ใช้ KM เป็นเครื่องมือประเมินผลงานวิจัย
เมื่อวันที่ ๒๘ มิ.ย. ๔๘ ผมได้เล่าเรื่อง “KM เรื่องความปลอดภัยด้านสารเคมี” รศ. สุชาตา e-mail ตอบมาว่าผมตอบไม่ตรงคำถาม เขาไม่ต้องการถามเรื่อง KM แต่ต้องการถามความเห็นว่า ผลงานวิจัยได้ทำหน้าที่เป็นฐานความรู้ (knowledge platform) สำหรับตอบคำถาม และสื่อสารสู่สาธารณะ เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านสารเคมีได้ดีแล้วหรือยัง
ผมไตร่ตรองแล้ว คิดว่าผมหรือคนนอกที่ไม่ได้คลุกคลีกับเรื่องความปลอดภัยจากสารเคมี ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ คนที่จะตอบคำถามนี้ได้ต้องเป็น “ผู้ปฏิบัติ”
จึงเกิดความคิดขึ้นว่า วิธีให้ “ผู้ปฏิบัติ” ประเมินผลงานวิจัยเชิงพัฒนา น่าจะใช้กระบวนการของ KM จึงลองเสนอความคิดนี้ดู เป็นการเสนอนวัตกรรมด้านการประยุกต์ใช้ KM จะใช้ได้ผลดีจริงหรือไม่ ผมไม่รับรอง
วิธีการที่ใช้ คือ AAR (After Action Review) ให้ “คุณกิจ” ที่เป็นผู้ร่วมโครงการ----- จากหน่วยงานต่างๆ มาประชุมร่วมกัน โดยจัดบรรยากาศของการประชุมให้เป็นอิสระ ให้ทุกคนพูดออกมาจากใจ สิ่งที่พูดออกมาไม่มีถูก-ผิด แต่เป็นสิ่งที่จะช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน นำไปสู่เป้าหมายใหญ่ของบ้านเมือง คือความปลอดภัยจากสารเคมี ให้แต่ละคนได้พูดหรือตอบคำถาม ๔ ข้อต่อไปนี้
1. เป้าหมาย (ของตนเอง) ในการเข้าร่วมโครงการนี้คืออะไร
2. มีส่วนใดบ้างของเป้าหมายดังกล่าวที่บรรลุผลมากกว่าที่คาดหมายไว้ เพราะอะไร
3. มีส่วนใดบ้างที่ไม่ค่อยบรรลุ หรือไม่บรรลุเลย เพราะอะไร
4. ถ้าจะมีการดำเนินการโครงการตามเป้าหมายเช่นนี้อีก ควรปรับปรุงอย่างไรบ้าง
คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ สกว. (อาจจะรวมทั้งคณะผู้วิจัย) รับฟังและบันทึกประเด็นไว้ใช้งาน ห้ามชี้แจงความเข้าใจผิด หรือถกเถียงโต้แย้ง ก็จะได้ผลการประเมินสำหรับนำไปใช้ปรับปรุงงานต่อไป
การประเมินแบบนี้ ไม่เหมาะสำหรับประเมินเพื่อให้คะแนน แต่เหมาะสำหรับประเมินเพื่อพัฒนางาน
วิจารณ์ พานิช
๒๙ มิ.ย. ๔๘
บนเครื่องบินไปหาดใหญ่