ประวัติศาสตร์ประเทศลาวโดยสังเขป


ประวัติศาสตร์ประเทศลาวโดยสังเขป

ตามพงศาวดารลาว (เรื่อง การเกิดขึ้นของชนชาติลาว) กล่าวไว้ว่า ฟ้าคือที่สูงและอยู่เหนือโลกสิ่งที่เราเห็นบนฟ้าคือดาว คนลาวในบางท้องที่หรือคนจีนส่วนมากมักจะออกเสียงตัว "ด" เป็นตัว "ล" ด้วยเหตุนี้คำว่า " ดาว" จึงเปลี่ยนมาเป็น "ลาว" อันนี้ทำให้คนลาวถือว่าตนเป็นคนที่มาจากที่สูงอันมีชั้นฟ้าดาวดึงส์ เป็นต้น

การที่ลาวนับถือผีฟ้า,ผีแทน และผีไท้ ในยุคต่อมานั้น แสดงให้เห็นเป็นหลักฐานยืนยันว่าคนลาวเคารพนับถือบูชาบรรพบุรุษของตนที่จุติลงมาจากชั้นฟ้า ผู้ที่อาศัยอยู่ในชั้นฟ้าจะเรียกว่า "แถน" ด้วยเหตุนี้เชื้อพระวงศ์ของลาวในอดีตจึงมีชื่อว่า : ขุนผีฟ้าก็มี,แถนลอก็มี (คำว่า : "แถนลอ" ก็คือแถนลาว,พญาลาว และคำว่า "ไม้" แปลว่า เทพเจ้า ซึ่งเรามักเรียกว่า : เทพพระไท้นั้นเอง "คำว่าชนชาติลาวนั้นบางตำนานกล่าวว่าเกิดจากน้ำเต้าปุง อันนี้เป็นนิทานปะลำปะลาไม่มีหลักฐานมายืนยันที่น่าเชื่อถือได้"

ชนชาติลาวถือกำเนิดมาพร้อมกับชนชาติจีนซึ่งถือว่ามีความเก่าแก่ชาติหนึ่งในโลก ตามพงศาวดารจีนกล่าวไว้ว่าถิ่นฐานเดิมของชนชาติลาวตั้งอยู่บริเวณภูเขาอ้ายลาว ซึ่งอยู่ในเขตเมืองเฉฉวนของจีนในปัจจุบัน แม่น้ำในแถบที่อ้ายลาวต้องอยู่นั้นชื่อว่า "เก้าหลง" ซึ่งในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นกี้ลุ่งเกี้ยว แปลว่า : แม่น้ำนาคทั้งเก้า หมายความว่า ถิ่นฐานของชายทั้งเก้า ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของลาวเนื่องจากว่า ชาวลาวสือบสกุลมาจากนาค พวกคนลาวจึงนิยมถือนาคเพราะเหตุนั้นคนลาวจึงมักสักรูปนาคบนแขนและคนจีนเมืองเฉฉวนก็นิยมสักรูปมังกรบนแขน ด้วยเหตุผลอันเดียวกันนี้การที่เรารู้ว่าชนชาติลาวเคยมีความเจริญมาแล้วในอดีต ก็ย่อมว่า : มีบันทึกในพงศาวดารจีน,อาณาจักรเก่าแก่ของลาวในสมัยอ้ายลาวก็คือ อาณาจักรหมองแส ซึ่งจีนเรียกว่า "ตาลีฟู" อยู่ในเขตยูนานของจีน ในสมัยที่นครเพงายได้ตกเป็นเมืองขึ้นของจีน ชนชาติลาวส่วนใหญ่ได้พากันอพยพมาตั้งบ้านเรือนในเขตบริเวณหมองแส ในสมัยนั้นพวกจีนได้แตกออกเป็น 3 พวก ซึ่งเรียกว่า "สามก๊กใหญ่" คือ โจโฉ พวกหนึ่ง,ซุนกวน พวกหนึ่ง,เล่าปี่ พวกหนึ่ง ซึ่งในระยะที่จรนแตกแยกกันนี้ลาวได้ฉวยโอกาศตั้งตนสร้างบ้านแปรเมืองขึ้นได้ถึง 6 หัวเมือง คือ 1.เมืองมังชุ้ย ได้แก่เมืองสุย 2.เมืองเฮ้ยเช้ 3.เมืองล้านกง ได้แก่เมือง ล้านกุ้ง 4.เมืองเท้งเชี้ยง ได้แก่เมือง ท่งช้าง 5.เมืองชีล้าน คงจะเป็นเมืองเชียงล้าน 6.เมืองม้งเข้ ได้แก่ เมืองหมองแส

ในบรรดาหัวเมืองนี้หมองแสเป็นเมืองใหญ่และเป็นเมืองหลวงของประเทศ ด้วยเหตุนี้ประเทศอ้ายลาวในสมัยนั้นจึงมีชื่อว่า "อาณาจักรหมองแส" หรือ น่านเจ้า อาณาจักรหมองแสในสมัยนั้นประวัติศาสตร์จีนกล่าวว่า : ทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับประเทศชูลูฟานตีเบส-ทิศเหนือติดกับเมืองเรียวเจ้า-ทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับประเทศเก้าจี้หรือประเทศเวียดนาม-ทิศตะวันออกติดกับเมืองชุน แขวงกวยเจ้าของจีน-ทอศตะวันตกติดกับเมืองมอกาท้อ,เมืองมคธประเทศอินเดีย-ทิศใต้ติดกับเมืองมุ้ยหว่อง-ทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับเมืองพี้วและทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเมืองจีนหมู่

แสดงให้เห็นว่าอาณาจักรหมองแสเป็นอาณาจักรที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไฟศาลและเป็นรัฐเอกราชโดยไม่ขึ้นกับใคร พวกอ้ายลาวได้ตั้งตนเป็นเอกราชปกครองบ้านเมืองด้วยความสงบสุขเป็นเวลานานประมาณ 300 กว่าปี พอมาถึงค.ศ.225 ขงเบ้งแม่ทัพใหญ่ของจีนได้ยกทัพมาตีอาณาจักรหมองแส แคว้นหมองแสได้ทำการสู้รบหลายปีสุดท้ายก็ตกเป็นเมืองขึ้นของจีน ต่อจากนั้นพวกอ้ายลาวก็ถูกจีนเบียดเบียนกดขี่ข่มเหง จากนั้นก็ได้อพยพมาทางใต้เรื่อยๆ พอมาถึง ค.ศ.395 คนลาวที่อาศัยในเมืองทั้งหมดนั้นตั้งตัวเป็นอิสระอีก และได้ปกครองตนเองถึง ค.ศ.649 ได้มีกษัตริย์ลาวองค์หนึ่งนามว่า "สีหะนาละ" หรือ "สีนุโล" ซึ่งจีนเรียกว่า "เสียวโน่ล่อ" ได้รวมเมืองลาวเข้าด้วยกันเป็นรัฐเดี่ยว แต่นี้มาอาณาจักรหมองแสของลาวก็ได้รุ่งเรื่องขึ้นมาอีก

ความเป็นมาของอาณาจักรล้านช้างเกิดขึ้นในสมัยของเจ้าฟ้างุ่มที่ได้รวมอาณาจักรล้านช้างให็เป็นหนึ่งเดียวที่รุ่งเรื่องลือเลื่องที่สุด

ค.ศ.1893-1954 ประเทศลาวตกเป็นหัวเมืองขึ้นของจักรพรรดิฝรั่งเศส แผ่นดินอันกว้างขวางของอาณาจักรล้านช้างได้สูญเสียยังเหลือแต่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำจนเท่าปัจจุบัน ฝรั่งได้เอาลาวเข้าเป็นสหพันธรัฐอินโดจีน-ฝรั่งเศส และแบ่งเขตการปกครองเป็น 2 เขต

1.ประเทศอารักขา : เขตหลวงพระบางฝรั่งเศสได้รักษารูปแบบการปกครองเดิมไว้ ให้มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขรัฐแต่มีฝรั่งเศสเป็นที่ปรึกษา

2.ประเทศลาวเมืองขึ้น : บรรดาแขวงอื่นๆฝรั่งเศสปกครองโดยตรง

แปลจาก : https://lo.m.wikipedia.org/ປະຫວັດສາດລາວ สืบค้นเมื่อวันที่ 22/05/60

แปลโดย : จักรกฤษณ์ ศรีน้อย

อ้างอิง : ສົມຈິຕ ພັນລັກ. (2012) ພາສາລາວລ້ານຊ້າງ ກ່ອນປີ ພ.ສ 2478; ຄ.ສ 1935 ສະບັບຄົ້ນຄວ້າ. ສົມມະນາ ການພິມ ສປປ ລາວ.

หมายเลขบันทึก: 629244เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2017 19:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2017 20:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท