พัฒนากระบวนการคิด มีจิตสาธารณะ : ลปรร. เครือข่ายอุดมศึกษาภาคเหนือตอนล่างที่มอดินแดง

วันนี้มีโอกาสต้อนรับ มหาวิทยาลัยนเรศวร และเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนล่าง 13 สถาบัน ดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะแม่ข่ายเครือข่ายเพื่อการพัฒนาอุดมศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เรื่องการบริหารจัดการเครือข่ายและการดำเนินงานโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด นำโดย นางสมพิศ ทองสุก ที่ปรึกษากิจการนิสิต ม.นเรศวร และ นางศิริวรรณ กมลพัฒนะ ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต ม.นเรศวร พร้อมด้วยคณาจารย์ นิสิต นักศึกษา และบุคลากรจาก 13 สถาบัน จำนวน 40 คน และมหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย รองศาสตราจารย์เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นรินทร์ จันทร์ศรี ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ นางสุวิมล ลครชัย ผู้อำนวยการกองกิจการนักศึกษา พร้อมด้วย นางสาวพลอยไพลิน วงษ์ตรี นายกองค์การนักศึกษา มข. และกรรมการบริหารองค์การนักศึกษา สมาชิกสภานักศึกษา มข. ร่วมต้อนรับคระศึกษาดูงาน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2560 ณ ห้องประชุมสารสิน อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น

วันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนล่าง ที่นำโดยสถาบันแม่ข่าย คือ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เดินทางมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นในวันนี้ และพรุ่งนี้จะเดินทางไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ปัญหายาเสพติดและอบายมุขเป็นปัญหาสำคัญที่ชาวอุดมศึกษาช่วยกันป้องกันและแก้ไขมาโดยตลอด แต่ปัญหาก็ยังมีอยู่มากบ้าง น้อยบ้าง และแตกต่างในแต่ละสถาบันและภูมิภาค บางพื้นที่มีความเสี่ยงเรื่องยาเสพติดให้โทษร้ายแรง บางสถาบันมีปัญหาเรื่องอบายมุขหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา การบริหารจัดการและการทำงานเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในแต่ละพื้นที่จึงมีองค์ความรู้และทักษะที่ต่างกัน การมีเวทีแลกเปลี่ยนกันจึงจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการแลกเปลี่ยนแนวคิดและแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างกัน ขอให้การมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จตามที่มุ่งหวัง

การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ครั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดความคิดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ดี เพราะหลายสถาบันมีการปฏิบัติงานภายใต้บริบทของตนเองเพื่อพัฒนาศักยภาพนักศึกษาผ่านกิจกรรมเสริมหลักสูตรอยู่แล้ว อีกทั้งการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ก็เป็นอีกประเด็นที่ทุกๆสถาบันต้องเอาใจใส่ กำกับ ดูแล ที่เน้นทั้งเรื่องกระบวนการป้องกัน และวิธีการแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยดูแลนักศึกษาที่อาจหลงผิดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดให้โทษ หรือแม้แต่การไปเที่ยวสถานบันเทิง ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ที่เป็นตัวบ่อนทำลายสุขภาพ ก็เป็นประเด็นที่ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน เพื่อสืบเสาะ แสวงหาวิธีการและกลเม็ดเคล็ดลับที่แต่ละสถาบันใช้ในการทำงานเพื่อดูแลนิสิตนักศึกษา และนำไปปรับหรือประยุกต์ใช้ในการดำเนินการต่อไป

สถาบันเครือข่ายภาคเหนือตอนล่างมีความเข้มหลังเอาการ มุมนี้น่าสนใจ วันนี้ในเวทีแลกเปลี่ยนยังไม่กล้าถาม เพราะเป็นภาพรวมมากไป คิดว่ามุมของความสำเร็จในการให้แต่ละสถาบันสามารถขับเคลื่อนงานจนเป็นรูปธรรม มีการสรุปและถอดบทเรียนได้ดีเด่นเห็นชัด ก็น่าจะมาจากการเป็นแม่ข่ายที่ดีของมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ได้วางรุปแบบที่เข้มข้น สะท้อนผลได้หลากมิติ และสามารถหาจุดร่วมเพื่อหลอมรวมความต่างของสถาบัน เช่น การเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ การมีฐานะเอกชน การเป็นวิทยาลัยชุมชน สถาบันเล็ก กลาง ใหญ่ แต่สามารถหาจุดร่วมเพื่อเดินไปในทิศทางเดียวกัน มีรูปแบบที่แตกต่าง หลากหลาย แต่มีจุดร่วมคือผลลัพธ์ กลไกนี้น่าสนใจ

วันนี้กาลแลกเปลี่ยนระหว่าง 2 เครือข่าย โดย 13 สถาบันนำเสนอ แลกเปลี่ยนได้เข้มข้น เล่าถึงความสำเร็จอย่างเห็นชัด แต่ก็ลืมถามถึงอุปสรรคและความท้าทายที่มีอยู่ ก็คงเพราะแท้จริง เพื่อนกัลยาณมิตรมาดูเรา แต่เรากลับรู้สึกว่า เขาเอาองค์ความรู้มาฝากเราถึงที่ต่างหาก เราเองกลับมีองค์ความรู้น้อยมากจากการทำงาน........

เรื่องที่ทำให้ได้เรียนรู้คนอื่น ก็เป็นพลังและแนวคิดในการจะขับเคลื่อนต่อไป เอามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทของเรา แต่การได้เรียนรู้เขา กลับทำให้เราเองได้ตระหนักและเรียนรู้ตนเองอย่างชัดขึ้น ดั่งเห็นกระจำเงาบานใหญ่ ว่าเราเองมีอะไรบ้าง ขาดอะไรอยู่ ต้องเติมอะไรอีก ต้องแก้ไขอะไรบ้างไหม........

ขอบคุณ ดร.อนวัธ มีเคลือบ หรืออาจารย์โจ๊ก ผู้ประสานงานจาก ม.นเรศวร และผู้ “หาเรื่อง” ให้เราได้มาพบปะกันในครั้งนี้ ขอบคุณที่หอบเอาพลังความดีมาแบ่งปัน แนวทาง เป้าหมาย ชัดขึ้น และการพัฒนา ย่อมจะเห็นผลในอนาคต ...... Thank you 3 times

ภาพกิจกรรม : https://goo.gl/pG8U7v

ณ มอดินแดง

15 มิถุนายน 2560

ปล. วันนี้เลนกล้องหล่นในห้องประชุม พัง คงต้องส่งซ่อมอีกแล้ว นี่เพิ่งกลับมาจากศูนย์ได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์