แม่นางฟ้าปราบยักษ์น้อย


วันนี้มีเรื่องเล่า...คุณแม่คนหนึ่งพาลูกสาวตัวน้อยวัยสักประมาณไม่เกิน 3 ขวบ มาซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ของใช้ ขนม ประมาณ 3 ถุงใหญ่ ที่ 2 แม่ลูกหอบหิ้วซื้อกันไป

+++
แม่หิ้วของ 3 ถุงใหญ่ ด้วยอาการทุลักทุเล ดูน่าจะหนักพอสมควร อีกมือก็จูงมือน้อย ๆ พากันจะเดินออกจากร้าน เด็กน้อยมีอาการงอแง อยากจะได้ของบางอย่าง แต่แม่ไม่ซื้อให้
เมื่อพยายามจูงไปสักพักถึงหน้าประตูอัตโนมัติของร้าน เด็กน้อยก็ทิ้งตัวโวยวายงอแงจะเอาให้ได้
+++
ผู้เฝ้าดูลุ้นระทึก เด็กน้อยใช้วิธีทิ้งตัว กลางประตูทางเดินเข้าออก ซึ๋ง ณ เวลานั้น ก็มีผู้คนจอแจอยู่ ส่วนมากผู้เป็นแม่มักโมโห โกรธที่ลูกงอแง อายผู้คนที่ลูกทำอาการไม่น่ารักในที่สาธารณะ มักตวาดลูก กระชากแขน หนัก ๆ ก็ฟาดเพี้ยด้วยอาการนางยักษ์เข้าสิง เป็นภาพที่เห็นบ่อยมาก
+++
แต่แม่คนนี้ต่างไป เธอสงบ พยายามพาลูกออกจากตรงบริเวณนั้น แต่......ไม่เป็นผล แม่นางน้อยดิ้นสู้ อีกมือก็ถือของอย่างหนัก (ดูจากท่าทาง) สักพักแม่หยุดดึงแขน (เป็นอาการจูงแขน ไม่ใช่กระชาก ลากถู) แม่หยุดนิ่งสักพัก ก็เปิดถุงและบอกลูกว่า ขนมที่ลูกอยากได้แม่ก็ซื้อแล้วมีในนี้นะ
+++
จากนั้นคุณแม่ก็ลดตัวลงนั่งสบตา และโอบอุ้มลูกน้อยออกไปให้พ้นทางเดิน ด้วยของที่หนัก ลูกก็ตัวหนักและดิ้นๆๆๆ จึงวางลูกลงตรงบริเวณที่ไม่ขวางทางใคร (นอกร้าน) เด็กน้อยยังมีอาการไม่พอใจ ทิ้งตัวลงกับพื้น
+++
แม่สงบนิ่ง ยืนอยู่ข้าง ๆ แววตาแสดงถึงความรู้สึกเข้าใจ และรอสักพัก แล้วน้อมตัวลงพูดกับลูกว่า แม่จะกลับบ้านแล้ว กลับบ้านกันเถอะ แม่ยื่นมือส่งให้เด็กน้อย เด็กน้อยสบตา สักพักก็ยื่นแขนน้อย ๆ ให้ สองแม่ลูกเดินจูงมือกลับบ้านไปด้วยความสงบสุข
+++
ฉันเห็นนางฟ้า เสกเวทมนต์แห่งความรัก ปราบยักษ์ตัวน้อย อันที่จริง แม่ไม่ได้มีอาการว่าต่อสู้ เอาชนะใด ๆ แค่สงบเย็น และส่งแววตาแห่งความเข้าใจ ความรัก ไม่ได้มีคำพูดตามหลักการทางจิตวิทยาใด ๆ อย่างที่แม่ดาวใช้ เขาแค่ใช้หัวใจสื่อสารกัน
+++
อยากแบ่งปัน เป็นความประทับใจที่อยากบอกต่อ
+++
หากเป็นภาพที่เห็นบ่อย ๆ คือ ลูกอาละวาด แม่ก็อาละวาดฟาดเสียงกลับ ลูกก็จะยิ่งแผดเสียงให้ดังสู้ สงครามน้อย ๆ ก็จะเกิดขึ้น เคยเห็นพอแม่ตีลูก ลูกก็ตีกลับ จากที่จะอายน้อยๆ ก็ต้องอายหนัก ผู้คนส่วนมากก็จะสนใจหันไปมองดู ต้องสูญเสียพลังงานและบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างกันอีก
+++
ดีกว่าไหม หากเราสงบใจได้ และใช้วิธีการบวกๆ ในการสื่อสารกับลูก
+++
ทุกคนทำได้ เชื่อตัวเองไหม ว่าคุณทำได้จริงๆ
+++
จากแม่คนหนึ่งซึ่งเคยคิดว่า ฉันไม่น่าจะทำได้ แต่ในที่สุดก็ทำได้แล้ว เราอาจไม่สามารถทำได้ทุกครั้ง แต่เราจะพัฒนาความสามารถนี้ไปเรื่อย ๆ หากเราทำไม่ทิ้ง ฝึกสมองและหัวใจไปด้วยกัน

หมายเลขบันทึก: 629537เขียนเมื่อ 9 มิถุนายน 2017 12:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2017 12:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท