ในช่วงปลายของยุคที่ 3 กล่าวกันง่าย ๆ คือผู้คนเริ่มเบื่อสงครามแห่งความขัดแย้งกันจึงค้นหาที่พึ่งอื่นเพื่อความสุขในการดำเนินชีวิต ทำให้เกิดองค์การใหญ่ที่หลายประเทศต่างมารวมกลุ่มกันขึ้นเป็นการนับถอยหลังละทิ้งยุคที่ 3 เพื่อเข้าสู่ยุคต่อไป
ยุคที่ 4 เป็นยุคสงครามเย็นเป็นประดุจดังน้ำนิ่งแต่ไหลลึกก่อเกิดการรวมตัวของประเทศเล็ก ๆ กลายเป็นประเทศที่มีพลังอำนาจต่อกรได้กับประเทศอภิมหาอำนาจกล่าวคือในยุคที่ 4 นี้ก่อเกิดองค์การสหประชาชาติ แม้แต่ในประเทศไทยเองก็ก่อเกิดกลุ่มอาเซียนขึ้นมามีพลังคานอำนาจบางอย่างกับประเทศที่ทรงอำนาจ แต่ถามว่าสิ่งที่ดำเนินไปอยู่นี้ดีไหม ก็ต้องตอบว่าดีที่เดียวแต่ผลที่เกิดทับซ้อนขึ้นมาในยุคนี้คือเกิดมีเศรษฐีใหม่ขึ้นมาแบบรวยกระจุกแต่จนกระจายเกิดคนรวยคนจนที่ห่างชั้นกันมากมีการผูกขาดการทำมาหากินทำให้เกิดปัญหาทางชนชั้นมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้คนเริ่มค้นหาเส้นทางใหม่ในการดำเนินชีวิตจนมาค้นพบธุรกิจแบบใหม่อันเป็นจุดเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคใหม่ต่อไป
ยุคที่ 5 เป็นยุคไอที (IT= Information Technology ) คือยุคที่พวกเราอยู่กันในทุกวันนี้ทุกคนล้วนมีเครื่องมือสื่อสารกันมีข้อมูลอยู่ที่ปลายนิ้วกับมือถืออันเป็นเครื่องมือสื่อสารที่เร็วฉับไว มีข่าวสารอะไรรวมกลุ่มกันส่งเข้าไปในไลน์กลุ่มแล้วนัดพบกันได้อย่างรวดเร็วทันใจนั่นแล.
ไม่มีความเห็น