที่ 1 ใช้เวลานาน 4 ปี 3 เดือน (ค.ศ. 1914 – 1918)
คู่สงคราม
กลุ่มไตรภาคี ประกอบด้วยประเทศออสเตรีย-ฮังการี เยอรมัน และตรุกี
กลุ่มพันธมิตร ประกอบด้วยประเทศ ฝรั่งเศส อังกฤษและรัสเซีย
ผลของสงครามโลกครั้งที่ 1
ด้านสังคม มีทหารเข้าร่วมในสงครามประมาณ 65 ล้านคน
เสียชีวิตประมาณ 13 ล้านคน
บาดเจ็บประมาณ 20 ล้านคน
พิการตลอดชีวิตประมาณ 7 ล้านคน
ด้านเมือง
ทำเกิดมหาอำนาจขึ้น ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
ด้านเศรษฐกิจ
ก่อให้เกิดภาวะตกต่ำของเศรษฐกิจทั่วโลก
การรบที่สำคัญในสงครามโลกครั้งที่ 1
ยุทธการที่แวร์เดิง [ Battle of Verdun ] ปี ค.ศ. 1916 มีทหารเยอรมัน และ ฝรั่งเศส เสียชีวิตประมายุทธภูมิแม่น้ำซอม [ Battle of Somme ]
ปี ค.ศ. 1916 ณ 600,000 คน
มีทหารทั้งสองฝ่ายสูญเสียชีวิต และถูกจับเป็นเชลย ประมาณ 1.5 ล้านคน
ยุทธภูมิปาสเซ่นเดล ปี ค.ศ. 1917 มีทหารอังกฤษเสียชีวิต และบาดเจ็บประมาณ 400,000 คน
ยุทธภูมิแทนเนินเบิร์ก และการรบบริเวณทะเลสาบมาซูเรียน ปี ค.ศ. 1914
รัสเซียสูญเสียกำลังทหารไปประมาณ 350,000 คน
ยุทธภูมิแกลลิโปลี ทหารออรเตรเลีย นิวซีแลนด์และอังกฤษ สูญเสียทหารไปประมาณ 250,000 คน
สงครามฝรั่งเศส - ปรัสเซีย
พระเจ้าไกเซอร์วิลเลี่ยมที่ 1 ประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐเยอรมัน
อาร์ชดุ๊กฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ [Archduke Francis Ferdinand] รัชทายของจักรวรรดิออสเตรีย- ฮังการี
คาฟริโล ปรินซิฟผู้ลงมือสังหารอาร์ชดุ๊กฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ [Archduke Francis Ferdinand] รัชทายของจักรวรรดิออสเตรีย- ฮังการี
ทหารไทยในสงครามโลกครั้งที่ 1
ไม่มีความเห็น