ตีมึน กรณี ธรรมกาย (๑)


ช่วงหลังมานี้ไม่มีอะไรบันทึกเก็บไว้ใน g2k เลย แต่ขณะนี้มีเรื่องหนึ่งที่เข้ามาอยู่ในความสนใจนอกเหนือจากงานที่ต้องสะสางสัปดาห์ต่อสัปดาห์ ตลอดถึงการไม่ได้ใช้ชีวิตคนเดียวเหมือนก่อน จึงทำให้มีหลายเรื่องเข้ามาให้ต้องปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิตกันใหม่ อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจว่า สุดท้ายก็คงเข้ารูปแบบเดิมของชีวิตคือ เคยดำรงชีวิตอย่างไรก็คงดำรงชีวิตอย่างนั้น เฉกเช่นสุภาษิตไทยที่ว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก

เรื่องที่เข้ามาอยู่ในความสนใจขณะนี้ และมักจะถูกถามจากคนรอบข้างคือ คิดอย่างไรกับกรณีที่เกิดขึ้นระหว่างรัฐกับสำนักวัดพระธรรมกาย คลองหลวง เดิมทีเดียวไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ แต่หลังจากมีการเสนอความเห็นในไลน์กลุ่มมากนัก จึงเริ่มติดตามข่าว นั่นแสดงว่า ผมกำลังตกเป็นเหยื่อของสื่อด้วยเช่นกัน ซึ่งในบางกลุ่มไลน์มีเพื่อนที่เป็นสื่อมวลชนอยู่ด้วย มีเพื่อนที่เป็นตำรวจ และเพื่อนที่อยู่ในเครือข่ายสำนักวัดพระธรรมกาย ต่างฝ่ายต่างให้มุมมองที่ระบุว่า ฝ่ายตนเท่านั้นถูกต้อง นอกจากนั้นหากเข้าไปอ่านความเห็นที่อยู่ใต้สื่อบน youtube และเว็บอื่นๆ จะพบความเห็นของผู้คนที่หลากหลายแบ่งเป็น ๑. ฝ่ายที่เห็นใจสำนักวัดพระธรรมกาย แบ่งเป็น ๑.๑ เห็นใจในบางกรณีโดยเฉพาะการใช้เจ้าหน้าที่จำนวนมากเพื่อค้นตัวเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายคลองหลวง กรณีดังกล่าวนี้ เกิดความรู้สึกลบต่อผู้นำและรัฐ ๑.๒ กลุ่มศาสนิกของสำนักวัดพระธรรมกาย ที่พยายามปกป้องในสิ่งที่ตนรัก คุ้นเคย และหวงแหน ๒. ฝ่ายที่ปฏิเสธสำนักวัดพระธรรมกาย แบ่งเป็น ๒.๑ กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะระดับผู้นำ (เช่น เพื่อนในกลุ่มไลน์) ที่มองว่าสำนักวัดพระธรรมกายมีปัญหา ๒.๒ กลุ่มผู้เสพสื่อ ที่มองว่า อย่างไรเสีย สำนักวัดพระธรรมกายโดยเจ้าอาวาส (พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) กระทำความผิด ๒.๓ กลุ่มผู้เชื่อมั่นในระบบกฎหมาย / อาจจะเชื่อในระบบกฎหมาย ซึ่งคือผู้เสพสื่อเช่นกัน ที่มองว่า เจ้าอาวาสสำนักวัดพระธรรมกายต้องออกมาแสดงตนเพื่อการดำเนินการตามกฎหมาย

สถานการณ์การเข้าบุกตรวจค้นเพื่อจับตัวเจ้าอาวาสสำนักวัดพระธรรมกาย คือช่วงเวลาเดียวกันกับการที่พระภิกษุสามเณรจะต้องไปสอบบาลีสนามหลวงที่วัดเขียนเขต (พระอารามหลวง) การเรียนภาษาบาลีของพระภิกษุสามเณร เป็นการเรียนตลอดปีเพื่อการสอบปีนั้น แต่เดิมหากสอบตกจะต้องไปเรียนใหม่และสอบใหม่ในปีถัดไป ปัจจุบันหากวิชาใดเมื่อสอบแล้วมีผลเป็นได้ และหากวิชาใดมีผลเป็นตก สามารถเก็บผลดังกล่าวไปสอบในปีถัดไปและส่วนวิชาที่ได้ไม่ต้องสอบใหม่ แต่ยังคงต้องเรียนซ้ำตลอดทั้งปี พระภิกษุสามเณรจะมีความมุ่งหวังในเรื่องดังกล่าวนี้มากคือ การสอบได้ ยิ่งสามเณรตัวเล็กอายุน้อยๆ มีความคาดหวังจะได้ประโยค ป.ธ.๙ ในอีก ๘-๙ ปีข้างหน้า เพื่อจะได้บวชเป็นนาคหลวง เป็นเกียรติทางสังคมแก่วัดและตระกูล (เกียรติดังกล่าวนี้ไม่น่าจะใช่เป้าหมายหลักของพุทธศาสนา แต่วัดทั่วประเทศก็มุ่งหวังเรื่องนี้) สถานการณ์การบุกเข้าตรวจค้นมีพระภิกษุสามเณรจำนวนหนึ่งไม่ได้ไปสอบบาลีสนามหลวง หากไม่มีการสอบใหม่จะหมายถึง พระภิกษุสามเณรเหล่านี้จะต้องเรียนซ้ำเพื่อไปสอบในปีถัดไป ชีวิตปุถุชนที่นุ่งห่มผ้าสีเหลืองแปลกจากชาวบ้านทั่วไป ต่างยังมีความอยากบางอย่างท่ามกลางสังคม ก็ต้องเดินไปตามกรอบที่แบบทางสังคมคาดหวัง

ภาพที่ปรากฎทางสื่อออนไลน์ มีทั้งภาพตัดต่อ ภาพจริง แต่ภาพดังกล่าวก็ไม่อาจระบุถึงความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายที่เป็นผู้ปฏิบัติการได้ ฝ่ายหนึ่งได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา หากไม่ทำ จะมีผลถึงความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ยิ่งเป็นกลุ่มปฏิบัติการที่มีพื้นเพมาจากภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือที่ค่อนข้างจะเคารพในบุคคลที่นุ่งห่มผ้าสีเหลือง ยิ่งลำบากใจต่อการกระทำดังกล่าว แต่ผู้ที่จะไม่ลำบากใจเลยคือกลุ่มที่ไม่ได้เห็นความสำคัญกับบุคคลที่นุ่งห่มผ้าสีเหลือง อีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายตรึงพื้นที่เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน สำหรับภาพตัดต่อ จำนวนหนึ่งเพื่อทำลายความเชื่อมั่นของอีกฝ่ายหนึ่ง ในด้านสื่อ หากสิ่งที่ปรากฎคือเวทีมวย ดูเหมือนมวยที่เป็นรองน่าจะเป็นฝ่ายของสำนักวัดพระธรรมกาย แต่มีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งมักชอบมวยคู่รอง อาจจะเพราะปฏิเสธระบบของรัฐแบบปัจจุบัน นอกจากนั้น มีผู้อาศัยสถานการณ์แอบเข้าข้างวัดพระธรรมกายเพียงเพราะถูกแย่งชิงอำนาจมาก่อนอยู่ด้วย

สิ่งที่น่าแปลกใจสำหรับคนมีศาสนาคือการอ้างว่า "ทำเพื่อศาสนา" ซึ่งทั้ง ๓ ฝ่ายมีคำอ้างเดียวกัน ในความเห็นของผมกับยุคใหม่นี้ คำบางคำอาจมีน้ำหนักเบามาก ไม่น่าจะนำมาอ้างได้อีก แต่คงห้ามไม่ได้หากเขาเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เขาอ้างนั้นเป็นสิ่งสูงสุดในชีวิตเขา เหตุที่เข้าใจว่าไม่ควรนำมาอ้างเพราะมีช่องว่างให้โต้แย้งพอสมควร อย่างข้ออ้างว่า "ทำเพื่อ...ศาสนา" เมื่อโต้แย้งว่า "ศาสนา...คืออะไร" ปรากฏว่า การตีความว่าสิ่งนี้คือ...ศาสนา ไม่อาจเป็นหนึ่งเดียวที่มีน้ำหนักร่วมกันได้ ข้ออ้างว่า "เมื่องนี้เป็นเมือง..ศาสนา" ในความเป็นจริงหากมีการตัดสินโดยตัวบท ข้ออ้างดังกล่าวจะใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีการระบุว่าข้ออ้างนั้นจริง ข้ออ้างว่า "อย่ากระทำต่อพระ" เราไม่อาจพิจารณาได้ว่า "ใครคือพระ" และทำไมถึงทำไม่ได้ ข้ออ้างว่า "บิดเบือนศาสนา" ก็อาจจะโดนโต้ด้วยข้อมูลอื่นเช่น ธุรกิจศาสนาที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ผมก็มึนกับเรื่องดังกล่าวนี้เช่นกัน ซึ่งพัวพันเกี่ยวโยงก่อนจะมาปรากฎให้สื่อได้มีงานทำ ขณะเดียวกัน มีทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจคือ "ทฤษฎีเบี่ยงเบียนสถานการณ์" (ผมคิดขึ้นเองตามปรากฎการณ์ที่พบในสังคม ส่วนฝรั่งเขาใช้อะไรผมไม่รู้ :-)) น่าจะถูกนำมาใช้ในเหตุการณ์นี้ด้วย นอกจากนั้น กระดานหมากรุกกระดานเขื่องนี้ จะมีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ หรือมิฉะนั้นก็แพ้ทั้งคู่ ส่วนผู้ที่ไม่แพ้ไม่ชนะจะมีอยู่กลุ่มเดียวกันคือ ผู้ไม่ได้มีส่วนในการเล่น อย่างไรก็ตาม หากผมมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้มีคุณต่อผมอย่างยิ่ง และร่างกายนี้เป็นเพียงสิ่งที่ผมอาศัยเพียงชั่วคราว มีความเป็นไปได้ที่ผมจะสละชีวิตเพื่อสิ่งที่ผมเชื่อมั่นบนสมองเล็กๆของผมที่คิดได้เท่านั้น เฉกเช่นนายทหารที่อุทิศชีวิตเพื่อชาติ ผมมีความคิดแผลงๆ (ภาษาปักษ์ใต้ใช้ในความหมายว่าเพี้ยนๆ แปลกๆ) ว่า ถ้าพระเณรทั้งหมดรับไม่ได้กับการละเมิดของหวงแหน ท่านเหล่านั้นพร้อมกันถอดผ้าสีเหลืองออกและนุ่งห่มเฉกเช่นชาวบ้านในคราวเดียวกัน พร้อมกับหันหลังให้กับสิ่งที่เขาไม่ได้เป็นเจ้าของ กลับบ้านไปประกอบอาชีพเดิมของตน และฝ่ายรัฐที่ได้รับคำสั่งมาซึ่งรับไม่ได้กับสถานการณ์ความขัดแย้งนั้น ลาออกจากอาชีพดังกล่าว ถ้าผมเป็นเจ้าของกระดานหมากรุก ผมก็คงจะมึนซ้ำซาก อย่างไรก็ตาม ผมห่วงใยพระภิกษุสามเณรที่เรียนหนังสืออันมากกว่าสิ่งอื่นใด ไม่รู้จะมีเอี่ยวคดีความมั่นคงต่อไปข้างหน้าหรือไม่

หมายเหตุ: โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และให้อ่านเพียงเพราะเป็นเรื่องเล่าเท่านั้น มิได้มีค่าแห่งความเป็นจริง

หมายเลขบันทึก: 624313เขียนเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2017 11:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2017 12:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท