หนังสือ ปฏิรูปการศึกษาให้สำเร็จ บทเรียนแนวใหม่จากฟินแลนด์` ซึ่งแปลจากหนังสือ Finnish Lessons 2.0 โดย Pasi Sahlberg ผู้มีชื่อเสียงก้องโลก หน้า ๓๑ - ๓๒ บอกเราว่า ฟินแลนด์ตีความ “การศึกษาพิเศษ” แตกต่างจากประเทศอื่น
ประเทศไทยตีความตามอเมริกา ว่าหมายถึงการศึกษาสำหรับเด็กไม่ปกติ อาจไม่ปกติด้านบวกคือมีความสามารถพิเศษบางด้านหรือหลายด้าน และอาจไม่ปกติด้านลบ คือมีความยากลำบากในการเรียน
แต่ฟินแลนด์ตีความว่า เป็นการจัดการเรียนรู้แก่เด็กที่บางช่วง บางเรื่อง เรียนไม่ทันเพื่อน ผมเคยได้รับทราบตอนไปเยือนฟินแลนด์บอกว่า ร้อยละ ๗๐ ของนักเรียนฟินแลนด์เคยเข้ารับการช่วยเหลือจากระบบการศึกษาพิเศษ อ่านได้ ที่นี่
ในหนังสือปฏิรูปการศึกษาให้สำเร็จ บทเรียนแนวใหม่จากฟินแลนด์ หน้า ๗๐ ก็ระบุว่า “เกือบครึ่งหนึ่งของเด็กฟินแลนด์ที่จบการศึกษาภาคบังคับตอนอายุ ๑๖ ปี เคยผ่านการศึกษาพิเศษ เคยเข้ารับความช่วยเหลือที่จัดให้เฉพาะบุคคล หรือรับคำแนะแนวเป็นรายบุคคล ระหว่างศึกษาที่โรงเรียน”
ในหนังสือหน้า ๑๕๗ ระบุว่าในทุกโรงเรียนของฟินแลนด์ต้องมีครูการศึกษาพิเศษ พร้อมผู้ช่วยสอน เพราะเขานิยามการศึกษาพิเศษว่า เป็นการศึกษาที่จัดสำหรับเด็กทุกคน โดยมีสมมติฐานว่า มนุษย์ทุกคนในบางช่วงชีวิต หรือในบางเรื่อง ต้องการแรงสนับสนุนหรือความช่วยเหลือ เพื่อให้เคลื่อนไปข้างหน้าได้
เขาบอกว่า การศึกษาพิเศษของฟินแลนด์ต่างจากของประเทศอื่น ๓ ประการ คือ
เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะได้ตระหนักว่า ระบบการศึกษาพิเศษ/ช่วยเหลือพิเศษ เป็นตัวทดแทนการตกซ้ำชั้น ซึ่งจะมีผลให้ระบบการศึกษาของฟินแลนด์อยู่ในสภาพ “ลงทุนน้อย ได้ผลมาก” คือฟินแลนด์ลงทุนด้านการศึกษาร้อยละ ๖.๔ ของจีดีพี สหรัฐอเมริกาลงทุนร้อยละ ๖.๙ แต่ผลต่ำกว่าฟินแลนด์มาก ไทยลงทุนร้อยละ ๖.๔ คุณภาพต่ำ (๑) คือลงทุนมาก ได้ผลน้อย และมีกลิ่นไม่สะอาดในเรื่องคอร์รัปชั่นอยู่ในจุดต่างๆ ด้วย ทำให้ยิ่งยากต่อการพัฒนาคุณธรรมแก่เยาวชน
วิจารณ์ พานิช
๒ มี.ค. ๖๐
บนเครื่องบินไทยสมายส์ ไปอุดรธานี
ไม่มีความเห็น